
Home
“อรดา” อสังหาฯ ในเครือ DCON ลุยตลาดที่อยู่อาศัยปี 2567 เน้นพัฒนาแนวราบ เจาะกลุ่ม Real Demand ที่ต้องการที่อยู่อาศัย หรือมีกำลังซื้อในระดับราคา 2-7 ล้านบาท โดย โกยยอดขายเฟสแรกแล้ว 50% และจ่อเปิดตัว 2 โครงการใหม่ควบคู่กับขายโครงการต่อเนื่อง รวมมูลค่า 4,000 กว่าล้านบาท จาก 5 โครงการ
ผ่านกลยุทธ์การตลาดแบบผสมผสานทั้งรูปแบบใหม่และเก่า หวังเข้าถึงลูกค้าเป้าหมาย พร้อมเตรียมจัดงาน Grand opening โครงการ GRAND DECO ศาลายา บ้านแฝด บ้านเดี่ยว และอาคารพาณิชย์ สไตล์ Minimal Nordic ระหว่าง 23-24 มีนาคม 2567 นี้ พร้อมกับเปิดบ้านโซนใหม่ ติดสวน ทำเลดีที่สุดในโครงการ ตั้งเป้าปิดการขายเฟส 1 กลางปีนี้
นางสาววิศรา พรกุล กรรมการ บริษัท อรดา จำกัด ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในเครือ บมจ.ดีคอนโปรดักส์ (DCON) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจว่าในปี 2567 บริษัทฯ จะเน้นและให้ความสำคัญในการพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบเป็นหลักจับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยจริงหรือกลุ่ม Real Demand ที่ต้องการหรือมีกำลังซื้อในระดับราคา 2-7 ล้านบาท แต่ละโครงการที่พัฒนาไม่ใหญ่มีมูลค่าไม่เกิน 1,000 ล้านบาท
และได้ตั้งงบ 100-200 ล้านบาท สำหรับซื้อที่ดินรองรับแผนการพัฒนาโครงการต่อเนื่อง โดยจะเน้นทำเลชานเมืองหรือปริมณฑล ขนาดที่ดินแต่ละแปลง ประมาณ 20-30 ไร่ ใช้เวลาในการพัฒนาและขายประมาณ 2-3 ปี ขณะที่เป้ายอดขายในปี 2567 ตั้งไว้กว่า 400 ล้านบาท
ทั้งนี้ตามแผนตั้งเป้านำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อีก 3-5 ปี พร้อมที่จะขยายธุรกิจในโครงการต่อๆ ไปยังทำเลอื่นที่มีศักยภาพทั่วประเทศ เพื่อมุ่งมั่นพัฒนาโครงการที่ดีมีคุณภาพในราคาที่เหมาะสมโดยมุ่งสู่การเป็นบริษัทผู้พัฒนาอสังหาฯ ชั้นนำ และมีการเจริญเติบโตที่ยั่งยืนในประเทศไทย
“ปัจจุบันที่เราเน้นทำเลชานเมืองและปริมณฑล เพราะเล็งเห็นถึงการเติบโต และการขยายตัวของผู้บริโภคจากภายในเมืองใหญ่ ขยายออกมาถึงปริมณฑล โดยเน้นทำเลที่เดินทางที่สะดวก สามารถไปทำงาน และไปโรงเรียนลูกได้สะดวก” นางสาววิศรา กล่าว
ลุยเปิดโครงการใหม่-ขายต่อโครงการเก่า ผ่านกลยุทธ์การตลาดแบบใหม่-เก่าผสมผสาน เจาะลูกค้าเป้าหมาย
กลุ่ม Real Demand
พร้อมกับระบุว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้ 2 โครงการเป็นแนวราบ คือโครงการบ้านเดี่ยว GRAND DECO นครปฐม ใกล้กับศูนย์ราชการใหม่ บนเนื้อที่ประมาณ 33 ไร่เศษ ซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะเปิดตัวไตรมาส 2 ของปีนี้ มูลค่าถึง 780 ล้านบาท และอีก 1 โครงการที่เหลือ จะอยู่โซน จ.ปทุมธานี มูลค่าโครงการ 750 ล้านบาท เปิดตัวเร็วๆ นี้เช่นกัน
ทำให้ในปีนี้บริษัทฯ มีโครงการที่พัฒนาทั้งโครงการเปิดใหม่ และโครงการที่เปิดในปีที่ผ่านๆ มารวมแล้ว 5 โครงการ (โครงการใหม่ 2 โครงการ และโครงการที่ขายต่อเนื่อง 3 โครงการ) มูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้น 4,000 กว่าล้านบาท เพื่อรองรับกับการแข่งขันของตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2567
บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์การตลาดเชิงรุก เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยจริงหรือกลุ่ม Real Demand มากขึ้นในแบบผสมผสานทั้งการตลาดรูปแบบใหม่ และแบบเก่า หรือแบบดั้งเดิม อาทิ ใช้ Influencer สัตว์เลี้ยง/อสังหาฯ/Lifestyle ใน Tiktok มาทำคลิปยิงโฆษณาตาม Channel ต่างๆ
