Favorite
เอาจริงๆ แม้ว่าเจ้าฝุ่น PM 2.5 จะเบาบางลง (บางพื้นที่) จนอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แต่ก็ยังไม่ได้หายไปสักทีเดียว และต่อให้หมดไปแล้วนั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะกลับมาไม่ได้นิน่า! ดังนั้นอะไรที่เค้าขอความร่วมมือในการงดหรือห้ามทำสิ่งนั้นๆ แล้วเราเห็นว่าสามารถทำได้ ก็ช่วยๆ กันเนอะ (แต่ห้ามนั่งรถคนเดียวคงจะยากไปนิดอ่า แหะๆ)
และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมกับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นแบบไม่คาดคิด ประมาณว่าเผื่อบางทีเจ้าฝุ่น PM 2.5 เกิดคิดถึงแบบจัดหนักอยากกลับมาหาเราอีกอะไรแบบนี้ 5555 เราจะได้รับมืออย่างทันท่วงที… ฉะนั้นแล้วเรา มาสร้างหลุมหลบภัยให้น่าอยู่กันเถอะ… หลุมที่ว่าก็คือในบ้านหรือห้องในคอนโดของเรานั่งเองงงง
1. ทำห้องให้อากาศดี
แต่ต้องไม่ใช่การเปิดหน้าต่างระบายอากาศนะ ตรงกันข้ามกลับต้องปิดประตูหน้าต่างให้สนิทเสียด้วยซ้ำ โดยเฉพาะใครที่อยู่คอนโดสูงๆ ไม่จำเป็นก็อย่าเปิดเลย เพราะยิ่งสูงยิ่งหนาว? 5555 ยิ่งสูงฝุ่นยิ่งหนาต่างหากกกก แต่ก็อีกนั่นแหละจะให้ปิดตาย ไม่ออกไปไหนเลยก็คงเป็นไปไม่ได้อ่ะเนอะ เพราะเราก็ต้องออกจากบ้านไปทำงาน เรียน หรือแม้กระทั่งออกไปตากผ้า ทิ้งขยะ จึงไม่ต้องสงสัยถ้าฝุ่นจะเล็ดลอดเข้ามาข้างในบ้างไม่มากก็น้อย
เราเลยต้องหมั่นทำความสะอาดดูดฝุ่น เช็ดถูพื้นเป็นประจำ รวมไปถึงซักเครื่องนอน พวกปลอกหมอน ผ้าห่ม ผ้าปู ตุ๊กตุ่นตุ๊กตาทั้งหลายแหล่อยู่ตลอด และถ้าแค่นี้อาจยังไม่เพียงพอ อยากจะซื้อเครื่องฟอกอากาศสักตัวหรือหลายๆ ตัว มาไว้ในบ้านในห้องก็ทำได้เช่นเดียวกัน
หลังจากข้อนี้คนที่มีบ้านมีห้องเป็นของตัวเองอยู่แล้วบางข้ออาจจะปรับเปลี่ยนได้ยาก แต่ถ้าใครกำลังเล็งหาที่อยู่อาศัยใหม่และกังวลกับปัญหาของฝุ่นทั้ง PM 2.5 และฝุ่นแบบต่างๆ นานา ลองเอาสิ่งเหล่านี้ประกอบพิจารณาดูละกันเนอะ
2. พื้นๆ
ตัดทิ้งเรื่องอยากปูพรมออกไปได้เลยเป็นอันดับแรก เพราะพวกนี้คือแหล่งที่อยู่อาศัยของฝุ่นชั้นดี ถ้าเปรียบเป็นคนก็แบบว่ามีบ้านมีคอนโด 5 ล้านอัพอ่ะ ซึ่งทางที่ดีก็ควรเลือกพื้นที่มีลักษณะทำความสะอาดง่าย อย่างพื้นปูน กระเบื้อง กระเบื้องยาง เป็นต้น
