รีวิวการใช้งานจริง เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย “Dyson Omni-glide” จิ๋วแต่เจ๋งจริง หัวดูด 360 องศา จะแคบจะลึกแค่ไหนก็สะอาดหมดจดจนไม่เหลือ

เป็นอันรู้กันดีว่าหากพูดถึงเครื่องดูดฝุ่น โดยเฉพาะเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย แบรนด์ดังระดับโลกอย่าง “Dyson” จะต้องติดชาร์จอันดับต้นๆ ในใจของทุกคนแน่นอน เพราะด้วยการออกแบบดีไซน์ที่ทันสมัย เรียบหรูดูดี และที่สำคัญคือการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดอยู่ตลอด จึงไม่แปลกถ้าจะเป็นที่นิยม และตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว 

ล่าสุด “Dyson” จึงได้ออกผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ “Dyson Omni-glide” เครื่องดูดฝุ่นไร้สายจิ๋วแต่เจ๋ง พาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ในการทำความสะอาด ที่จะช่วยให้การทำงานบ้านไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป

ความโดดเด่นของเครื่องดูดฝุ่นไร้สายรุ่นนี้ คือความกะทัดรัด และอุปกรณ์สามารถถอดประกอบได้ทุกชิ้นส่วน ซึ่งพอประกอบท่อดูดเข้ากับด้ามจับ จะมีความสูงแค่ประมาณ 107.7 ซม. และมีน้ำหนักเพียง 1.9 กิโลกรัม ทำให้เราไม่ต้องแบกรับน้ำหนักจากการดูดฝุ่น เพราะตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาสามารถถือถนัดมือเดินทำความสะอาดได้แบบชิลๆ สบายๆ

ขณะเดียวกันประสิทธิภาพในการทำงานยังคงเต็มเปี่ยม สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอนได้ 99.99% และมีระบบการกรอง 5 ชั้น เพื่อกรองอากาศบริสุทธิ์ออกมาจากเครื่อง พร้อมกับตัวมอเตอร์ Dyson Hyperdymium ที่หมุนได้สูงถึง 105,000 รอบต่อนาที 

และด้วยการดีไซน์รูปแบบอินไลน์ใหม่ ให้มีระบบจัดวางแยกตัวมอเตอร์ ตัวกรอง และด้ามจับให้อยู่ในแนวเดียวกันทั้งหมด เพื่อให้เครื่องสามารถวางราบกับพื้น และทำความสะอาดในพื้นที่แคบได้ล้ำลึก เราเลยหมดห่วงไม่ต้องกังวลว่าแม้ “Dyson Omni-glide” จะมีขนาดเล็กแต่ความเจ๋งของเจ้าตัวนี้คือเกินเบอร์คุณภาพจัดเต็ม

แต่แค่นั้นยังไม่พอเพิ่มเติมความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร ด้วยไอเท็มสำคัญ ได้แก่ “หัวดูด Omnidirectional Fluffy” หัวดูดฟลัฟฟี่แบบคู่สไตล์ใหม่ เป็นหัวทำความสะอาดขนนุ่ม ซึ่งติดตั้งอยู่บนล้อหมุนแบบ 360 องศา คือสามารถควบคุมการเคลื่อนที่ได้รอบทิศทาง อยากจะกลิ้งไปข้างหน้า ข้างหลัง หรือด้านข้างก็ทำได้ทั้งนั้น

ยิ่งตามพื้นที่แคบนะบอกเลยว่าสะดวกมาก ไม่ต้องคอยย้ายเฟอร์นิเจอร์ให้เหนื่อย แค่วางราบกับพื้นและดูดเข้าไปตรงใต้โซฟาใต้ตู้ หรือตามซอกมุมที่เข้าถึงยากก็ทำได้อย่างง่ายดาย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเศษผงหรือเศษขยะชิ้นเล็ก ก็กำจัดได้เรียบสะอาดหมดจด คือใครมีพื้นที่ข้างใต้เฟอร์นิเจอร์เยอะ ต้องเลิฟตัวนี้ชัวร์

นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์หัวดูดเสริมอื่นๆ มาให้อีก 3 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็น หัวดูดมอเตอร์ขนาดเล็ก เหมาะอย่างมากกับการดูดบนที่นอน โซฟา พรม สามารถดูดไรฝุ่นหรือขนสัตว์ได้เกลี้ยง ถัดมาหัวดูดพื้นผิว และหัวดูด 2 in 1 ที่มีทั้งแบบปากแคบพร้อมขนแปรง จะทำความสะอาดในรถ บนเพดาน ก็เลือกใช้งานได้ตามต้องการ

ขณะเดียวกันก็มีการปรับเปลี่ยน วิธีการเปิดปิดเครื่อง จากรุ่นอื่นที่เวลาใช้งานจะเป็นตัวกดทริกเกอร์ต้องกดค้างไว้ตลอดเวลา ก็ออกแบบให้เป็นปุ่มคลาสสิกแทน โดยมี 2 ปุ่ม คือ ปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง และปุ่มเลือกโหมดระดับความแรงแบบ Eco และ Max ซึ่งทำให้ผู้ใช้สลับมือขณะดูดฝุ่นได้โดยที่เครื่องไม่ต้องหยุดทำงาน 

และยังคงคอนเซ็ปต์ของ ถังเก็บฝุ่น ด้วยการดีดออกพร้อมตัวจับแบบหมุน ช่วยให้เทฝุ่นออกเพียงครั้งเดียว ส่วนปลอกซิลิโคนผ้าห่อตาข่าย มีไว้เพื่อไม่ทำให้มือสกปรกเปื้อนฝุ่นตอนเทออก และเมื่อเราอยากทำความสะอาดก็ไม่ต้องกลัวพัง เพราะสามารถล้างถัง ตัวกรอง แถบแปรง และเครื่องมือต่างๆ ได้หมด แต่อย่าลืมไปตากหรือเช็ดให้แห้งด้วยนะ

สำหรับระยะเวลาในการใช้งานนั้น โหมด Eco สามารถใช้ได้นานสุด 20 นาที เมื่อใช้หัวดูดแบบไม่มีมอเตอร์ แต่ถ้าใช้หัวดูดแบบมีมอเตอร์จะใช้งานได้นานสุด 18 นาที และโหมด Max จะใช้งานได้ 5 นาที เมื่อใช้หัวดูดทั้งแบบมีและไม่มีมอเตอร์ 

ทั้งนี้ระยะเวลาในการชาร์จแบตจะอยู่ประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่ง “Dyson Omni-glide” ได้ให้แท่นชาร์จติดผนังมาเรียบร้อย พอวางเครื่องก็สามารถชาร์จแบตได้ทันที รวมทั้งช่วยให้เครื่องดูดฝุ่นถูกวางไว้อย่างเป็นระเบียบ ส่วนตัวแบตเตอรี่ ผู้ใช้สามารถถอดเปลี่ยนได้โดยง่ายอีกด้วย 

ทั้งหมดนี้จัดมาให้ในราคา 15,900 บาท ตอบรับไลฟ์สไตล์คนเมืองที่อาศัยอยู่ในคอนโด หรือทาวน์โฮมที่มีขนาดพื้นที่ไม่มาก แต่ความเป็นจริงแล้วยังเหมาะกับคนที่ชอบทำความสะอาดบ้านเป็นประจำในทุกๆ วันได้เหมือนกัน รับรองว่าลูกเล่นต่างๆ และคุณภาพจัดเต็มพร้อมใช้งานได้จริงของ “Dyson Omni-glide” จะทำให้ทุกคนชื่นชอบได้ไม่ยากเลย

โดยมีวางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่ Dyson.co.th และร้าน Dyson Demo ที่เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลลาดพร้าว สยามพารากอน และไอคอนสยาม