
Home
คนส่วนใหญ่ยุ่งอยู่กับการทำงาน จนไม่ทันระวังว่า...เราทำงานหาเงิน แต่โลกการเงินมันเปลี่ยนไปแล้ว ก่อนอื่นมาว่ากันก่อนดีกว่าครับว่าคำว่า "ชีวิตธรรมดา" ในที่นี้หมายถึงอะไร ?
สำหรับผมมันหมายถึง คนที่ตื่นเช้าไปทำงาน ทำงานได้ตามที่หัวหน้ามอบหมาย ถึงเที่ยงก็พักทานข้าว แวะคุยกับเพื่อนร่วมงานพอให้กระชุ่มกระชวย จากนั้นทำงานต่อถึงเย็น ขับรถฝ่ารถติดถึงบ้านมืดๆ กินข้าวพักผ่อนกับครอบครัวจนหมดวันไป
วันหยุดก็เดินห้างพักผ่อนไปตามภาษา ใช้เงินเดือนชนเดือนเหลือเก็บนิดหน่อย วันพักร้อนใช้ไปกับการให้รางวัลตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว หาอาหารอร่อยๆ ทาน หรือนอนดู Netflix อยู่บ้าน คนจำนวนไม่น้อยเลยที่ไม่ได้อยากเครียด ไม่ได้อยากได้อะไรมากมาย พวกเค้าแค่อยากได้ชีวิตธรรมดา...เท่านั้นเอง
แต่! โลกกำลังกดดันคนกลุ่มนี้ ไม่ว่าพวกเค้าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม อะไร? ยังไง?
ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นไม่สอดคล้องกับรายได้ ไม่ต้องดูไกลเลยครับ สมัยก่อนเราผ่อนบ้านกัน 10-20 ปีหมด สมัยนี้ขนาดผ่อน 30 ปี ค่าผ่อนยังกินเงินเดือนเราไปเกือบหมด อย่าว่าแต่จะมีเหลือเก็บเลย ใช้เดือนชนเดือนก็ยังไม่ง่ายหรือต่อให้เราเก็บได้จริงๆ ซัก 10 % ของรายได้ ด้วยดอกเบี้ย 0% ในปัจจุบันเงินจะไม่งอกเงย เก็บเงินไว้ในธนาคารเท่าไหร่มันก็จะมีเท่าเดิมด้วยอัตราเงินเก็บ 10% (10 หยิบ 1) ถ้าเราเก็บ 10 ปี จะพอให้เราใช้หลังเลิกทำงาน 1 ปี ถ้าเราทำงาน 30 ปี จะมีเงินเก็บพอใช้ 3 ปี... อ่าว ! 3 ปีเอง !
พอผมบอกแบบนี้หลายคนบอกผมว่า "ไม่ใช่นะพี่ หลังเกษียณ ค่าใช้จ่ายเราจะน้อยลง เงินที่ใช้ได้ 3 ปี อาจจะกลายเป็น 4-5 ปี" ใช่ครับ แต่ต่อให้เราใช้น้อยลงครึ่งหนึ่ง จาก 3 ปี ก็กลายเป็น 6 ปี ซึ่งก็ไม่พออยู่ดีและที่สำคัญนี่ยังไม่ได้คิดเงินเฟ้อเลยนะครับ ข้าวของจะแพงขึ้นอีก การคิดว่ารายจ่ายจะน้อยลงในอนาคต มันอาจจะไม่เกิดขึ้นจริง
บางคนบอก... ถ้างั้นกินเงินจาก Passive income ไหม? ให้ทรัพย์สินมันเลี้ยงเราซะ! Cool cool ! ได้ครับ! แต่เราต้องไม่ลืมว่า ก่อนจะให้ทรัพย์สินมันเลี้ยงเราได้เนี่ย เราต้องมีทรัพย์สินก่อนถ้าคิดที่ผลตอบแทน 5% เราก็ต้องมีทรัพย์สินขนาดพอกิน 20 ปี เพื่อที่จะให้มันสร้าง Passive income มาให้เราพอใช้ในแต่ละปี
