Home
“เอสซีจี” โชว์ศักยภาพผู้นำนวัตกรรมวัสดุก่อสร้าง คว้า “ฉลากเขียว” จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและสถาบันสิ่งแวดล้อม อย่างต่อเนื่อง โดยในครั้งนี้มอบให้กับปูนงานโครงสร้าง เอสซีจี และท่อพีวีซี เอสซีจี ถือเป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศ ตอกย้ำวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ใส่ใจสิ่งแวดล้อม คำนึงถึงคุณภาพชีวิตในการอยู่อาศัยที่ดีของผู้บริโภคและสังคม เผยมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีและกระบวนการผลิตให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง มั่นใจช่วยยกระดับมาตรฐานการผลิตวัสดุก่อสร้าง ตอบโจทย์เทรนด์ “กรีน” ที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น และตอบนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างสีเขียว (Green Procurement) ของภาครัฐ คาดช่วยผลักดันตลาดวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมปีนี้ให้เติบโตขึ้น พร้อมเดินหน้าสร้างการรับรู้ถึงความสำคัญของผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรองฉลากเขียว ตั้งเป้าหมายสิ้นปี 2560 เพิ่มสัดส่วนยอดขายผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็น 40%
นายอนุวัตร เฉลิมไชย แบรนด์ไดเร็คเตอร์ สำนักงานบริหารแบรนด์ ธุรกิจ เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง กล่าวว่า ปัจจุบันเทรนด์วัสดุก่อสร้างสีเขียว (Green Building Material) เริ่มได้รับความสนใจและเข้ามามีบทบาทใน แวดวงอสังหาริมทรัพย์และวัสดุก่อสร้างมากขึ้น สืบเนื่องจากปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่พบได้บ่อยขึ้น รวมถึงการผลักดัน ของภาครัฐบาลตามนโยบาย “การจัดซื้อจัดจ้างสีเขียว” ทำให้แนวโน้มตลาดวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมี
การเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากตลาดอาคารเขียวปี 2559 มีมูลค่า 7,800 ล้านบาท คาดการณ์ในปี 2560 จะเติบโตขึ้น 8% ดังนั้น “เอสซีจี” ในฐานะผู้นำนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างที่มีวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตในการอยู่อาศัยให้แก่ผู้บริโภคและสังคม จึงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ โซลูชั่น และบริการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันยังผลักดันสินค้าให้ได้รับรองมาตรฐานที่สะท้อนถึงนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมจากองค์กรและสถาบันต่างๆ อาทิ ฉลากเขียว ฉลากคาร์บอน (SCG eco value) TREES, Green Industry และ LEED จากประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้น
โดยล่าสุดปูนซีเมนต์และท่อพีวีซี เอสซีจี เป็นรายแรกและรายเดียวที่ได้รับมาตรฐาน “ฉลากเขียว” (Green Label) ซึ่งมอบให้กับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกัน

จากสำนักงานเลขานุการโครงการฉลากเขียว สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับฉลากเขียวคือ ปูนงานโครงสร้าง เอสซีจี ซึ่งเป็นปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ประเภท 1 สำหรับงานโครงสร้างของบ้านพักอาศัย โครงสร้างขนาดใหญ่ งานสาธารณูปโภค งานคอนกรีตผสมเสร็จ และผลิตภัณฑ์ท่อเอสซีจี ได้แก่ ท่อพีวีซี สำหรับระบบประปาและระบายน้ำ และท่อพีวีซี สำหรับระบบสาธารณูปโภคและระบบประปาขนาดใหญ่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้รับมาตรฐานฉลากเขียวมาแล้ว จากหลังคาคอนกรีตและหลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์หลากหลายรุ่น ฉนวนกันร้อน และฉนวนกันเสียง
“การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้ได้คุณภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จะต้องคำนึงถึงวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่ การคัดเลือกวัตถุดิบ กระบวนการผลิต การใช้ทรัพยากร และการกำจัดซากของผลิตภัณฑ์ โดยทุกขั้นตอนจะต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและชุมชนรอบข้าง รวมถึงเมื่อนำไปใช้งานจะต้องไม่เป็นอันตรายกับสุขภาพของผู้บริโภค ดังนั้นผลิตภัณฑ์ฉลากเขียวจึงช่วยลดผลเสียที่จะกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ในระยะยาว ทำให้ผู้บริโภคมีคุณภาพชีวิตด้านการอยู่อาศัยที่ดี ช่วยยกระดับมาตรฐานการผลิตวัสดุก่อสร้าง นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดและ ตอกย้ำความเป็นผู้นำนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างที่ดำเนินธุรกิจควบคู่กับการเสริมสร้างสังคมอย่างยั่งยืน”
สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักของผลิตภัณฑ์ฉลากเขียวและผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของเอสซีจี คือกลุ่มผู้ประกอบการ กับ ผู้ประกอบการ (Business to Business - B2B) โดยมีทั้งผู้ประกอบการ หรือองค์กรภาครัฐและเอกชน ที่ต้องการพัฒนาอาคารเป็นอาคารเขียว และผู้ประกอบการที่ตอบรับนโยบายจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตร
ต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะคัดเลือกสินค้า โดยให้ Priority หรือ เครดิตกับสินค้าที่ได้ฉลากสิ่งแวดล้อมร่วมกับปัจจัยอื่นๆ ด้วยส่วนมาก จะเน้นไปในภาครัฐก่อน และกำลังจะขยายไปภาคเอกชน (Business to Consumer - B2C) คือ กลุ่มผู้รับเหมาและเจ้าของบ้านที่ต้องการสร้างบ้านประหยัดพลังงาน อีกด้วย “การสร้างการรับรู้ถึงผลิตภัณฑ์ฉลากเขียว ต้องอาศัยความร่วมมือทั้งจากภาครัฐและเอกชนที่จะสร้างความเข้าใจ และกระตุ้นให้ผู้บริโภคเห็นความสำคัญและประโยชน์ที่มีต่อองค์กร สังคม สิ่งแวดล้อมและตัวผู้บริโภค ดังนั้นบริษัท จะเดินหน้าสร้างการรับรู้ถึงความสำคัญของวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไปยังกลุ่มเป้าหมาย โดยจะให้ความสำคัญในการสื่อสารสัญลักษณ์รับรองฉลากเขียวบนบรรจุภัณฑ์สินค้าที่ผ่านเกณฑ์การรับรอง เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าได้สะดวกและตรงความต้องการ พร้อมตอกย้ำถึงการเป็นรายแรกและรายเดียวปูนซีเมนต์และท่อพีวีซี เอสซีจี ที่ได้รับฉลากเขียวผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ ทั้ง Offline และ Online ขณะเดียวกันจะเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง พร้อมตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนยอดขายของผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในปี 60 ให้เพิ่มขึ้นเป็น 40% จากยอดขายวัสดุก่อสร้างทั้งหมด จากปีที่ผ่านมาที่มีสัดส่วนรายได้ ในกลุ่มนี้อยู่ที่ 31%” นายอนุวัตร กล่าวสรุป
ปักหมุด The House 94 แหล่งแฮงเอาต์ใหม่ ชาร์จพลังแห่งความสุขฉลองคริสต์มาส และ ปีใหม่
yesterday
Yuasa Trading (Thailand) เปิดตัว Model Home Village ย่านลาดกระบัง ชูมาตรฐาน “Japanese Quality Living” เจาะตลาดที่อยู่อาศัยระดับพรีเมียม
yesterday
SCX Corporation จับมือ “Vasticity Assets” แตกไลน์ธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ เปิดตัว “Smart Solar Energy Solutions” ยกระดับ Green Industrial Property ด้วยพื้นที่ติดตั้ง Solar Rooftop รวมกว่า 100,000 ตร.ม. ลดต้นทุนผู้เช่า-ตอบรับ Net Zero
yesterday
สานต่อความยิ่งใหญ่! แสนสิริ x กลุ่มมิตซุย ฟุโดซัง ลุยเปิด 2 โปรเจกต์ใหม่ มูลค่ารวม 9,500 ล้านบาท ตอกย้ำพันธมิตรแกร่ง ขับเคลื่อนอสังหาฯ ไทย
yesterday
ออริจิ้น โฮเทล เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2568 ชูอัตราดอกเบี้ยระหว่าง [6.40 - 6.80]% ต่อปี คาดเปิดจองระหว่างวันที่ 22 - 24 ธันวาคมนี้
yesterday
อ่านสนุกจังค่ะ
กำลัังตัดสิ้นอยู่ ขอบคุณฮะ
เขียนดีขนาดนี้ ไม่ต้องไปดูโครงการจริงแล้วมั่งคะเนี่ย