เช่น Tiktok และ Facebook เพื่อเก็บ Leads อีกทั้ง ป้าย Billboard ป้ายข้างทาง รถแห่ โดยเน้นคลิปสั้นไม่เกิน 1 นาที มากขึ้นทั้งนี้ เพราะปัจจุบันคนเล่น Tiktok, Youtube Shorts กันมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการจัดอีเว้นท์ ออกแคมเปญ และโปรโมชั่นที่แปลกใหม่เพื่อดึงดูดลูกค้า นอกจากจะส่งเสริมการขายแล้วจะต้องเพิ่มมูลค่าให้โครงการได้ด้วย
แตกต่าง-ดีไซน์เด่น-ฟังก์ชันครบ-ตอบโจทย์การอยู่อาศัย
สำหรับ 3 โครงการที่อยู่อาศัยที่เปิดไปปีก่อนๆ ยังพัฒนาและขายต่อเนื่องนั้น แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 1 โครงการ และเป็นแนวราบ 2 โครงการ ซึ่งถึงแม้ในแต่ละโครงการจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน แต่ทุกโครงการบริษัทฯ จะเน้น “สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ทั้งคอนเซ็ปต์โครงการ ดีไซน์แบบบ้านโดดเด่น ฟังก์ชันใช้สอยครบ ตอบโจทย์การอยู่อาศัย” โดยทั้ง 3 โครงการประกอบด้วย ดังนี้
1. โครงการ Dcon prime รัตนาธิเบศร์ มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ เป็นอาคารสูง 38 ชั้น จำนวน 638 ยูนิต ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 27.08-61.01 ตารางเมตร (ตร.ม.) ราคาขายเริ่ม 1.79 ล้านบาท ปัจจุบันก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ พร้อมเข้าอยู่ แถมเฟอร์นิเจอร์ STARMARK ครบ สามารถหิ้วกระเป๋าเข้ามาอยู่ได้ทันที และยังเป็นคอนโดฯแห่งเดียวในย่านรัตนาธิเบศร์ที่มี 3 สิ่งครบ
ประกอบด้วย ติดรถไฟฟ้า MRT ไทรม้า 0 เมตร, วิวโค้งน้ำเจ้าพระยา และสระว่ายน้ำลอยฟ้าบนชั้นดาดฟ้า วิว 360 องศา ดื่มด่ำบรรยากาศสุดโรแมนติก สระว่ายน้ำดาดฟ้า Infinity Edge ชีวิตไร้ขอบเขตจึงเป็นที่มาของคอนเซ็ปต์โครงการ “Hotelize Modern Style” สไตล์โรงแรมหรู ประดุจพักผ่อนตากอากาศโรงแรม 5 ดาว ตลอด 365 วัน นอกจากนี้ยังใกล้แหล่งงาน และแหล่งช็อปปิ้ง Central Plaza Westgate และแวดล้อมด้วยสถานที่อำนวยความสะดวกอื่นๆ
2. โครงการ THE DECO บางนา มูลค่าโครงการ 930 ล้านบาท ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 35 ไร่ จำนวน 292 ยูนิต พัฒนาเป็นบ้านแฝด 2 ชั้น บนเนื้อที่ 37.5 ตารางวา (ตร.ว.) มี 2 แบบบ้านให้เลือก คือ SPACE และ WIDE พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 155-161 ตร.ม. ราคาขายเริ่มต้น 4.09 ล้านบาทต่อยูนิต และทาวน์โฮม CONNECT 2 ชั้น ฟังก์ชันครบ บนเนื้อที่ 20.70 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 125 ตร.ม. ราคาขาย 2.49 ล้านบาทต่อยูนิต และอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เป็นพื้นที่ขายในอนาคต
โครงการพัฒนาเป็นสไตล์โมเดิร์นที่ใส่ใจในการออกแบบทุกตารางเมตร ภายในบ้านมีฟังก์ชันตอบรับทุกการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ปลอดโปร่ง โล่งสบาย” เพดานห้องนอนใหญ่สูงถึง 3.1 เมตร เพื่อตอบโจทย์ผู้ต้องการที่อยู่อาศัยแถบบางนา บางบ่อ และสมุทรปราการ ซึ่งจุดเด่นโครงการคือ อยู่ใกล้ทางด่วน ใกล้ห้างสรรพสินค้า ใกล้โรงพยาบาล ใกล้มหาวิทยาลัยชั้นนำ และไม่ไกลจากสนามบิน สุวรรณภูมิ
พร้อมส่วนกลางจัดเต็ม Co-Working Space, Fitness, สระว่ายน้ำ, สวนส่วนกลางครบ ไม่ว่าจะเป็น สนามบาส มุมนั่งชิลล์และสนามเด็กเล่น โครงการนี้เราสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งโครงการอื่น เช่น มีคาเฟ่ส่วนตัวบรรยากาศดีๆ ที่ Lake Paradise ติดโครงการ สำหรับไว้พักผ่อนริมคลองขนาดใหญ่ และยังเพิ่มโซนสัตว์เลี้ยงสำหรับคนรักสัตว์ เรียกได้ว่ายืนหนึ่งโซนสัตว์เลี้ยงในย่านนี้เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการ ปลอดภัยด้วยกล้องวงจรปิดและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม.
