บางกอกแลนด์ปลื้ม

บางกอกแลนด์ปลื้มโครงการคอมมูนิตี้ มอลล์แห่งแรก "บีไฮฟ" ทราฟฟิกเติบโตปีละ 10% หลังเปิดบริการ 2 ปี เล็งเป็นสปริงบอร์ดต่อยอดโครงการรีเทลขนาดใหญ่ในเมืองทองธานี แผนปี 2560 ออฟฟิศ-รีเทล-โรงแรมพร้อมเปิดใช้ 3 โครงการ ด้านธุรกิจศูนย์แสดงสินค้า "อิมแพค" ทรงตัววอนรัฐบาลส่งเสริม

นางสาวกุลวดี จินตวร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีแลนด์ เปิดเผยว่า โครงการคอมมูนิตี้ มอลล์ "บีไฮฟ ไลฟ์สไตล์มอลล์" ภายในพื้นที่เมืองทองธานี ที่บริษัทลงทุนมูลค่า 800 ล้านบาท พัฒนามาแล้วกว่า 2 ปี ปัจจุบันได้รับผลตอบรับที่ดี มีทราฟฟิกผู้เข้าใช้บริการในโครงการรอบปีที่ 2 (เดือนก.ย.58-ส.ค.59) กว่า 1.4 ล้านคน หรือ 4,500 คนต่อวัน เติบโต 10% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน รวมทั้งยูนิตร้านค้า 97 ยูนิตของโครงการมีผู้เช่าเต็ม 100%

"ที่นี่เป็นไลฟ์สไตล์มอลล์แห่งแรกของบีแลนด์ ถือว่าเป็นการทดลองพัฒนาพื้นที่รีเทลอย่างจริงจัง จากนี้เราจะสร้างอีเวนต์เพื่อดึงดูดทราฟฟิกผู้ใช้บริการเข้ามาเพิ่ม 10% ต่อปีสม่ำเสมอ เพราะจุดประสงค์หลักคือบริษัทต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับร้านค้าผู้เช่า เพื่อเป็นสปริงบอร์ดต่อยอดเมื่อบีแลนด์จะพัฒนาโครงการรีเทลขนาดใหญ่ขึ้นภายในเมืองทองธานี" นางสาวกุลวดีกล่าว

โดยโครงการบีไฮฟ ไลฟ์สไตล์มอลล์ เป็นอาคารโลว์ไรส์ 2 ชั้นดีไซน์รูปรวงผึ้ง ตั้งอยู่ภายในเมืองทองธานี มีร้านค้าต่างๆ อาทิ ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต, ร้านอาหาร, ร้านกาแฟ, เสริมสวย, ฟิตเนส ฯลฯ มีที่จอดรถ 600 คัน ตอบรับผู้ใช้บริการทั้งในละแวกเมืองทองธานีและถ.แจ้งวัฒนะ เป็นลูกค้าระดับบีบวกขึ้นไป

นางสาวกุลวดีกล่าวว่า สำหรับปี 2560 บริษัทจะเริ่มดำเนินการโครงการ 3 แห่งที่ใกล้ก่อสร้างและตกแต่งแล้วเสร็จ ได้แก่ 1.สำนักงานให้เช่า คอสโม ออฟฟิศ พาร์ค สูง 11 ชั้น พื้นที่เช่า 5 หมื่นตร.ม. ลงทุนรีโนเวตอาคารเดิม 800 ล้านบาท ราคาค่าเช่า 400-500 บาท/ตร.ม. มียอดจองแล้ว 50% ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่ต้องการแยกสาขาด้านไอทีซัพพอร์ต ศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ โลจิสติกส์ จะเปิดบริการเดือนมี.ค.60

2.อาคารจอดรถและรีเทล บาซาร์ คอสโม มูลค่าลงทุน 800 ล้านบาท เป็นพื้นที่จอดรถกว่า 2,000 คัน และด้านล่างเป็นพื้นที่รีเทลขนาด 7,000 ตร.ม. เปิดบริการเดือนพ.ค.-ก.ค.60 3.โรงแรมไอบิส อิมแพค แบงคอก มูลค่าลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท ขนาดประมาณ 600 ห้อง ดำเนินการโดยเครือแอคคอร์ จะเปิดบริการเดือนมี.ค.60

ส่วนแผนการลงทุนเพิ่มเติมในอนาคตบนพื้นที่กว่า 700 ไร่ในเมืองทองธานีนั้นยังอยู่ระหว่างการศึกษาความต้องการตลาด เบื้องต้นต้องการตอบสนองผู้อยู่อาศัยและทำงานในเมืองทองฯ ผู้จัดและเข้าร่วมงานในศูนย์แสดงสินค้าอิมแพค เมืองทองธานี และดึงดูดกำลังซื้อจากถ.แจ้งวัฒนะ เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นสวนน้ำ ที่เป็นแม่เหล็กหนึ่งในการดึงดูดคนเข้ามาใช้บริการ แต่ต้องการพัฒนาโครงการอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย เช่น ช็อปปิ้งมอลล์ ซึ่งยังไม่ตัดสินใจแน่ชัดทั้งรูปแบบและขนาดโครงการ

ด้านธุรกิจศูนย์แสดงสินค้า อิมแพคฯ ปี 2558 ทำรายได้กว่า 2,100 ล้านบาท (ไม่รวมรายได้จากพื้นที่รีเทล) คาดว่าปีนี้จะเติบโตประมาณ 3-5% ถือว่าธุรกิจค่อนข้างทรงตัว โดยงานจัดแสดงสินค้า (Exhibition) ค่อนข้างสม่ำเสมอ 800-1,000 งานต่อปี แต่บริษัทมองว่าทิศทางธุรกิจต้องดึงดูดงานกลุ่มการจัดประชุมและจัดเลี้ยง (Convention and Banquet) ให้มากขึ้น ซึ่งส่วนนี้เป็นกลุ่มที่ลดลงบ้างในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา คาดว่าเกิดจากเศรษฐกิจค่อนข้างซบเซาทำให้ภาคเอกชนรัดเข็มขัดค่าใช้จ่าย

“จนถึงปี 2560 คาดว่าธุรกิจศูนย์แสดงสินค้าน่าจะยังโตช้าๆ 3-5% เช่นเดิม มองว่าขณะนี้รัฐบาลสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวอย่างมาก หากเป็นไปได้ต้องการให้ส่งเสริมธุรกิจไมซ์ การจัดประชุมนานาชาติด้วย อุตสาหกรรมนี้น่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจคู่กับการท่องเที่ยวได้” นางสาวกุลวดีกล่าว

ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1474796143