
Home
อย่างที่ทุกคนรู้ว่าชาวต่างชาติไม่สามารถเป็นเจ้าของที่ดินในไทยได้ (ยกเว้นมีคุณสมบัติตามเงื่อนไข) แต่ก็ยังมีบางคนยอมเป็น “นอมินี” ถือครองที่ดินแทน เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง คำถามคือทำไมถึงมีคนกล้าทำผิดกฎหมาย? บทความนี้จะพาไปดูบทลงโทษของการเป็นนอมินีถือครองที่ดินแทนชาวต่างชาติ
ทำไมคนต่างชาติถึงต้องใช้นอมินี?
จะพูดว่าชาวต่างชาติไม่มีสิทธิถือครองที่ดินในไทยได้เลยก็ไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะภาครัฐเองก็มีนโยบายให้ให้สิทธิชาวต่างชาติถือครองได้ เมื่อนำเงินเข้ามาลงทุนในประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขอื่น ๆ ที่กฎหมายกำหนด
แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีเงินทุนตามเกณฑ์ หรือบางคนอาจแค่ต้องการมีบ้านหลังที่สองในไทย ไม่ได้อยากเข้ามาลงทุน ทำให้ชาวต่างชาติบางกลุ่มใช้ทางลัดโดยอาศัย “นอมินี” หรือคนไทยที่ยินยอมให้ใช้ชื่อถือครองที่ดินแทน เพื่อให้ดูเหมือนว่าเจ้าของเป็นคนไทย ทั้งที่เบื้องหลังคนต่างชาติคือเจ้าของตัวจริง
วิธีการใช้คนไทยเป็นนอมินี
สำหรับวิธีที่ชาวต่างชาติใช้คนไทยเป็น “นอมินี” มีอยู่ 2 วิธีหลัก ๆ ด้วยกัน ดังนี้
1. การจัดตั้งบริษัทจำกัดโดยมีคนไทยถือหุ้นใหญ่
หนึ่งในวิธีที่ชาวต่างชาติมักใช้เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดการถือครองที่ดินในประเทศไทยคือ การจัดตั้งบริษัทจำกัดโดยมีคนไทยถือหุ้นใหญ่ 51% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด แต่ในความเป็นจริงคนไทยเหล่านั้นอาจลงทุนน้อยกว่านั้น หรือไม่ได้ลงทุนเลยด้วยซ้ำ เงินลงทุนมาจากชาวต่างชาติทั้งสิ้น
และที่สำคัญกว่านั้นคือ อำนาจในการบริหารจัดการและการตัดสินใจทุกอย่างในบริษัท รวมถึงการซื้อขายหรือการทำธุรกรรมเกี่ยวกับที่ดินและอสังหฯ จะถูกควบคุมโดยชาวต่างชาติทั้งหมด
2. การให้คนไทยถือครองในนามส่วนตัว
สำหรับในกรณีของชาวต่างชาติที่เป็นบุคคลทั่วไป ที่ต้องการถือครองที่ดินในไทยเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย อาจจะใช้วิธีการแต่งงานกับคนไทย แล้วใครคู่สมรสที่มีสัญชาติไทยถือกรรมสิทธิ์ แต่ก็มีบางคนจ้างเพื่อน หรือคนรู้จักถือครองแทน แล้วตกลงผลประโยชน์กันเบื้องหลัง
เมื่อบนหน้าเอกสารทำถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ถามว่าเจ้าหน้าที่จะรู้ได้ยังไงว่ามีการใช้นอมินี ต้องบอกว่าหลาย ๆ เคสที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่มีการพบความผิดปกติบางอย่าง เช่น คนไทยที่มีรายได้ไม่มาก แต่กลับถือหุ้นใหญ่ในบริษัท หรือถือครองที่ดินหลายแปลงในทำเลทอง จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการขยายผลสืบสวนนั่นเอง
บทลงโทษสำหรับคนไทย หรือนิติบุคคลที่เป็นนอมินี
ตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 มาตรา 36 ระบุว่า คนไทยหรือนิติบุคคลที่ให้ความช่วยเหลือ หรือสนับสนุน หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าว เพื่อให้คนต่างด้าวสามารถทำธุรกิจในไทยได้โดยหลีกเลี่ยงกฎหมาย พูดง่าย ๆ คือเป็นนอมินี
มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับ 100,000-1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลจะสั่งให้เลิกช่วยเหลือ หรือเลิกถือหุ้นนั้นด้วย แต่ถ้ายังคงทำความผิดกฎหมายอยู่ จะโดนโทษปรับวันละ 10,000-50,000 บาท จนกว่าจะเลิกฝ่าฝืน
ส่วนพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 มาตรา 111 ระบุว่า ถ้าผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 112 ระบุโทษของนิติบุคคลว่า ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท และมาตรา 113 บอกว่าใครครอบครองที่ดินด้วยการเป็นตัวแทนของต่างด้าว หรือนิติบุคคล มีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ ยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 267 ฐานแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ โดยต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และมาตรา 137 ฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ชาวต่างชาติถือครองที่ดินในไทยต้องทำยังไง?
