4 ซีรีส์หมอ Netflix ได้ทั้งความรู้และความสนุก

หลังจากที่เคยรีวิวการ์ตูน และหนังเกี่ยวกับวันคริสต์มาส ใน Netflix ไปแล้ว คราวนี้ก็มาถึง ซีรีส์ให้ดูยาวๆ หลายๆ ตอนกันบ้าง โดยเกี่ยวกับอาชีพหมอ ซึ่งเราคัดมาให้ทั้งของเกาหลีและของอเมริกา ให้ลองเลือกดูกันตามใจชอบได้เลย!!

1. Hospital Playlist

ขอเปิดด้วยเรื่องที่ตอนแรกไม่คิดจะสนใจเลยด้วยซ้ำ แต่พอได้ดูเท่านั้นแหละ คือใจจดจ่อว่าเมื่อไหร่จะวันพฤหัส เมื่อไหร่จะ 3 ทุ่ม ใช่แล้ว เรื่องนี้ยังไม่จบ ล่าสุดคือมี 2 ซีซัน ตอนละประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง รับรองว่าดูเพลินแป๊ปเดียวจบ

เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับกลุ่มเพื่อน 5 คน ที่นอกจากจบจากโรงเรียนแพทย์เดียวกันแล้ว ยังทำงานที่เดียวกันอีกด้วย ซึ่งเป็นถึงอาจารย์หมอที่ขึ้นชื่อเรื่องการเป็นศัลยแพทย์ ที่เก่งตามความเชี่ยวชาญของแต่ละคน ทำให้เราได้เห็นมุมมองของแพทย์ในแต่ละสาขาไม่เหมือนกัน 

แต่ที่ชอบที่สุดของเรื่องนี้คือ ความเป็นมิตรภาพของทั้ง 5 คน ที่ถ่ายทอดออกมาให้เห็นถึงคำว่าเพื่อนได้เป็นอย่างดี คอยช่วยเหลือซัพพอร์ตเวลาที่แต่ละคนมีปัญหา บวกกับมีความสนุกสนานเฮฮาคอยแทรกไม่ให้ดราม่าจนเกินไป อีกทั้งตัวเนื้อเรื่องเองยังมีการกระจายบทบาทไปยังนักแสดงคนอื่นๆ ได้แบบลงตัว ช่วยเพิ่มความกลมกล่อมให้ซีรีส์เรื่องนี้ดูน่าติดตามมากยิ่งขึ้น 

2. Partners for justice

เนื้อหามีความเข้มข้นมากกว่าเรื่องแรก โดยมีเนื้อหาที่แปลกจากซีรีส์หมอทั่วไป เพราะเกี่ยวกับหมอชันสูตรที่ผสมกับการสืบสวนเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตในคดีต่างๆ ซึ่งพระเอกก็คือหมอคนนั้นและบอกได้เลยว่าเก่งและฉลาดมากจริงๆ โดยในเรื่องจะมีการชันสูตรผ่าศพ การตรวจสอบหาสารเคมี ขั้นตอนการเก็บหลักฐานจากสถานที่เกิดเหตุ ทั้งรอยนิ้วมือ ตรวจDNA เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงของคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้น ร่วมกับการสืบสวนจากฝั่งนางเอกที่เป็นอัยการ 

ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ มีการพลิกไปพลิกมาให้หาตัวฆาตกรได้ยาก แต่เนื้อหากลับไม่ยืดเยื้อ โปรดักชั่นภาพเสียงสมจริง บางตอนดูคนเดียวยังแอบหลอนนิดๆ คือทำได้ดีทีเดียว ไม่ต่างจากซีรีส์อเมริกาเลย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เรารู้ว่าหมอชันสูตรมีความสำคัญอย่างมาก ในการพิสูจน์หาความจริง คือสามารถพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือได้เลยล่ะ ตอนนี้จบอยู่ที่ซีซัน 2 ยังไม่รู้เลยว่าซีซัน 3 จะมาเมื่อไหร่  

3. The Good Doctor

เข้ามาไม่กี่วันก็ทำให้ติดชาร์ตใน Netflix ไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งความจริงแล้วเรื่องนี้มีด้วยกันถึง 3 เวอร์ชัน คือของเกาหลีที่เป็นต้นฉบับ ตามด้วยอเมริกา และญี่ปุ่น แต่เราจะขอพูดถึงเวอร์ชันอเมริกา

โดยเล่าเรื่องราวถึง ฌอน เมอร์ฟี่ เป็นศัลยแพทย์ที่มีภาวะออทิสซึม หรือที่เรียกว่าโรคออทิสติก แต่เค้าเป็นอัจฉริยะที่สามารถวินิจฉัยโรคได้แม่นยำ แต่ไม่มีใครถูกต้องเสมอไป หรือการเป็นอัจฉริยะก็ใช่ว่าจะรักษาคนไข้ไว้ได้ทุกคน และอีกหนึ่งอุปสรรคของเค้าคือความไว้วางใจ จากคนไข้รวมถึงแพทย์ด้วยกัน

ส่วนตัวชอบเรื่องนี้ตรงที่ ไม่ค่อยเน้นความดราม่าของการที่ตัวเอกเป็นออทิสซึม แต่กลับพุ่งเป้าไปที่การรักษาโรคต่างๆ อย่างจริงจัง ซึ่งแต่ละเคสที่เกิดขึ้นมีความน่าสนใจแตกต่างกันออกไป ทำให้เนื้อหาไม่น่าเบื่อ และรู้สึกอยากเอาใจช่วยในทุกๆ ตอน เพื่อให้ ฌอน เมอร์ฟี่ ได้กลายเป็นศัลยแพทย์ที่ดี โดยใน Netflix มีให้ดูถึง 3 ซีซันด้วยกัน ที่ยังไม่จบเพียงแค่นี้แน่นอน

ขอบคุณภาพ : showbizjunkies

4. New Amsterdam

กลายเป็นว่าเรื่องนี้คือดราม่าที่สุดใน 3 เรื่อง บอกเลยว่าคุณจะต้องเสียน้ำตาแน่ๆ ส่วนตัวไม่ค่อยชอบภาพยนตร์หรือซีรีส์ที่ดราม่าเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้กลับทำให้รู้สึกว่าเป็นอีกหนึ่งที่ไม่ซีรีส์ควรพลาดจริงๆ

โดยยังคงคอนเซ็ปต์เกี่ยวกับหมอ แต่เป็นหมอที่เป็นถึงผู้อำนวยการของโรงพยาบาลรัฐอเมริกา ซึ่งพระเอกคือผู้อำนวยการคนใหม่ ที่ต้องเข้ามาดูแลจัดการปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเมือง การรักษาคนไข้ การดูแลหมอพยาบาลและเจ้าหน้าที่ทุกคน รวมไปถึงชีวิตส่วนตัว ที่มีมาทดสอบให้พระเอกได้แก้ไขจัดการอยู่ตลอด

ซี่งเราจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่า การเป็นหมอที่ต้องบริหารโรงพยาบาลให้ดี และรักษาคนไข้ทุกคนให้ออกมาเท่าเทียมนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เปิดมุมมองใหม่ๆ ให้แก่ผู้ดูได้ดีมาก รับประกันว่าสนุกแน่นอน รอติดตามซีซัน 3 อย่างใกล้ชิดที่ไม่รู้จะได้ดูเมื่อไหร่

ขอบคุณภาพ : channelwatchers

วันไหนว่างๆ หรือทำงานหนักเครียดมาหลายวัน การดูซีรีส์เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยผ่อนคลายอารมณ์ ให้เรารู้สึกสนุกสนานได้บ้าง ซึ่งซีรีส์ที่รีวิวมานั้นรับรองว่าได้ครบทุกอารมณ์ ทั้งสนุก ซึ้ง และได้ความรู้ไปในตัวอีกด้วย