ไม่ว่าคุณจะกินเงินเก็บหรือใช้ passive income ล้วนแล้วแต่ต้องมีเงินเก็บก้อนใหญ่ ทั้งหมดนี้ แค่เพื่อที่จะใช้ชีวิตธรรมดา เท่านั้นเอง... ไม่แปลกเลยครับ ที่หลังๆ เราจะเห็นคนถกกันเยอะ ในประเด็น "โลกนี้ไม่มีที่ว่างให้คนธรรมดาเลยหรอ" สำหรับผม ผมว่ามีนะ ที่ว่างสำหรับคนธรรมดาแต่ต้องเป็นคนธรรมดาที่พร้อมจะออกแรง หรือทำอะไรที่เยอะกว่าปกติซักหน่อย
✅ เงินออมและการลงทุนไม่ใช่ทางเลือกแต่เป็นทางรอด
กลับไปที่โจทย์เดิม เก็บ 10% 30 ปี คุณเชื่อไหมครับว่าถ้าคุณลงทุนให้ได้กำไรซัก 8% ต่อปี (ซึ่งอันนี้ไม่ต้องเป็น superman คนธรรมดาก็พอจะทำได้) เงินคุณจะเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า หรือพูดง่ายๆ ก็คือ จากที่เคยพอใช้แค่ 3 ปี จะพอใช้ถึง 12 ปี ด้วยอัตราการเก็บเงิน 10% เท่าเดิม เอาล่ะ ฮึบๆๆๆ เริ่มเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ ใกล้ถึง 20 ปี แล้ว ทำยังไงต่อดี
✅ อย่ามองแต่ข้อเสีย โลกสมัยใหม่ก็มีข้อดี
ข้อดีที่เด่นชัดของโลกสมัยใหม่ก็คือ มีช่องทางหาเงินที่หลากหลายกว่าสมัยก่อนมาก ใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ให้เต็มที่เลยครับ ! ใครชอบขายของก็เริ่มได้เลย ใครชอบทำขนมก็อย่ารอช้า ใครชอบงานเขียนก็เริ่มได้ตั้งแต่วันนี้ ไม่ว่าคุณจะชอบทำอะไร สมัยนี้สามารถเอามาเป็นอาชีพเสริมได้ทั้งนั้น
หารายได้เพิ่มให้ได้ซัก 10% อันนี้ไม่ยากเกินไป คนธรรมดาก็พอจะทำได้ ถ้าคุณใช้จ่ายเท่าเดิม เงินเก็บจากเดิมที่ 10% จะเพิ่มเป็น 20% หรือ ถ้าให้พูดง่ายๆ ก็คือ เงินที่เคยเก็บจนพอใช้ 12 ปี จะกลายเป็น 24 ปี ! และแล้ว พวกเราก็มาถึง แสงสว่างปลายอุโมงค์ ทางออกสำหรับคนที่อยากใช้ชีวิตธรรมดา
เขียนมาตั้งยืดยาว ผมแค่อยากจะชี้ให้เห็นว่า โลกการเงินมันเปลี่ยนไปแล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีที่ว่างให้กับคนธรรมดา ที่ว่างนั้นยังมีอยู่เสมอครับ ขอแค่คุณพร้อมที่จะออกแรง ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยซักหน่อย แน่นอนครับว่ามันไม่ได้ง่าย มนุษย์เราเกิดมาพร้อมกับความเป็นตัวเอง การปรับเปลี่ยนอะไรมันเลยไม่เคยง่าย แต่เชื่อผมเถอะครับ ... ทุกคนทำได้ เป็นกำลังใจให้คนธรรมดาครับ
เข้าใจลึกซึ่งเลยครับ 555555
เขียนบทความน่าอ่านมากเลย
บทความดี รักษาคุณภาพต่อไปค่ะ ติดตามๆ
รีวิวดี ภาพชัดเจน
บทความดีครับ
สุดยอดครับ