
Home
ในสภาวะเศรษฐกิจซบเซา หลายคนเริ่มรู้สึกว่าการผ่อนบ้านหรือคอนโดเป็นภาระที่หนักขึ้นเรื่อย ๆ รายได้ที่เคยมีก็ลดลง แต่ค่างวดแต่ละเดือนยังเท่าเดิม บางคนจ่ายช้าบ้าง บางคนก็เริ่มหมุนเงินไม่ทันจนคิดว่า จะทำยังไงดีไม่ให้บ้านหลุดมือ…
หนึ่งในทางออกที่เรามักจะได้ยินอยู่เสมอก็คือ “การประนอมหนี้” แต่หลายคนก็ยังไม่แน่ใจว่าวิธีนี้ช่วยได้จริงไหม? หรือแค่ยืดระยะเวลาออกไปเฉย ๆ?
การประนอมหนี้คืออะไร? ช่วยยังไงได้บ้าง?
การประนอมหนี้ คือการเจรจากับธนาคารหรือเจ้าหนี้ที่เรากู้เงินมาซื้อบ้านหรือคอนโด เพื่อขอปรับเงื่อนไขการชำระหนี้ที่เราผ่อนไม่ไหว เช่น ลดค่างวดต่อเดือน ขยายระยะเวลาผ่อน หรือบางกรณีอาจขอพักชำระเงินต้นได้ชั่วคราว
ทางเลือกนี้เหมาะกับคนที่รายได้ลดลง หรือกำลังอยู่ในช่วงตั้งหลัก ช่วยให้สามารถประคองตัวไว้ได้โดยไม่ต้องปล่อยบ้านหลุดมือ แต่ในระหว่างที่อยู่ในช่วงประนอมหนี้ ก็ควรใช้โอกาสนี้วางแผนการเงินให้ดี เก็บเงินสำรองไว้สำหรับผ่อนต่อในอนาคต เพื่อไม่ให้กลับมาเจอปัญหาเดิมอีกครั้ง
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจประนอมหนี้
แม้การประนอมหนี้จะฟังดูเป็นทางออกที่ช่วยให้เราเบาใจได้ชั่วคราว แต่ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปคุยกับธนาคาร มีบางเรื่องที่ควรรู้ไว้ก่อน เพื่อไม่ให้การแก้ปัญหากลายเป็นการสร้างปัญหาใหม่ในระยะยาว
อย่างแรกเลยคือ แม้จะลดค่างวดลงได้ แต่โดยรวมเราอาจต้องจ่ายมากขึ้น เพราะส่วนใหญ่มักจะมาพร้อมกับการขยายระยะเวลาผ่อน เช่น จากเดิมที่ผ่อนอีก 20 ปี อาจกลายเป็น 25 ปี ซึ่งเท่ากับว่าแม้จะผ่อนน้อยลงในแต่ละเดือน แต่ดอกเบี้ยที่สะสมในระยะยาวก็จะเพิ่มขึ้นด้วย
อีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามคือ เครดิตของเราอาจมีผลกระทบบ้าง แม้จะไม่ถึงขั้นติดเครดิตบูโร แต่การประนอมหนี้ก็อาจทำให้ธนาคารพิจารณาว่าเราเป็นลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น ซึ่งในอนาคตถ้าอยากกู้เพิ่มหรือขอสินเชื่ออื่น อาจต้องใช้เอกสารประกอบมากขึ้นหรือเจอดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
สุดท้ายคือ ต้องพร้อมจริง ๆ ในการปรับตัว การประนอมหนี้จะช่วยได้ ก็ต่อเมื่อเราใช้โอกาสนี้ในการวางแผนการเงินใหม่จริงจัง ไม่ใช่แค่ผ่อนน้อยลงแล้วใช้เงินเหมือนเดิม เพราะสุดท้ายปัญหาเดิมก็อาจย้อนกลับมาอีกได้ง่าย ๆ
ถ้าผิดนัดชำระหลังประนอมหนี้ จะเกิดอะไรขึ้น?
แน่นอนว่าการประนอมหนี้เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยให้ภาระค่าใช้จ่ายเบาลงในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ถ้าหลังจากนั้นเราไม่สามารถทำตามข้อตกลงที่ให้ไว้กับธนาคารได้ ผลลัพธ์ก็อาจไม่ต่างจากการผิดนัดชำระหนี้แบบเดิม
หากยังคงผิดนัดชำระหลังจากประนอมหนี้จะมีประวัติในเครดิตบูโร ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการขอสินเชื่ออื่น ๆ ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต สินเชื่อรถ หรือแม้แต่การขอกู้บ้านใหม่อีกครั้ง
ที่สำคัญคือ อาจถูกเร่งรัดหนี้ทันที เพราะธนาคารจะมองว่าเราไม่มีวินัยทางการเงิน แม้จะได้รับโอกาสปรับโครงสร้างหนี้แล้วก็ตาม และอาจตัดสินใจ “บอกเลิกสัญญา” พร้อมดำเนินการทางกฎหมาย เช่น ฟ้องร้อง หรือนำบ้าน-คอนโดไปขายทอดตลาดทรัพย์สินเพื่อนำเงินมาชำระหนี้
การประนอมหนี้ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยให้คนที่เริ่มผ่อนบ้านหรือคอนโดไม่ไหว ได้มีทางออกก่อนจะถึงจุดที่ต้องเสียทรัพย์สินไป หากใครกำลังตกอยู่ในสถานการณ์นี้ และลังเลว่าควรประนอมหนี้ดีไหม? ลองเริ่มจากประเมินตัวเองให้ดี แล้วพูดคุยกับธนาคาร เพื่อหาแนวทางที่ดีที่สุด
บทความที่เกี่ยวข้อง
ปรับโครงสร้างหนี้ ดีหรือไม่เหมาะกับใคร
กลเม็ดเคล็ด (ไม่) ลับ กับเทคนิคโปะบ้านและคอนโด ที่ทุกคนสามารถทำได้
รู้ไหมว่า ! ติด Blacklist ก็สามารถกู้ซื้อบ้านและคอนโดได้
ความหมายที่แท้จริง คำว่า ‘เครดิตบูโร’
อ่านแล้ว รู้ความเคลื่อนไหวในวงการอสังหาเลยครับ ^^ ขอบคุณผู้เขียนครับ
ข้อมูลละเอียดดีครับ ขอบคุนสำหรับ ข้อมูลนะครับ
ยอดเยี่ยมมากๆค่ะ
เขียนบทความตามกระแส ทันเหตุการณ์ดีค่ะ
ขอบคุุณบทความดีดีค่ะ
สระน้ำกว้างมากเลย น่าเล่นน่าอยู่