Home
ใช้เวลาเพียง 8 ปีในการเบียดแทรกเข้าสู่ทำเนียบท็อป 5 วงการอสังหาริมทรัพย์เมืองไทย ถือว่าเร็วมากจนเหมือนขึ้นทางลัดก็ว่าได้
ล่าสุด “พีระพงศ์ จรูญเอก” CEO วัย 41 ปี บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) รับเชิญขึ้นเวทีเสวนาพูดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในหัวข้อ “Passion to Profit พลิกมุมคิด สร้างธุรกิจให้ติดลม” จัดโดยหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา
จาก พนง.สู่ผู้บริหารมือโปร
“หลายคนบอกว่าทำไมถึงโตเร็ว จุดเด่นออริจิ้นฯเรื่องหนึ่งคือ การบริหารวิศวกรรมการเงินเป็นเรื่องสำคัญ”
ขยายความคำว่าโตเร็วมีที่มาจากพอร์ตโครงการสะสม ตั้งแต่ปี 2553-2560 (รวมโครงการเตรียมเปิดตัวใหม่ถึงสิ้นปีนี้) รวม 46 โครงการ 17,000 กว่าหน่วย มูลค่ารวมเฉียด 50,000 ล้านบาท โดยมีทุนจดทะเบียนบริษัท 1,000 ล้านบาท
“คุณสมบัตินักพัฒนาที่ดีต้องมีที่ดินและมีเงิน แต่ผมไม่มีทั้ง 2 อย่าง ผมมีแค่องค์ความรู้และความชอบ อยากทำ”
สารตั้งต้นเมื่อ 8 ปีก่อนเริ่มด้วยทุนประเดิมของตัวเอง 5 แสน กับเรี่ยไรเงินครอบครัวมาสมทบเป็น 1-2 ล้านเพื่อมัดจำที่ดิน จนกลายเป็นบริษัทออริจิ้นฯในวันนี้
นั่นหมายความว่าจุดเด่นสำคัญยิ่งกว่าคือ ต้องมีแพสชั่นด้วย “…passion คือทำอสังหาฯแล้วเราลุ่มหลงมัน เวลาทำธุรกิจแล้วลุ่มหลงมัน เป็นแรงขับเคลื่อนในตัวเรา” สิ่งที่บอกกับตัวเอง ณ นาทีนี้คือ property development is my passion
“เวลาบอกคนอื่นถึงเป้าหมายก่อนเราเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ (7 ตุลาคม 2558) ออริจิ้นฯจะเป็นอันดับ 5 ของตลาดคอนโดฯ วันนี้ทำได้แล้ว”
เป้าหมายต่อไปคือ “เราบอกกับทุกคน ออริจิ้นฯจะเป็นท็อป 3 ภายใน 5-10 ปี คนฟังก็หัวเราะ เราเก็บไว้ในใจของเรา ผมชอบทำอะไรที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ มันสะใจดี รู้สึกเอาชนะตัวเอง”
เปิดอาณาจักรออริจิ้นฯ
ปัจจุบัน บริษัทประกาศตัวเป็นหนึ่งในผู้นำคอนโดฯทำเลแนวรถไฟฟ้า สื่อสารกับผู้บริโภคผ่าน 4 แบรนด์หลักด้วยกัน ประกอบด้วย “พาร์ค” ราคาเฉลี่ย 2 แสนบาท/ตารางเมตร “ไนท์บริดจ์” เฉลี่ย 1.5-2 แสน/ตารางเมตร “น็อตติ้งฮิลล์” เฉลี่ย 8 หมื่น-1.2 แสน/ตารางเมตร และ “เคนซิงตัน” เฉลี่ยไม่เกิน 8 หมื่น/ตารางเมตร
มี 7 ทำเลหลักกระจายตัวทั่วเมืองกรุงและปริมณฑล ดังนี้ 1.โซนอ่อนนุช-แบริ่ง แนวรถไฟฟ้าบีทีเอสต่อขยาย หนาแน่นที่สุด 15 โครงการ มูลค่ารวม 9,918 ล้านบาท 2.โซนหมอชิต-สะพานใหม่ แนวรถไฟฟ้าบีทีเอส 10 โครงการ 10,790 ล้านบาท