3. โครงการ GRAND DECO ศาลายา มูลค่าโครงการ 810 ล้านบาท บนเนื้อที่กว่า 29 ไร่ พัฒนาเป็นบ้านแฝด บ้านเดี่ยว และอาคารพาณิชย์ สไตล์ Minimal Nordic ที่โครงการนำความเรียบง่ายแต่ร่วมสมัย เพื่อให้สอดคล้องกับชีวิตคนรุ่นใหม่ โดยผสม ผสานความงดงามและเรียบง่ายอย่างลงตัว จำนวน 163 ยูนิต
มีบ้านแบบ DAISY บ้านเดี่ยว 2 ชั้นขนาดใหญ่ บนเนื้อที่ 56 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม. หน้ากว้าง 15 เมตร ลึกถึง 7.7 เมตร ฟังก์ชันจัดเต็ม ให้มากกว่าถึง 5 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 3 ที่จอดรถ ห้องนอนใหญ่สามารถกั้น Walk- in Closet เก็บของได้เยอะจุใจ ห้องนอนกว้างใหญ่ทุกห้อง มีห้องนอนด้านล่าง ติดห้องน้ำเหมาะสำหรับผู้สูงอายุ ราคาขายเริ่มต้น 6.59 ล้านบาทต่อยูนิต
และ บ้านแบบ LILY บ้านแฝด 2 ชั้น หลังใหญ่ ด้วยหน้ากว้างถึง 10 เมตร ฟังก์ชันจัดเต็ม ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ บนเนื้อที่ 37.5 ตร.ว.พื้นที่ใช้สอย 155 ตร.ม. ออกแบบให้ความรู้สึกเหมือนบ้านเดี่ยว หน้ากว้าง 10 เมตร ลึก 6 เมตร จอดรถได้ 2 คัน ให้มาก กว่าถึง 3 ห้องนอน 1 ห้องเอนกประสงค์ และ 3 ห้องน้ำ มีห้องนอนด้านล่างติดห้องน้ำ เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ ราคาขายเริ่มต้น 4.59 ล้านบาทต่อยูนิต ส่วนอาคารพาณิชย์ 3.5 ชั้น เป็นพื้นที่ขายในอนาคต
สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของโครงการ GRAND DECO ศาลายา นอกจากจะเจาะตลาดในกลุ่มของคนวัยทำงานแล้วยังเอื้อต่อผู้ที่รักสัตว์เลี้ยง และผู้สูงอายุ ด้วยสไตล์การออกแบบบ้านที่ไม่เหมือนใครในโซนนี้ ทั้งทำเลที่ตั้งโครงการ การบริการ และความคุ้มค่าของราคา ทำให้ได้รับผลตอบรับจากลูกค้าผู้บริโภค เห็นได้จากการเปิดตัวโครงการนี้เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ผลตอบรับค่อนข้างดี จากยอดเปิดขายเฟสแรก ถึง 50% และมีแนวโน้ม เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2567 นี้
“อรดา พยายามสร้างความแตกต่าง เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการ เช่น ดีไซน์ของแบบบ้านที่โดดเด่น และโซนสัตว์เลี้ยง ทำให้ลูกค้า มีทางเลือกในการตัดสินใจมากขึ้น” นางสาววิศรา กล่าว พร้อมกับยอมรับว่า ตลาดที่อยู่อาศัยในย่านศาลายามีการแข่งขันค่อนข้างสูงจากคู่แข่งที่จำนวนมาก เพราะศาลายาถือเป็นพื้นที่ไม่ไกลจากเมืองยังสามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้อย่าง สะดวก มีทั้งทางด่วน ห้างสรรพสินค้า ใกล้โรงพยาบาล สถานที่ราชการต่างๆ ในอนาคตจะมีโครงการ รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีแดงอ่อน จากสถานีตลิ่งชันมาถึงศาลายา และมีมอร์เตอร์เวย์ M81 บางใหญ่-กาญจนบุรี
“ศาลายา” คือทำเลทองที่น่าจับตา