ชาวต่างชาติจะสามารถถือครองที่ดินในประเทศไทยได้ก็ต่อเมื่อมีคุณสมบัติตามเงื่อนไขต่อไปนี้
1. รับมรดกในฐานะทายาทโดยธรรม
ต้องเป็นชาวต่างชาติที่มีสิทธิรับมรดกในฐานะทายาทโดยธรรม ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 93 โดยที่ดินทีได้รับเมื่อรวมกับที่ดินที่มีอยู่แล้วต้องไม่เกินจำนวนที่มาตรา 87 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินกำหนด
เช่น มีที่ดินสำหรับอยู่อาศัย ไม่เกิน 1 ไร่/ครอบครัว มีที่ดินที่ใช้เพื่ออุตสาหกรรม ไม่เกิน 10 ไร่ ใช้เพื่อเกษตรกรรม ไม่เกิน 10 ไร่/ครอบครัว เป็นต้น
2. ลงทุนตามมาตรา 96 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน
ชาวต่างชาติที่นำเงินมาทุนในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท ในธุรกิจหรือกิจการตามกฎกระทรวง เช่น ซื้อพันธบัตรรัฐบาลไทย, พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย, พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ
หรือพันธบัตรที่กระทรวงการคลังค้ำประกันเงินต้น หรือดอกเบี้ย หรือลงทุนในทุนเรือนหุ้นของนิติบุคคลที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน เป็นต้น
3. รับโอนที่ดินตามกฎหมายอื่น ๆ ได้แก่
แต่ถ้าชาวต่างชาตินั้นเลิกกิจการที่ได้รับการส่งเสริม หรือโอนกิจการนั้นให้แก่ผู้อื่น ก็จะต้องที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ถือกรรมสิทธิ์ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่เลิกหรือโอนกิจการ หากเกินระยะเวลาที่กำหนด อธิบดีกรมที่ดินมีอำนาจขายที่ดินนั้น
แต่ถ้ามีการเลิกกิจการหรือโอนกิจการใหแก่ผู้อื่น จะต้องขายที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ถือกรรมสิทธิ์ให้แก่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) หรือผู้รับโอนกิจการ แล้วแต่กรณี ภายใน 3 ปีนับแต่วันที่เลิกหรือโอนกิจการ หากเกินกำหนดอธิบดีกรมที่ดินมีสิทธิขายที่ดินนั้นให้แก่ กนอ.
พร้อมให้สิทธิถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุด โดยได้รับการยกเว้นจากการจํากัดสิทธิของคนต่างด้าวตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด และผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ จะต้องไม่เกินที่กําหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน หรือกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
อย่าคิดว่าแค่ใช้ชื่อถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินแทนชาวต่างชาติแล้วจะไม่มีใครรู้ เพราะเจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบความผิดปกติได้ ที่สำคัญการเป็น “นอมินี” ผิดกฎหมาย มีโทษทั้งจำทั้งปรับอย่างที่บอกไปในบทความ แม้จะได้เงินตอบแทน แต่ก็ไม่คุ้มกับความเสี่ยงหรือบทลงโทษที่ตามมา
บทความที่เกี่ยวข้อง
เงื่อนไขชาวต่างชาติเช่าที่ดิน ของเพื่อนบ้านประเทศอาเซียน
ตม.30 TM30 คืออะไร เรื่องสำคัญก่อนปล่อยเช่าให้ชาวต่างชาติ
ถอดบทเรียน รัฐบาลสิงคโปร์ แก้ปัญหาผูกขาดซื้อบ้านจากชาวต่างชาติ
จะปล่อยเช่าคอนโดให้ชาวต่างชาติ ต้องรู้อะไรบ้างล่ะ?
ขอบคุณที่มา
www.dbd.go.th/data-storage/attachment/0cc518d10391bc42f984225d5.pdf
www.dol.go.th/registry/Pages/default.aspx
www.facebook.com/share/p/16iD7zprfZ/
มัดรวม 10 คอนโดมี EV Charger รองรับลูกบ้านที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า
2024-10-04
ส่องข้อมูล ชาวต่างชาติซื้อคอนโดสูงขึ้น ในไตรมาส 1 ปี 2567
2024-07-10
ดูแลบำรุงรักษารางน้ำฝนอย่างไรดี
2024-11-20
ทำความรู้จักคอนโด BOI ราคาย่อมเยาเอื้อมถึงง่าย
2021-06-21
อสังหาริมทรัพย์ ลุยเปิดโครงการใหม่ ทิ้งท้ายไตรมาส 4 ปี 2566
2023-11-11
ขอบคุณผู้เขียนค่ะ เป็นประโยชน์มาก
อ่านง่ายดีค่ะ
5 ดาวไปเลยครับ
เป็นประโยชน์มากครับ กำลังตัดสิ้นใจพอดีครับ
well