3.โซนแบริ่ง-สมุทรปราการ 9 โครงการ 8,880 ล้านบาท 4.โซนบางใหญ่-บางซื่อ แนวรถไฟฟ้าสีม่วง 3 โครงการ 4,040 ล้านบาท 5.โซนสาทร-เจริญกรุง 2 โครงการ 4,250 ล้านบาท 6.โซนรามคำแหง-มีนบุรี 1 โครงการ 2,000 ล้านบาท
และข้ามห้วยไปลงทุนในต่างจังหวัดเป็นทำเลที่ 7 โซนแหลมฉบัง-ศรีราชา มี 4 โครงการ มูลค่ารวม 4,830 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้เพิ่งสร้างทอล์กออฟเดอะทาวน์จากการควบรวมกิจการกับกลุ่มพราว เรียลเอสเตท ของตระกูลลิปตพัลลภ เสริมพอร์ตคอนโดฯระดับลักเซอรี่แบรนด์ “พาร์ค 24” ให้กับบริษัท
รวมทั้งมีพันธมิตรร่วมทุนหรือ JV (Joint Venture) กับโนมูระ เรียลเอสเตต ดีเวลอปเมนต์ จากญี่ปุ่น โดยร่วมทุนพัฒนาคอนโดฯ 4 โครงการ มูลค่ารวม 8,600 ล้านบาท

ใช้ทุนน้อยต่อยอดคอนโดฯ
ตัวตนของ “พีระพงศ์” ครอบครัวทำร้านชำ เป็นเด็กต่างจังหวัด สเต็ปของชีวิตมีทางเลือกโอกาสก้าวหน้า 2 อาชีพ คือ หมอ กับวิศวกร ตัดสินใจเดินบนหนทางวิศวกร คว้าดีกรี ป.ตรี วิศวกรรมโยธา ม.ขอนแก่น ต่อด้วย ป.โท เอ็นจิเนียริ่ง ม.นิวเซาท์เวลส์ ออสเตรเลีย เริ่มเปิดบริษัทออริจิ้นฯเมื่อปี 2553 ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจและเหตุจลาจลในกรุงเทพฯ
“ตอนออกมาทำเอง ปัจจัยภายนอกไม่เอื้ออำนวย แต่ปัจจัยภายในมันมีแรงขับ อยากลุย อยากพัฒนาอสังหาฯ วันที่ลาออกมาก็มีหน้าที่การงานที่ดีมาก ๆ วัย 30 ต้น ๆ เป็นซีอีโอ บริษัทที่ดูแลก็ใหญ่โต แต่แรงขับภายในบอกว่าต้องเป็นละ ต้องลุยละ ถ้าช้าไปอีก 1 ปีมันจะขาดใจ อะไรประมาณนี้”
ถามถึงโครงการแรกที่ลงทุน คำตอบคือไม่ใช่คอนโดฯ แต่เป็นเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ความฝันฝังใจอยากมีธุรกิจอสังหาฯของตัวเอง ปลิ้นกระเป๋าออกมาดูมีเงินไม่ถึงล้านบาทด้วยซ้ำ
“ด้วยความที่เป็นวิศวกรก่อสร้าง เราก็มีวิธีการลดต้นทุน ระดมเงินครอบครัวได้มา 1-2 ล้านไปซื้อที่ดิน กู้แบงก์มาทำเกือบ 100% ปกติผลตอบแทนหรือยีลด์ 8% แต่สิ่งที่ผมทำต้องได้ 2 เท่า 16% เราเป็นเจ้าแรกที่ทำโมเดลเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ขายคนไทย ตลาดทั่วไปขายลูกค้าต่างชาติ ค่าเช่า 4-5 พัน ก็อัพเป็นเดือนละ 1 หมื่น”
วิศวกรรมการเงินสไตล์ออริจิ้นฯ คือ รันเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์สักพัก ทำรีไฟแนนซ์ได้เงินก้อนโต 10 ล้านบาท นำมาซื้อแลนด์แบงก์สะสม “อพาร์ตเมนต์เป็นตัวแรกที่ทำให้เราเกิดคอนโดฯทุกวันนี้ได้”
กลยุทธ์ซื้อที่ดิน “มัดจำ-โอน”