ด้วยความหนาแน่นภายในเมือง ทำให้คนเริ่มมองหาที่อยู่อาศัยเพื่อขยับขยายออกมาชานเมือง และปริมณฑลมากขึ้น ถือว่าโซนนี้ เป็นอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ สังเกตได้จาก Developer เจ้าอื่นๆ ที่มาลงทุนในย่านนี้จำนวนมาก ทำให้การแข่งขันสูงทั้งในเรื่องของราคา และโปรโมชั่น แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่า “ศาลายา คือทำเลทอง” ที่น่าจับตามองมากในย่านนี้ผู้บริโภคมีความต้องการที่อยู่อาศัยทั้งบ้านเดี่ยว และบ้านแฝดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเหมาะแก่การลงทุนพัฒนาโครงการเพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น
พร้อมกันนี้ นางสาววิศรา ยังกล่าวย้ำในตอนท้ายว่า ด้วยจุดเด่นของทำเลที่ตั้งโครงการ GRAND DECO ศาลายา ประกอบกับ รูปแบบการพัฒนาเป็นบ้านแฝด และบ้านเดี่ยว ที่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยแถวศาลายา พุทธมณฑล ใกล้ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ใกล้มหาวิทยาลัยมหิดล และใกล้ห้างเซ็นทรัลพลาซ่า ศาลายา ที่เปิดตัว เหมือนเป็นการตอกย้ำว่าเป็นพื้นที่ทำเลศักยภาพที่เตรียมพัฒนาในอนาคตแน่นอน
อีกทั้งยังเข้า-ออกเมืองได้ง่าย เพียงแค่ใช้เส้นถนนบรมราชชนนี หรือทางพิเศษกาญจนาภิเษก ซึ่งในอนาคตตามแผนการพัฒนาของภาครัฐ จะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน ตลิ่งชัน-ศาลายา ผ่าน ทำให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้นไปอีก โดยโครงการเน้นจุดเด่น มีโซนสัตว์เลี้ยงสำหรับทาสหมาแมว จำนวนยูนิตต่อซอยน้อย เพียงแค่ 6 หลัง เท่านั้น และตัวบ้านดีไซน์ใหม่ที่โดดเด่น
ทั้งนี้ โครงการ GRAND DECO ศาลายา เริ่มเปิดขายไปเมื่อปลายปี 2566 และจะมีการจัดงาน Grand Opening วันที่ 23-24 มีนาคม 2567 นี้ พร้อมกับเปิดบ้านโซนใหม่ ติดสวน ทำเลดีที่สุดในโครงการ ซึ่งตั้งเป้าจะปิดการขาย Phase 1 ซึ่งมีจำนวน 69 ยูนิต ภายในกลางปีนี้ ลงทะเบียนก่อนใคร รับส่วนลดกว่าล้านบาท ได้ที่ https://bit.ly/496USRs หรือโทร 084-235-5770
“สถาพร เอสเตท” ยกทัพ 7 โครงการคุณภาพ ร่วมงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 48 เปิดตัวแคมเปญ “Chill Price Chill Packs” มอบดีลสุดชิลแห่งปี ตอบรับสัญญาณบวกตลาดอสังหาฯ
yesterday
บริทาเนีย ผนึกกำลัง 3 ธนาคาร “KBank-ttb-KTB” มอบข้อเสนอสุดพิเศษ สินเชื่อบ้านดอกเบี้ย 0% นาน 1 ปี*
yesterday
แอสเซทไวส์ กวาดยอดขาย 1,000 ล้านบาท จากงาน AssetWise Grand Sale 2025 พร้อมจับมือ 10 แบงก์มอบดอกเบี้ยพิเศษ คาดดันยอดขายทั้งปีตามเป้า 19,500 ล้านบาท
yesterday
SC Asset ส่งแคมเปญ “SC โปรฏิหาริย์มีจริง” ยกทัพ 86 โครงการ เริ่ม 1.99 ล้าน บุกงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 48 มอบส่วนลดสูงสุด 10 ล้าน จองต่ำเริ่มต้น 999 บาท
2025-10-15
แสนสิริ จับมือ ธนาคารกสิกรไทยสนับสนุนสินเชื่อกรีนโลน Pre-Finance มูลค่า 4,000 ล้านบาท สำหรับ 3 โครงการคอนโด
2025-10-15
อ่านสนุก ได้ความรู้ด้วย
ขอบคุณบทความดีๆค่ะ
ให้ 4 ดาวละกัน แต่ชอบนะคะ อยากให้ลงบ่อยๆกว่านี้ค่ะ