Knowledge

เปิดแอร์ยังไงให้ประหยัดไฟ เย็นกายสบายกระเป๋า ทำได้ง่าย ๆ ด้วยสูตรนี้

Triumph 2020-07-20 09:33:55

 

ในปัจจุบัน เครื่องปรับอากาศหรือที่เรียกกันแบบติดปากว่าแอร์นั้น เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทุกบ้านต้องมีไปแล้วครับ ก็อากาศเมืองไทยร้อนซะขนาดนี้ ยิ่งช่วงหน้าร้อนบางปีอุณหภูมิในบ้านเราขึ้นไปถึง 40 องศาเซลเซียส จะให้ทนยังไงไหว ซึ่งบางคนอาจกังวลเรื่องค่าไฟที่จะสูงขึ้นแบบพรวดพราดเพราะเปิดแอร์ทั้งวัน ตอนแรกผมก็เครียดเรื่องค่าไฟเหมือนกันครับ แต่มันมีเทคนิคที่จะช่วยให้เราเปิดแอร์ได้แบบค่าไฟไม่พุ่งอยู่ ไปดูกันครับว่า เปิดแอร์ให้เย็นทั้งกาย สบายทั้งกระเป๋า ต้องทำยังไง 

 

เลือกขนาดแอร์ให้เหมาะกับขนาดห้อง

ขนาดของแอร์เป็นประเด็นแรกที่ผมอยากให้ทุกคนใส่ใจ เคยเห็นเวลาเค้าโฆษณาแอร์มั้ยครับ เค้าจะบอกหน่วย BTU มาด้วย ซึ่งเจ้าหน่วยนี้แหละเอาไว้คำนวณหาขนาดแอร์ที่เหมาะสมกับขนาดของห้องครับ สมมติถ้าเอาแอร์ตัวเล็กไปติดในห้องรับแขกที่พื้นที่กว้างและโดนแดดทั้งวัน แอร์ก็จะทำงานหนักและกินไฟแบบมหาศาลเลยครับ ถ้าอยากรู้ว่าห้องขนาดไหนต้องใช้แอร์กี่ BTU ก็ดูได้ตามนี้เลย

ขอบคุณภาพจาก teddyaircond.com

 

27 องศาเซลเซียส

การเปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 27 องศาเซลเซียสนั้นช่วยให้ประหยัดไฟได้จริงครับ นั่นเป็นเพราะว่าคอมเพรสเซอร์แอร์จะทำงานหนักขึ้นเมื่อเราเปิดแอร์อุณหภูมิต่ำลง แต่ถ้าเราเลือกอุณหภูมิสูงขึ้นมาหน่อย ประมาณ 27 องศาฯ ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่กำลังเย็นสบาย ก็จะช่วยให้คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงานน้อยลง แต่ถ้ายังเย็นไม่พอก็สามารถเปิดพัดลมช่วยได้อีกแรงนะ พัดลมกินไฟน้อยกว่าแอร์เป็นสิบเท่าครับ ไม่ต้องห่วง

ขอบคุณภาพจาก tnews.co.th

 

ติดฟิล์ม-ม่านกันแดด

หากหวังพึ่งแอร์อย่างเดียวคงไม่ดีเท่าไหร่เพราะค่าไฟจะพุ่งแบบแรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ ดังนั้นเราจึงต้องทำอย่างอื่นเพื่อช่วยลดอุณหภูมิในห้องด้วยครับ อย่างการติดฟิล์มกันความร้อนที่หน้าต่าง ผนัง หรือประตูที่เป็นกระจก และติดผ้าม่านกันแดดอีกชั้นหนึ่งก็จะช่วยลดอุณหภูมิภายในห้องได้ พออุณหภูมิในห้องต่ำลง แอร์ก็จะเย็นเร็วขึ้น คอมแอร์ก็จะทำงานน้อยลงนั่นเอง

 

ฉนวนกันความร้อนช่วยได้

ฉนวนกันความร้อนหรือ Staycool เป็นวัสดุกันความร้อนที่กำลังได้รับความนิยมมากเลยครับ เจ้าอุปกรณ์ชนิดนี้จะถูกปูไว้บริเวณใต้ฝ้าเพดานเพื่อช่วยสะท้อนความร้อนที่จะเข้ามาสู่บ้านของเรา ซึ่งความร้อนที่ลงมาจากหลังคานี่มีผลไม่แพ้ความร้อนที่มาจากกำแพงบ้านเลยนะครับ หากลดความร้อนที่แผ่เข้ามาในตัวบ้านจากบนฝ้าเพดานได้ แอร์ก็จะทำงานน้อยลง ค่าไฟก็จะถูกลงครับ

ขอบคุณภาพจาก topinsulation.com

 

ความชื้นในห้องก็ต้องรู้

การทำงานของแอร์นั้นจะแบ่งเป็น 2 ส่วนครับ ส่วนหนึ่งคือการลดอุณหภูมิในห้องให้ต่ำลง อีกส่วนหนึ่งคือการลดความชื้นในห้องครับ ถ้าในห้องมีความชื้นมากคอมเพรสเซอร์แอร์ก็จะทำงานหนักขึ้น ดังนั้นเราควรหลีกเลี่ยงการกระทำหรือสิ่งของที่เพิ่มความชื้นในห้อง เช่น ตากผ้า เลี้ยงปลา เป็นต้น ส่วนถ้าใครอยากปลูกต้นไม้ ก็ให้เลือกต้นไม้ฟอกอากาศติดห้องไว้บ้างก็ได้ครับ   