หลังจากรีไฟแนนซ์ได้เงิน 10 ล้านบาทเป็นทุนประเดิมก้อนใหม่ โจทย์ธุรกิจคือ ทำให้งอกเงยได้ยังไงบ้าง
“เรามีเงินน้อย ต้องบริหาร ต้องคิดมากกว่าคนที่มีเงินเยอะ สิ่งที่ต้องตัดสินใจตอนนั้นคือ ทำอสังหาฯแบบไหนล่ะ ทาวน์เฮาส์ หรือคอนโดฯ สุดท้ายก็เลือกคอนโดฯ เพราะเหมาะกับเทรนด์คนรุ่นใหม่ที่กำลังมา”
เข็มทิศการลงทุนมุ่งทำคอนโดฯ แต่เนื่องจากเริ่มด้วยปริมาณเงินที่จำกัด สิ่งที่ทำคือทุกอย่างต้องประหยัดหมด จุดเน้นทำสินค้าให้ดี ลูกค้าต้องได้ของดี
“ออริจิ้นฯมีความมหัศจรรย์อยู่หน่อย ๆ ก็คือ บริษัทมีทุนจดทะเบียนพันล้าน วันนี้มีโครงการเกือบ 5 หมื่นล้าน แผนธุรกิจที่เตรียมไว้ปีหน้าปีถัดไปจะมีโครงการอีก 3 หมื่นล้านบาท” กลยุทธ์จัดซื้อที่ดินนับเป็นเทคนิคชั้นเซียนที่มีการนำมาแชร์บนเวที
“ผมเสนอราคา 3 ใบ โดยใบที่ 1 ที่ดินราคาถูก มัดจำเยอะ โอนเร็ว ใบที่ 2 ราคาปานกลาง มัดจำปานกลาง โอนปานกลาง ใบที่ 3 ราคาแพง มัดจำนิดเดียว โอนนาน ๆ เป็นวิธีเงินน้อยก็ซื้อที่แพงได้”
ปั้นบลูโอเชี่ยนแนวรถไฟฟ้า
กล่าวสำหรับตลาดคอนโดฯ ไม่ว่าเศรษฐกิจจะฟูหรือแฟบ ภาวะการแข่งขันมีความรุนแรงเสมอต้นเสมอปลาย บริษัทแจ้งเกิดได้ยังไง
“เราเริ่มจากเป็น SMEs ทำเลในเมืองซื้อที่แข่งกับรายใหญ่ไม่ได้ สิ่งที่มองทำเลไหนยิ่งดีคนแห่ไปทำเยอะ เป็นตลาดเรดโอเชี่ยน สิ่งที่เรามองหา มีตลาดดี ๆ ไหมที่ไม่ต้องแข่งขันมาก มีดีมานด์ดี ๆ รองรับอยู่”
ข้อมูลบิ๊กดาต้าที่มีในมือ บอกเขาว่ารถไฟฟ้าสายปัจจุบันกับหลายที่กำลังเปิดไซต์ก่อสร้าง มีทุกมุมเมืองของกรุงเทพฯ ประเด็นอยู่ที่ถ้าหากนั่งรถไฟฟ้าห่างออกไป 1 นาที แต่ต้นทุนราคาที่ดินแตกต่างกัน 1 เท่าตัว สูตรธุรกิจออริจิ้นฯจึงปรุงออกมาเป็นการเน้นจับที่ดินปลายสายทางรถไฟฟ้า
“เราสร้างน่านน้ำขึ้นมาเอง ตลาดบลูโอเชี่ยน ตัวอย่างโซนสุขุมวิทถึงเอกมัย อ่อนนุช-แบริ่ง เราเริ่มทำเยอะ เวลาที่เราเข้าไปคนอื่นยังไม่มา ทำยังไงให้ตลาดคึกคัก บิสซิเนสโมเดลคือ ทำตัวเองให้เป็น market maker เป็นผู้ปั้นตลาดขึ้นมา มีสินค้าทุกระดับราคา บน-กลาง-ล่าง”
เบ็ดเสร็จโซนอ่อนนุช-แบริ่งมีคอนโดฯของบริษัทฟาดเข้าไปแล้ว 15 โครงการ โมเดลธุรกิจท่วงทำนองเดียวกันนี้เป็นต้นแบบให้กับการพัฒนาโครงการโซนแบริ่ง-สมุทรปราการ, หมอชิต-สะพานใหม่, สายสีส้ม และแหลมฉบัง-ศรีราชา
ชี้เทรนด์ทำเล-สูตรมัดใจลูกค้า
