
Home
“ลุมพินี วิสดอม” ระบุการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) เป็นพลังงานทางเลือกเพื่อการประหยัดพลังงานสำหรับที่อยู่อาศัย มีระยะเวลาคืนทุนภายใน 5 ปี ตอบโจทย์การพัฒนาที่อยู่อาศัยในปัจจุบันและอนาคตสำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์
นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด (LPN Wisdom หรือ LWS) บริษัทวิจัยและที่ปรึกษาในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) ระบุว่าปัจจุบันผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ได้มีการพัฒนาที่อยู่อาศัย โดยการนำพลังงานทางเลือกเข้ามาใช้เป็นอุปกรณ์พื้นฐานสำหรับที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและอาคารชุดพักอาศัย
โดยเฉพาะการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) หรือหลังคาโซลาร์เซลล์ โดยการนำแผงโซลาร์เซลล์ติดตั้งไว้บนหลังคาอาคารที่อยู่อาศัย เพื่อทำหน้าที่ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อใช้งานในระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในอาคาร
“ปัจจุบันการติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์บนอาคารทั้งที่อยู่อาศัยแนวราบและอาคารชุดพักอาศัย มีต้นทุนที่ถูกลง เมื่อเทียบกับ 10 ปี ก่อนหน้านี้ โดยมีการพัฒนารูปแบบของระบบออกเป็น 3 ระบบคือ ระบบที่ต่อเข้ากับระบบสายส่งจากการไฟฟ้า หรือเรียกว่า ออนกริด (On Grid) ระบบการใช้งานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่สมบูรณ์ในตัวเอง เก็บพลังงานไว้ในแบตเตอรี่ ที่เรียกว่า ออฟกริด (Off grid)
และระบบไฮบริด (Hybrid) ในรูปแบบที่ผสมผสานระหว่าง On Grid กับ Off Grid เข้าด้วยกันทั้ง 3 ระบบมีต้นทุนค่าติดตั้งในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 169,000 บาท สำหรับการติดตั้งและสร้างพลังงานไฟฟ้าที่ 3.2 KW ใช้ระยะเวลาคืนทุนประมาณ 5 ปี
สามารถช่วยในการประหยัดค่าไฟฟ้าได้ 945,295 บาทภายในระยะเวลา 25 ปี หรือเฉลี่ยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ปีละ 37,811.8 บาท หรือ 3,150.98 บาทต่อเดือน เรียกว่าเป็นระบบที่ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ในระยะยาวในภาวะที่แนวโน้มค่าพลังงานในปัจจุบันมีการปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง” นายประพันธ์ศักดิ์กล่าว
จากผลการศึกษาของ ศูนย์วิจัย Krungthai Compass ธนาคาร กรุงไทย ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2556 ราคาแผงโซลาร์ในไทยลดลงกว่า 66% ประกอบกับราคารับซื้อไฟของภาครัฐที่เพิ่มขึ้นเป็น 2.2 บาท/หน่วย ทำให้ระยะเวลาคืนทุนจากการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเร็วขึ้นจาก 17-30.3 ปี ในปี 2556 เหลือ 6.1-13.9 ปี ในปี 2564
และอาจเหลือเพียง 5.3-12 ปี ภายในระยะเวลาไม่กี่ปีข้างหน้าเนื่องจากราคาแผงโซลาร์ยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ประเมินว่ามีครัวเรือนไทยถึง 2.3 ล้านครัวเรือนที่สามารถติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปและคุ้มทุนได้ค่อนข้างเร็ว หากครัวเรือนกลุ่มนี้เพียง 20% หันมาติดแผงโซลาร์ก็จะทำให้มูลค่าตลาดสูงถึง 1.37 แสนล้านบาท
ขณะที่ผลการศึกษาของ “ลุมพินี วิสดอม” พบว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่ให้บริการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปหลายบริษัท โดยมีแพ็คเกจการให้บริการติดตั้งต่ำสุดตั้งแต่ 1.6 KW ไปจนถึง 10 KW โดยมีต้นทุนเฉลี่ยในการติดตั้งประมาณ 89,000-99,000 บาทต่อ 1.6 KW อายุการใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่ 15-25 ปี มีระยะเวลาคืนทุนประมาณ 5 ปี ประหยัดค่าไฟฟ้าได้ประมาณ 1,500 บาทต่อเดือน
โดยค่าพลังงานที่ 1.6 KW สามารถผลิตไฟฟ้าสำหรับใช้งานระบบไฟฟ้าพื้นฐานในบ้านอาทิ หลอดไฟประมาณ 10 หลอด ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ และทีวี อย่างละ 1 เครื่อง โดยการติดตั้งต้องการพื้นที่ในการติดตั้งประมาณ 8-11 ตารางเมตร เหมาะกับที่อยู่อาศัยทั้งประเภทบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮ้าส์
สำหรับอาคารชุดพักอาศัย นายประพันธ์ศักดิ์กล่าวว่าการติดตั้งระบบโซล่าร์รูฟท็อป สามารถติดตั้งได้และใช้ประโยชน์ในพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งจะช่วยลดค่าพลังงานไฟฟ้าในพื้นที่ส่วนกลางได้เช่นเดียวกัน โดยขนาดในการติดตั้งขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ และความต้องการใช้งาน
“จากเทคโนโลยีในการติดตั้งและต้นทุนที่ถูกลง ทำให้ปัจจุบันผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการ โดยการนำระบบโซลาร์รูฟท็อป เข้ามาเป็นอุปกรณ์พื้นฐานในการพัฒนาที่อยู่อาศัยทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และอาคารชุดพักอาศัย
กลายเป็นจุดขายที่สำคัญ ที่นอกจากจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าในระยะยาวสำหรับผู้ซื้อที่อยู่อาศัยแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้อยู่อาศัยในปัจจุบันและอนาคต” นายประพันธ์ศักดิ์กล่าว
แสนสิริ-กสิกรไทย ขยายพอร์ตความร่วมมือ ออก Green Loan ดอกเบี้ยบ้านต่ำพิเศษ 1.75%*
yesterday
“ศุภาลัย ลากูน หัวหิน” เปิดเฟสใหม่ใกล้สวนสไตล์ยุโรป เริ่ม 5.19 ล้านบาท* พร้อมโปรโมชันลดสูงสุด 2 ล้านบาท* 2-3 ส.ค. นี้
yesterday
เอสบี เปิดโมเดลโชว์รูม “เอสบี ดีไซน์ โซลูชัน” สาขา 2 กลางเมืองเชียงใหม่ พื้นที่ 1,000 ตร.ม.
yesterday
“มอเรส ดีเวลลอป” ประกาศจุดยืนสร้างแบรนด์ MEKA บ้าน Luxury ที่สมบูรณ์ในทุกมิติผ่านแนวคิด “MORES….CRAFT OF LIVING ดีไซน์การใช้ชีวิตที่เหนือกว่าเฉพาะคุณ"
yesterday
แสนสิริ เปิดตัว “เดอะ เบส เออร์เบิน พระราม 9” มูลค่า 1,700 ล้านบาท คอนโดพร้อมอยู่ ก.ย. นี้ บนทำเลแยกผังเมือง ตอบดีมานด์ย่าน New CBD เริ่ม 3.79 ล้านบาท*
2025-07-23
ขอบคุณมากครับ เอาใจไปเลยลูกพี่!!!
ขอบคุณที่คอยหาบทความที่มีประโยชน์มาให้ค่ะ
อ่านไม่เบื่อเลยค่ะ