ขอบคุณภาพจาก ร้านล้างแอร์.com

 

ลดการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด

เครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิดอาจเป็นตัวเพิ่มอุณหภูมิภายในห้องเราแบบไม่รู้ตัวนะครับ เช่น เตารีด ไมโครเวฟ กาน้ำร้อน ไดร์เป่าผม เป็นต้น สังเกตง่าย ๆ พวกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีขดลวดความร้อน สามารถเพิ่มอุณหภูมิได้ภายในเวลาสั้น ๆ นั่นล่ะครับ เปิดใช้แปปเดียวก็รู้สึกเลยว่าอุณหภูมิในห้องสูงขึ้น ซึ่งแอร์ก็จะทำงานทันทีเพื่อลดอุณหภูมิให้กลับมาเย็นเหมือนเดิม

ขอบคุณภาพจาก Sanook.com

 

ล้างแผ่นกรอง ล้างแอร์ประจำ

แผ่นกรองแอร์เป็นจุดสำคัญที่จะเป็นตัวบอกเลยว่าแอร์เราจะเย็นช้า เย็นเร็ว และกินไฟเพิ่มขึ้นแค่ไหน เพราะแผ่นกรองจะทำหน้าที่กรองฝุ่น เศษผง และสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ช่วยให้อากาศภายในห้องสะอาดขึ้น ซึ่งก็แน่นอนว่าหลังจากผ่านการใช้งานไปสักระยะ เจ้าแผ่นกรองนี่ก็จะเริ่มตันและทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะฝุ่นที่มันดักจับไว้ ดังนั้นเราควรถอดเจ้าแผ่นกรองแอร์ออกมาทำความสะอาดบ้างครับ ปีละ 1-2 ครั้งก็ถือว่าโอเคแล้ว

 

ส่วนการล้างแอร์ก็จำเป็นไม่แพ้แผ่นกรองเลยครับ บางคนอาจไม่กล้าถอดแผ่นกรองออกมาล้างเอง ก็จ้างช่างล้างแอร์ไปเลยก็ได้ครับเค้าจัดการให้หมดอยู่แล้ว และการล้างแอร์ยังเหมือนเป็นการเช็คสภาพไปในตัวด้วยว่ามีส่วนไหนชำรุดเสียหายหรือเปล่า จะได้ซ่อมแซมได้ทันท่วงที

ขอบคุณภาพจาก bestreview.asia

 

เปิดระบายลมร้อน-ปิดก่อนเวลา

อีกเทคนิคหนึ่งที่ช่วยให้แอร์เย็นเร็วขึ้นและประหยัดไฟมากกว่าเดิม นั่นก็คือ ก่อนจะเปิดแอร์ให้เราระบายความร้อนในห้องออกก่อนครับ เปิดหน้าต่าง ประตู พัดลม ไล่อากาศร้อนในบ้านออกไป พอห้องหายร้อนอบอ้าวแล้วค่อยเปิดแอร์ และให้เราปิดแอร์ก่อนเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครับ อย่างถ้าเราจะออกจากบ้านตอน 6 โมงเย็น ก็ให้ปิดแอร์ตั้งแต่ 5 โมงเย็นเลย หรือถ้าเปิดตอนนอนก็ตั้งเวลาให้แอร์ปิดตอนตี 3 เพราะหลังจากปิดแอร์ไปแล้ว ความเย็นมันจะยังตกค้างอยู่อีกเป็นชั่วโมงครัง เปิดพัดลมเบา ๆ ก็เย็นสบายแล้ว 

 

ยุคนี้เป็นยุคที่หลายคนหาทางลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง แต่อากาศร้อนบางทีมันก็เกินทนเหมือนกัน ทีนี้ก็ไม่ต้องกลัวค่าไฟพุ่งเพราะเปิดแอร์อีกต่อไป เพราะด้วยสูตรลับเหล่านี้จะช่วยให้เราเปิดแอร์ได้เย็นฉ่ำแต่ค่าไฟไม่พุ่งเป็นท่อประปาแตกแล้ววววว อย่าลืมลองนำไปใช้กับที่บ้านดูนะครับ แล้วจะเห็นว่าแค่เทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้แหละ ช่วยลดค่าใช้จ่าย แถมบ้านเย็นสบายได้จริง ๆ 

 

อ่านอะไรต่อดี ?

แอร์บ้านแต่ละประเภท แตกต่างกันยังไง?

ตำแหน่งติดตั้งแอร์ ที่เหมาะสม ช่วยให้ห้องเย็นสบาย

รวม 6 ปัญหาแอร์ภายในบ้านหรือคอนโดที่ทุกคนต้องเจอ

 

>> ช่องทางในการติดตามข่าวสาร <<
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @livinginsider ที่นี่

Article Other

livinginsider livinginsider