บิ๊กดาต้ายังบอกด้วยว่า ตลาดคอนโดฯเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลในรอบ 10 ปีมีการเปลี่ยนแปลงเป็นเท่าตัว จากปี 2550 ที่มีส่วนแบ่งตลาด 31% (ที่เหลือเป็นทาวน์เฮาส์ 31% บ้านเดี่ยว 26% อื่น ๆ 12%) ล่าสุด ปี 2559 สถิติกลับด้าน โดยห้องชุดมีส่วนแบ่งตลาด 66% (รองลงมาทาวน์เฮาส์ 21% บ้านเดี่ยว 8% อื่น ๆ 5%)
“ทำเลไหนมาแรงเลือกทำเลนั้น เปิดให้เยอะเลย มูลค่าโครงการโซนละ 5,000-10,000 ล้าน ทำเป็นคลัสเตอร์มีหลายโครงการในโซนเดียวกัน แชร์คอสต์ด้านการขายการตลาด ไซต์ก่อสร้างก็บริหารง่าย เกิดการประหยัดต่อเวลา”
กลยุทธ์ลึก ๆ แต่ไม่ลับ เป็นเรื่องเทคนิคการนำเสนอให้กับลูกค้า โดยสอนพนักงานขายหรือเซลโครงการให้ชวนคุยถึงภาพใหญ่ตลาดคอนโดฯ แนวรถไฟฟ้าแต่ละสาย พูดถึงภาพใหญ่ความน่าจะเป็นในการลงทุน ข้อดี ข้อเสีย โปรดักต์
“ช่วงแรกผมขายของเอง อยู่หน้าร้านเอง เข้าใจในสินค้า เพราะเราเป็นคนทำ โปรดักต์อสังหาฯขายความรู้ให้กับลูกค้าด้วยว่าเทรนด์ของทำเลจะเป็นอย่างนี้ ๆ เรามองออกลูกค้าก็ยิ่งเข้าใจ”
CEO ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ แนะเคล็ดลับด้วยว่า วิธีการขายเมื่อถึงเวลาลูกค้าจะซื้อเอง การใช้เวลาพูดคุยถ้า 10 นาทีมีโอกาสซื้อ 50% คุยนานขึ้นถึง 15 นาที โอกาสชนะ (มียอดขาย) ปาเข้าไป 60-70%
สูตรปิดการขายอสังหาฯ จึงมีสั้น ๆ ว่า (ลูกค้ากับเซล) ยิ่งคุยนานยิ่งมีโอกาส
ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ
https://www.prachachat.net/property/news-53252
ปักหมุด The House 94 แหล่งแฮงเอาต์ใหม่ ชาร์จพลังแห่งความสุขฉลองคริสต์มาส และ ปีใหม่
1 hour
Yuasa Trading (Thailand) เปิดตัว Model Home Village ย่านลาดกระบัง ชูมาตรฐาน “Japanese Quality Living” เจาะตลาดที่อยู่อาศัยระดับพรีเมียม
34 minutes
SCX Corporation จับมือ “Vasticity Assets” แตกไลน์ธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ เปิดตัว “Smart Solar Energy Solutions” ยกระดับ Green Industrial Property ด้วยพื้นที่ติดตั้ง Solar Rooftop รวมกว่า 100,000 ตร.ม. ลดต้นทุนผู้เช่า-ตอบรับ Net Zero
1 hour
สานต่อความยิ่งใหญ่! แสนสิริ x กลุ่มมิตซุย ฟุโดซัง ลุยเปิด 2 โปรเจกต์ใหม่ มูลค่ารวม 9,500 ล้านบาท ตอกย้ำพันธมิตรแกร่ง ขับเคลื่อนอสังหาฯ ไทย
4 hours
ออริจิ้น โฮเทล เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2568 ชูอัตราดอกเบี้ยระหว่าง [6.40 - 6.80]% ต่อปี คาดเปิดจองระหว่างวันที่ 22 - 24 ธันวาคมนี้
4 hours
ชอบสไตล์การเขียนจังเลยคะ เข้าใจง่าย น่าติดตาม
เขียนรีวิวน่าอ่าน เทคนิคการเขียนดีค่ะ
กำลัังตัดสิ้นอยู่ ขอบคุณฮะ
ขอบคุณบทความที่มีประโยชน์ครับ