5 เรื่องโฆษณา VS ความจริง ในการซื้อคอนโดที่ไม่ตรงกัน

เคยรู้สึกเอ๊ะในใจไหมว่า ทำไมเวลาเห็นโฆษณาเกี่ยวกับการขายคอนโด แต่พอได้ไปดูหรือสอบถามจริงๆ กลับมีบางจุดที่รู้สึกว่าไม่ค่อยตรงกันเท่าไหร่ มาลองดูเล่นๆ กันหน่อย ว่ามีประโยคไหนบ้างที่อ่านแล้วต้อง เอ๊ะ?! เรื่องจริงหรือจกตากันนะ 

ทำเลที่ตั้ง

นับเป็นประเด็นหลักก็ว่าได้ กับการตั้งชื่อทำเลในหลายๆ โครงการ ที่จะต้องอยู่บนทำเลดังเสมอ ซึ่งมักทำให้เราสับสนกันอยู่เป็นประจำ ว่าสรุปโครงการนี้ตั้งอยู่ตรงไหนกันแน่ เพราะสถานที่จริงกับชื่อโครงการดันอยู่กันคนละฟากฝั่งเลยน่ะสิ ยกตัวอย่าง ชื่อโครงการบอกพระราม9 แต่ตัวโครงการอยู่รามคำแหง หรือตัวโครงการอยู่งามวงศ์วาน แต่ตั้งชื่อบอกอยู่วิภาวดี เราจึงต้องดูแผนที่หรือ Google Map เพื่อความชัวร์

เริ่มต้นราคาถูก

คำว่าราคาเริ่มต้นเพียง เป็นอีกหนึ่งจุดดึงดูดสายตาได้ดีทีเดียว แต่ควรระวังให้ดีเพราะมีบางโครงการที่ราคาเริ่มต้นถูก แต่พอไปถึงหน้างานแล้วดันมีแค่ไม่กี่ห้อง แถมบางทีดันอยู่ตำแหน่งที่ไม่ค่อยดีของโครงการนั้นๆ อีกด้วย หรือไม่ก็เป็นราคาที่ต้องจับฉลาก ขณะเดียวกันก็มีจำนวนโครงการไม่น้อย ที่เป็นราคาเริ่มต้นจริงๆ แต่จะเป็นขนาดห้องเล็กสุดของโครงการ เช่น เริ่มต้น 2 ล้านบาท ซึ่งโครงการมีห้องตั้งแต่ สตูดิโอไปจนถึงแบบ 2 ห้องนอน หมายความว่าราคานี้คือราคาของห้องสตูดิโอนั่นเอง

เหลือไม่กี่ยูนิต

ใกล้จะหมดแล้วหรือไม่ก็ Type นี้เหลือห้องสุดท้าย อ่านประโยคนี้เสร็จอาจต้องดูองค์ประกอบหลายๆ ด้าน ถ้าเป็นโครงการที่กำลังสร้างหรือเพิ่งสร้างเสร็จ โอกาสที่ห้องจะเต็มแทบเป็นไปไม่ได้เลย ในบางกรณีชั้นนี้อาจเหลือแค่ห้องหรือสองห้อง ก็เลยจำเป็นต้องเร่งขายห้องที่เหลือ เพื่อจะได้ปิดการขายในชั้นนั้นๆ 

รูปตัวอย่างสวยของจริงไม่ใช่

รูป Perspective หรือรูปตัวอย่างที่เห็น จะมีหมายเหตุกำกับว่าภาพเพื่อการโฆษณา แสดงว่าของจริงอาจเหมือนหรือไม่เหมือนก็เป็นได้ทั้งสองทาง หรือบางทีแม้แต่ห้องตัวอย่างก็เป็นแค่การตกแต่งให้ดูเฉยๆ พอเป็นของจริงดันได้วัสดุที่ไม่เหมือนกันหรือคนละเกรดเลยด้วยซ้ำ ซึ่งบางทีก็ไม่มีของจริงให้ดูเพราะโครงการยังไม่เสร็จ ยิ่งทำให้เรานึกภาพไม่ออกว่าจะมีหน้าตารูปแบบเป็นยังไง

ใกล้รถไฟฟ้า

ไฮไลท์สุดๆ ประโยคคลาสสิกที่แทบจะทุกโครงการต้องมี คือใกล้ BTS บ้าง ใกล้ MRT บ้าง และบอกระยะทางมาให้เรียบร้อยซึ่งก็ไม่รู้ว่าวัดจากจุดไหน แนะนำว่าให้วัดระยะเองดีที่สุด แต่ไกลแค่ไหนคือใกล้ เมื่อระยะความใกล้ของแต่ละคนอาจไม่เท่ากันอ่ะเนอะ โดยส่วนตัวมองว่าถ้าอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าเกิน 300 เมตร คือแบบเดินจนเหงื่อออก หรือบางทีต้องนั่งวินมอเตอร์ไซค์ต่อ จะใช้คำว่าใกล้ไม่น่าจะได้แล้วนะ

โปรดใช้วิจารณญาณก่อนหลงเชื่อคำโฆษณา เพราะบางทีอาจเป็นแค่จุดเรียกลูกค้า เพื่อเชิญชวนให้ไปเห็นของจริง ซึ่งบางคนใจแข็งไม่ยอมตัดสินใจจองง่ายๆ เพราะไม่ตรงตามที่หวังไว้เหมือนในโฆษณา แต่บางคนใจไม่แกร่งพอก็โอนอ่อนได้ง่ายหลงจองไปก็มี