อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ผงาดทำกำไรไตรมาส 3/2562 สุดพีค พุ่งแรง 58% รับยอดขายเฟอร์นิเจอร์ Younique Customized Furniture 4.0

‘บมจ.อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์’ โชว์ฟอร์มกำไรไตรมาส 3/62 พุ่งแรงเป็น 166 ล้านบาท เติบโต 58% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเปลี่ยนแปลงส่วนผสมสินค้า (Product Mix) ขณะที่เฟอร์นิเจอร์สั่งตัดแบรนด์ ‘Younique Customized Furniture 4.0’ ยอดพุ่งฉลุย แถมรับอานิสงส์จากอัตราเช่าพื้นที่ค้าปลีก (Occupancy Rate) เพิ่มสูงขึ้น

รวมถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายการขายและบริหารดีขึ้น โดยกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกทำได้ 455 ล้านบาท ขยายตัวก้าวกระโดด 48% พร้อมเดินหน้าขยายสาขาในไทยและรุกขยายแฟรนไชส์ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง   

นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM ผู้นำธุรกิจร้านค้าปลีกของตกแต่งบ้านครบวงจร เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2562 เป็นไตรมาสที่สามารถสร้างผลกำไรเติบโตอย่างก้าวกระโดดอีกครั้งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีขีดความสามารถการทำกำไรที่ปรับตัวดีอย่างโดดเด่น หลังจากได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ

ซึ่งส่งผลให้ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาบริษัทฯ มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 166 ล้านบาท เติบโตขึ้น 58% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 105 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากการดำเนินงานในไตรมาสที่ผ่านมา อยู่ที่ 2,421 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 2,347 ล้านบาท เนื่องจากการเติบโตทั้งจากรายได้จากการขายสินค้า และรายได้จากการให้เช่าและบริการ จากการเปิดสาขาใหม่ รวมถึงการเติบโตอย่างโดดเด่นของเฟอร์นิเจอร์สั่งตัดแบรนด์ ‘Younique Customized Furniture 4.0’ ยอดขายออนไลน์ และการเติบโตของยอดขายโครงการในประเทศ แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน

สำหรับผลกำไรสุทธิที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากเป็นผลมาจากส่วนผสมสินค้า (Product Mix) ที่มีสัดส่วนการขายเฟอร์นิเจอร์ที่มีอัตรากำไรสูงเพิ่มขึ้น ขณะที่กลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์ภายใต้ภายใต้แบรนด์ Younique Customized Furniture 4.0 ซึ่งเป็นเฟอร์นิเจอร์แบบสั่งตัดด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย และมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์กลุ่มอื่น ๆ ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี รวมถึงมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ ที่มีอัตรากำไรสูงขึ้น

ขณะเดียวกัน ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เดินกลยุทธ์มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมอัตราค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ต่อรายได้จากการดำเนินงานได้ดียิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการส่งเสริมการลงทุนโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)

นางสาวกฤษชนก กล่าวว่า จากผลกำไรไตรมาส 3 ที่ผ่านมาที่ปรับตัวดีขึ้น เป็นผลให้ภาพรวมการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 มีการเติบโตในทิศทางเดียวกัน โดยทำกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 455 ล้านบาท เติบโต 48% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 307 ล้านบาท ซึ่งเกิดจาก ยอดขายสินค้า Younique Customized Furniture 4.0 ที่มีอัตรากำไรสูงเพิ่มขึ้น การออกสินค้าใหม่ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น

รวมถึงการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก BOI ขณะที่รายได้จากการดำเนินงาน 9 เดือนของปีนี้อยู่ที่ 7,242 ล้านบาท แม้ว่าเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ยอดขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ถือว่ามีอัตราเติบโตแบบก้าวกระโดดมากกว่า 160% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมถึงการเติบโตอย่างโดดเด่นของเฟอร์นิเจอร์สั่งตัดแบรนด์ ‘Younique Customized Furniture 4.0’ และการเติบโตของยอดขายโครงการในประเทศ

“ถือว่าเราสามารถทำผลงานไตรมาส 3 ที่ผ่านมาได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ค่อนข้างมาก ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง โดยสามารถเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นและควบคุมอัตราค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น จึงเห็นผลจากตัวเลขกำไรไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ที่มีอัตราเติบโตอย่างมากจากช่วงเดียวกันของปีก่อน” นางสาวกฤษชนกกล่าว

นางสาวกฤษชนก กล่าวว่า หลังจากเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ  แผนการดำเนินงานของบริษัทฯ ยังคงมองหาทำเลที่มีศักยภาพเพื่อศึกษาโอกาสการลงทุนขยายสาขาอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ รวมถึงการขยายสาขา Younique Customized Furniture 4.0 ภายในอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ อย่างต่อเนื่องจาก ณ สิ้นไตรมาส 3/2562 ที่มีทั้งสิ้น 10 สาขา เพื่อนำเสนอเฟอร์นิเจอร์แบบสั่งตัดที่เป็นการนำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีมาผนวกเข้ากับการผลิตเฟอร์นิเจอร์แบบบิลท์อินให้แก่ผู้บริโภค  

ส่วนการเปิดร้าน WINNER แบบสแตนอโลน ซึ่งเป็นโมเดลขยายสาขารูปแบบใหม่ ที่บริษัทฯ ลงทุนและบริหารร้านจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์เอง (COCO) โดยมีแผนขยายสาขาเพิ่มเติมอีกในอนาคต หลังจากเปิดบริการสาขาแรกแล้วในจังหวัดราชบุรีเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อกระจายการลงทุนในจังหวัดหัวเมืองรอง นอกจากนี้จะขยายธุรกิจในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องภายใต้รูปแบบการให้สิทธิแฟรนไชส์ โดยมีแผนเปิดให้บริการอีก 1 สาขาในประเทศเวียดนาม หลังจากเปิดบริการสาขาแรกเป็นที่เรียบร้อยเมื่อ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา