วิธีตรวจห้องน้ำคอนโด ก่อนก้าวเท้าเข้าใช้งานจริง

ไม่ว่าจะซื้อคอนโดหรือแค่เช่าอยู่ ก็ควรตรวจความเรียบร้อยของห้องก่อนย้ายเข้าอาศัย โดยเฉพาะห้องน้ำ ซึ่งเป็นจุดที่ถ้ามีปัญหาขึ้นมาแล้ว จะทำให้แก้ไขค่อนข้างลำบาก โดยเรามีวิธีการเช็กที่สามารถทำได้ด้วยตนเองแบบไม่ยาก เพื่อดูว่าห้องน้ำเป็นไปตามมาตรฐานรึเปล่า

ห้องน้ำสร้างแบบไหน

ถ้าเป็นคอนโดห้องน้ำจะถูกสร้างอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ ห้องน้ำแบบก่อสร้างเอง อันนี้ต้องตรวจสอบให้ละเอียด แต่เดี๋ยวจะอธิบายในข้อต่อๆ ไป และอีกแบบคือ ห้องน้ำสำเร็จรูป อันนี้ง่ายขึ้นมาหน่อย ซึ่งจะยกพื้นสูงกว่าพื้นห้อง และเป็นการสร้างมาจากโรงงาน แบบครบทุกองค์ประกอบทำให้ได้มาตรฐานพอสมควร เพียงแค่เปิดน้ำแล้วดูว่ามีรอยรั่วซึม และน้ำระบายลงท่อดีหรือไม่ ส่วนตัวเคยใช้ห้องน้ำแบบนี้แล้ว คือโอเคเลยแหละ

ตำแหน่งห้องน้ำบอกจุดที่ต้องระวัง

สิ่งที่ต้องระวังหาก ห้องน้ำอยู่ในห้องนอนหรือห้องนั่งเล่น คือเรื่องของความเป็นส่วนตัว ถ้าอยู่คนเดียวไม่มีปัญหา แต่บางคนแชร์ห้องอยู่กับเพื่อนหรือญาติมาหาบ่อยๆ เวลาทำธุระในห้องน้ำเสียงจะทะลุออกมาได้ง่าย อีกทั้งเวลาน้ำรั่วไหลออกมานอกห้อง ความกังวลที่เพิ่มเข้ามาคือ การบวมน้ำของพื้นไม้ที่ส่วนใหญ่เป็นลามิเนต ตรงข้ามกับห้องน้ำที่อยู่ในห้องครัว ที่โครงการจะปูเป็นกระเบื้องเลยไม่ต้องกังวลเท่าไหร่ แต่ต้องดูเรื่องของความสะดวกในการเข้าใช้งานด้วยนะ 

ประตูกั้นน้ำไหลออก

ส่วนตัวคิดว่าประตูเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญของห้องน้ำอย่างมาก เพราะเป็นตัวช่วยไม่ให้น้ำไหลออกนอกห้อง และต้องมีความทนทานกันน้ำได้ดี ถามกับเซลล์หรือเจ้าของห้องว่าเป็นประตูแบบไหน ถ้าเป็นประตูไม้ธรรมดาต้องคอยเช็ดทุกครั้งที่น้ำกระเด็น และเสี่ยงต่อการบวม พอใช้นานๆ ไปทำให้เปิดปิดประตูลำบาก และดูไม่สวยงามอีกด้วย

ขนาดของอ่างล้างหน้า

โครงการส่วนมากจะเลือกอ่างล้างหน้าแบบฝังไม่ก็วางบนเคาน์เตอร์ โดยตัวอ่างพอเข้าใจได้ถ้าจะมีขนาดไม่ใหญ่เท่าไหร่ แต่ต้องมีความลึกประมาณหนึ่ง ไม่อย่างนั้นเวลาเปิดน้ำใช้งานจะกระเด็นเลอะพื้น และให้เปิดน้ำทิ้งไว้โดยปิดสะดืออ่าง พร้อมสังเกตว่ามีน้ำรั่วซึมตรงใต้อ่างไหม เสร็จแล้วเปิดสะดืออ่าง เพื่อดูว่าน้ำไหลทิ้งเร็วมากน้อยแค่ไหน เพื่อตรวจสอบการระบายของน้ำนั่นเอง

ธรณีแยกส่วนเปียกส่วนแห้ง

เช่นเดียวกับธรณีในเรื่องของการกันให้น้ำอยู่ในเฉพาะพื้นที่เปียก นั่นหมายความว่า ต้องกั้นสูงกว่าพื้นประมาณ 5-10 เซนติเมตร และซีลซิลิโคนกันน้ำซึม แต่แนะนำให้ติดฉากกั้นเพิ่มถ้าโครงการไม่มีมาให้ เพราะจะยิ่งช่วยให้น้ำไม่ไหลไปส่วนอื่นๆ และไม่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุลื่นล้ม

การติดตั้งชักโครก

อันดับแรก ลองใช้มือดันชักโครกรวมถึงฝา ว่ามีการขยับเขยื้อนรึเปล่าเพื่อเช็กความแข็งแรง และใส่เศษขนมปังลงไปแล้วกดน้ำ ซึ่งเศษเหล่านี้ควรออกจนหมดในครั้งเดียว กดเสร็จแล้วสังเกตว่าน้ำหยุดไหลเร็วหรือช้า ที่สำคัญน้ำจะต้องไม่ซึมตรงวาล์วน้ำหลังชักโครก

ความลาดเอียงของพื้น

เทน้ำราดพื้นให้ทั่วในห้องน้ำ ไม่ว่าจะเป็นส่วนเปียกหรือส่วนแห้ง หลังจากนั้นดูว่าน้ำไหลไปรวมกันที่ท่อน้ำทิ้งไหม และมีต้องไหนที่น้ำขังรึเปล่า ถ้ามีต้องรีบให้ช่างเข้ามาแก้ไข รวมถึงลองสาดน้ำเบาๆ ใส่ประตูห้องน้ำ เพื่อตรวจสอบว่าน้ำจะต้องไม่ไหลออกไปนอกห้อง 

เงยหน้าเช็กฝ้าเพดาน

เนื่องจากอยู่ในคอนโด มีหลายร้อยห้องที่อยู่เหนือห้องเราขึ้นไปอีก และโครงการมักจะสร้างห้องน้ำในตำแหน่งเดียวกันทั้งหมด เพื่อให้งานต่อการสร้างและการวางระบบ จึงต้องตรวจสอบด้านบนเพดานว่ามีรอยน้ำรั่วซึมหยดมาจากข้างบนห้องอื่นไหม 

ถึงแม้ว่าห้องน้ำจะมีพื้นที่ขนาดเล็กสุดในห้อง แต่จะเห็นแล้วว่ามีจุดที่ต้องเช็กเยอะพอสมควร และถ้าจะให้ดีควรสอบถามกับเซลล์เกี่ยวกับวัสดุ และสุขภัณฑ์ว่าเป็นของอะไรบ้างเพิ่มเติมเพื่อจะได้มาคิดไตร่ตรองให้ดี ว่ามีคุณภาพมากพอที่เราจะอยู่ได้ตลอด โดยไม่สร้างความเสียหาย