เอสซีหันหัวรบบุกตลาดแมส-ทาวน์เฮาส์ต่ำ 3 ล้าน

เอสซี แอสเสทฯเปิดแผน 3 ปี สังคายนาพอร์ตสินค้าบุกตลาดแมส บ้านต่ำ 20 ล้าน-คอนโดฯ 1.2-2.5 แสนบาท/ตร.ม. ติดเบรกคอนโดฯลักเซอรี่ ปี"60 ตั้งเป้าเปิดตัวใหม่ 17 โครงการ 2.7 หมื่นล้าน คลอดทาวน์เฮาส์ต่ำ 3 ล้านบาท

นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เอสซีฯเริ่มปรับตัวเข้าสู่ยุค "เอสซี 4.0" ในปี 2560-2562 โดยมีกุญแจสำคัญ 3 ข้อ 1.ปรับพอร์ตสินค้าสู่ตลาดแมส 2.ทำการตลาดแบบ Human Centric เข้าใจลูกค้าในฐานะมนุษย์ บริษัทมีหน้าที่แก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยด้วยนวัตกรรม 3.เพิ่มเป้ารายได้ ปี 2562 ตั้งเป้าเติบโตเป็น 2 หมื่นล้านบาท
 

"เอสซี 1.0 เกิดขึ้นในช่วงปี"47-56 เน้นตลาดไฮเอนด์ เน้นคุณภาพบ้าน ช่วงเอสซี 2.0 ปี"57-59 ขยายตลาดมากขึ้น มีแบรนด์ใหม่ ๆ เช่น เพฟ ต่อไปเราจะกระโดดข้ามสู่เอสซี 4.0 เข้าสู่ตลาดแมสเต็มตัว แต่จะไม่ทิ้งกลุ่มบ้านไฮเอนด์" นายณัฐพงศ์กล่าว
 

ในด้านพอร์ตสินค้า รายได้มาจากโครงการแนวราบ 65% แนวสูง 30% อสังหาฯเพื่อเช่า 5% เมื่อปรับพอร์ตในปี"62 แล้วสัดส่วนยังใกล้เคียงเดิม เปลี่ยนแปลงเฉพาะกลุ่มราคา โดยกลุ่มแนวราบปัจจุบันมีพอร์ตราคามากกว่า 20 ล้านบาท 40% ลดเหลือ 33% กลุ่มราคา 5-20 ล้านบาท คงสัดส่วน 50% กลุ่มต่ำกว่า 5 ล้านบาท เพิ่มจาก 10% เป็น 17% 
 

ส่วนกลุ่มแนวสูง ปัจจุบันมีคอนโดฯราคาสูงกว่า 2.5 แสนบาท/ตร.ม. 60% สัดส่วนจะลดเหลือ 25% เน้นราคา 1.2-2.5 แสนบาท/ตร.ม. ที่มีสัดส่วนเพียง 10% จะเปิดเพิ่ม 8 โครงการใน 3 ปีให้มีสัดส่วนเพิ่มเป็น 60% และคอนโดฯต่ำกว่า 1.2 แสนบาท/ตร.ม. จาก 30% ลดเหลือ 15%
 

"รีเจ็กต์เรตในตลาดแมสเป็นปัจจัยลบก็จริง แต่ไซซ์ตลาดใหญ่คุ้มที่จะเข้าไปทำ ในส่วนแนวราบยังสร้างเป็นบ้านพร้อมอยู่ทั้งหมดเช่นเดิม ทำให้ใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือนในการส่งมอบบ้าน ถ้าหากกู้ไม่ผ่านเราก็นำบ้านกลับมาขายใหม่ น่าจะปิดความเสี่ยงตรงนี้ได้ ส่วนคอนโดฯลักเซอรี่มีขนาดตลาดไม่ใหญ่ ซึ่ง 3 โครงการ คือ ศาลาแดง วัน, บีทนิก, 28 ชิดลม ที่เปิดขายมีซัพพลายเพียงพอในการทำตลาด จะไม่เปิดเพิ่มมากกว่านี้" นายณัฐพงศ์กล่าว
 

นอกจากนี้ บริษัทสนใจลงทุนธุรกิจพร็อพเพอร์ตี้เทค เพื่อแก้ไขปัญหาด้านสินค้า การบริการ ตั้งต้นลงทุน 50 ล้านบาท อยู่ระหว่างพูดคุยพันธมิตรนายณัฐพงศ์กล่าวต่อว่า แผนลงทุนปี 2560 เตรียมเปิดตัว 17 โครงการ มูลค่า 2.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% แบ่งเป็นแนวราบ 15 โครงการ 18,250 ล้านบาท แนวสูง 2 โครงการ 8,750 ล้านบาท โดยมี 4 โครงการ มูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท ที่เลื่อนเปิดตัวจากปีที่แล้ว จะเปิดตัวภายในครึ่งปีแรก รวมทั้งเพิ่ม 1 แบรนด์ใหม่เพื่อทำตลาดทาวน์เฮาส์ราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท
 

ด้านเป้ายอดขาย ตั้งเป้า 1.6 หมื่นล้านบาท เติบโตจากเป้าปีก่อน 33% และเป้ารับรู้รายได้ 1.48 หมื่นล้านบาท ลดลงจากเป้าปีก่อน -2%

ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1485347285