3. เฟอร์นิเจอร์
เลือกซื้อของเท่าที่จำเป็น และดูลักษณะที่ไม่สะสมเก็บฝุ่นเกินไปนัก ยกตัวอย่างชั้นวางทีวี ตู้เก็บของ ตู้เสื้อผ้าก็ควรมีฝาปิดไม่เปิดโล่ง ส่วนโซฟาหรือที่พิงหัวเตียง โดยส่วนตัวแล้วไม่แนะนำแบบผ้ากำมะหยี่ รวมไปถึงการวางของตกแต่งมากมาย ซึ่งทำให้เป็นที่กักเก็บของฝุ่นและทำความสะอาดได้ค่อนข้างยาก
4. ผ้าม่าน
มีหลายแบบหลายสีมากกกก (เราเคยเลือกแล้วถึงกับตาลาย 555) ซึ่งถ้าใครไม่อยากให้มีฝุ่นในบ้านเยอะ ตัวเลือกในการเลือกผ้าก็จะน้อยลงมาหน่อย โดยผ้าที่ใช้ก็อาจจะมีลักษณะผิวเรียบหรือเงาได้นิดนึง หรือจะใช้เป็นม่านม้วน ที่ลักษณะผ้าจะเป็นโพลีเอสเตอร์ พวกนี้จะไม่อมฝุ่นเท่าไหร่เมื่อเทียบกับแบบอื่นๆ (แต่ก็ต้องขยันซักหรือดูดฝุ่นเอาด้วยนะ สัก 1-2 เดือนครั้งก็ยังดี)
5. แอปพลิเคชั่นเช็กค่าฝุ่น
ถามว่าข้อนี้เกี่ยวอะไรกับการจัดห้อง… ก็ไม่เกี่ยวหรอก 5555 แต่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่สามารถให้เราเช็กได้ว่า ในบ้านหรือในห้องที่เราอยู่นั้นมีเจ้าฝุ่น PM 2.5 แอบซ่อนอยู่มากน้อยแค่ไหน ซึ่งก็มีแอปที่เกี่ยวข้องอยู่จำนวนไม่น้อยให้เราได้โหลดมาใช้กัน เช่น AirVisual, Air Matters, Aur4Thai เป็นต้น
เพียงเท่านี้น่าจะทำให้หลุมหลบภัยของเราปลอดฝุ่นหรือมีน้อยลงได้อย่างไม่ยาก แต่อย่างไรก็ตามสเต็ปการจัดห้องที่เราบอกมาข้างต้น ไม่ได้กำหนดตายตัวว่าทำได้ก็ต่อเมื่อมีฝุ่น PM 2.5 คนที่เป็นภูมิแพ้ คนรักความสะอาด คือเอาง่ายๆ ว่าใครก็สามารถเอาไปประยุกต์ใช้กับบ้านหรือห้องของตัวเองได้ทั้งนั้น
เตรียมพร้อมไว้ก่อนก็ไม่เสียหาย ถ้าไม่มีอะไรก็ถือว่าเป็นเรื่องดีไป แต่ถ้าเกิดขึ้นมาอีกเราไม่หวั่นละ ใครจะว่าเวอร์ก็อย่าไปแคร์ค่าาา… เพราะชีวิตต้องตั้งอยู่บนความไม่ประมาท (คมไปอี๊กกกกกก อิอิ)
There will be experts in the area contacting you soon.
If you don't need help anymore Please click cancel in the email you received.
เยี่ยมเลยค่ะ
อ่านไม่เบื่อเลยค่ะ
เขียนบทความน่าอ่านมากเลย
ชอบมากเลยครับ บทความเเนวนี้ ไม่น่าเบื่อ
ชอบเรื่องไอเดียแต่งบ้าน ได้ความหลากหลายดีกำลังวางแพลนจะซื้อบ้านเลย เอาเรื่องไอเดียมาอีกเยอะๆนะค่ะ
บทความดี รักษาคุณภาพต่อไปค่ะ ติดตามๆ