
หน้าแรก
บมจ.มั่นคงเคหะการ (MK) แจงผลการดำเนินงานปี 2562 สามารถสร้างรายได้จากการขายและบริการ ได้ถึง 4,438.11 ล้านบาท โดยรายได้ที่เติบโตอย่างโดดเด่น คือ รายได้จากธุรกิจเพื่อเช่าและบริการ และบริหารงานด้านอสังหาฯ โตรวมถึง 27% หรือกว่า 500 ล้านบาท พร้อมชูวิสัยทัศน์ปี 2563
มุ่งพัฒนาสินค้าที่สอดคล้องกับพฤติกรรม และรสนิยมของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน ภายใต้แนวคิด สุขภาวะที่ดี (Well-being) ตอกย้ำรักษามาตรฐานการดำเนินงาน เดินหน้าตามแผนสร้างกำไรของฝั่งธุรกิจเพื่อขายกับฝั่งธุรกิจเพื่อเช่าและการบริการให้มีสัดส่วน 50/50 ภายในปี 2564
นายสุเทพ วงศ์วรเศรษฐ ประธานกรรมการ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย เพื่อเช่าและเพื่อการบริการ เผยถึงผลประกอบการปี 2562 (สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562) ว่าบริษัทและบริษัทย่อยสามารถทำรายได้รวมจากการขายและบริการได้ถึง 4,438.11 ล้านบาท
โดยแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายจำนวน 3,936.77 ล้านบาท ในขณะที่รายได้จากธุรกิจเพื่อเช่าและบริการ เป็นจำนวน 501.34 ล้านบาท เติบโตมากถึง 27% จากปีที่ผ่านมา และสามารถทำกำไรสุทธิที่ 177.45 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.16 บาท
ซึ่งตลอดช่วงระยะ 4 ปีที่ผ่านมากลุ่มบริษัทสามารถดำเนินธุรกิจเป็นไปตามแผนการปรับโครงสร้างรายได้ระยะยาว โดยสามารถเพิ่มสัดส่วนกำไรขั้นต้นจาก ธุรกิจเพื่อเช่าและการบริการต่อรายได้จากการดำเนินการในทุกธุรกิจเป็น 25.8% ในปี 2562 จากสัดส่วน 4.5% ณ สิ้นปี 2558
“ในปี 2562 บริษัทฯ มีรายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นจำนวน 3,936.77 ล้านบาท ลดลงเพียงเล็กน้อยจากปี 2561 จำนวน 216.16 ล้านบาท หรือ 5.2% ปัจจัยมาจากผลกระทบของธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นความเข้มงวดของการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Loan-to-Value : LTV)
ซึ่งผลกระทบดังกล่าวส่งผลต่อความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภค แต่อย่างไรก็ดี บริษัทเองก็มีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าเพื่อผ่อนคลายผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว เช่น ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการจัดเตรียมข้อมูลทางการเงินอย่างรัดกุม การยื่นขออนุมัติเครดิตเบื้องต้น (Pre Approve) และให้ลูกค้าเช็คเครดิตบูโรกับธนาคารพาณิชย์ก่อนทำการเปิดใบจอง
นอกจากนี้ ในช่วงปลายปีได้มีมาตรการกระตุ้นของภาครัฐเรื่องการลดค่าธรรมเนียม จดทะเบียนการโอน และค่าจดทะเบียนการจำนองสำหรับบ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมีสินค้าที่อยู่ในระดับราคานี้หลายโครงการ อีกทั้งลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทกว่า 70% เป็นลูกค้าที่ไม่ติดภาระสัญญากู้เงินที่อยู่อาศัย จึงทำให้บริษัทยังคงสามารถรักษาระดับรายได้จากการขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ได้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา”
นายสุเทพ กล่าวต่อไปว่า “ในส่วนของรายได้จากธุรกิจให้เช่าและบริการ ในปี 2562 มีรายได้ถึง 501.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึง 107.4 ล้านบาท หรือคิดเป็น 27% โดยรายได้หลักมาจากโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน ของ บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด จำนวน 291.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 78.53 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 36.81%
ซึ่งโครงการบางกอกฟรีเทรดโซนสามารถขยายสัดส่วนพื้นที่ให้เช่าเพิ่มขึ้นเป็น 193,872 ตารางเมตร ส่วนธุรกิจสนามกอล์ฟและบริหารอสังหาริมทรัพย์ มีรายได้ 119.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.52 ล้านบาท คิดเป็น 9.63% นอกจากนี้ยังมีรายได้มาจาก โครงการพาร์คคอร์ท สุขุมวิท 77 และ บริษัท ยัวร์ส พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด”
จากผลการดำเนินงานในแต่ละธุรกิจของกลุ่มบริษัท ถึงแม้ว่ารายได้หลักจากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะชะลอตัวลดลง เนื่องจากผลกระทบในหลายปัจจัยในปีที่ผ่านมา แต่บริษัทก็ยังสามารถควบคุมต้นทุนการดำเนินงานทำให้สามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นได้มากกว่า 30% ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา รวมถึงได้เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการที่เป็นระบบและมีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น
“สำหรับแผนการดำเนินงานธุรกิจปี 2563 บมจ.มั่นคงเคหะการ มุ่งเน้นให้ความสำคัญเรื่องการพัฒนาสินค้าที่สอดคล้องกับพฤติกรรมและรสนิยมของผู้บริโภคสมัยใหม่มากยิ่งขึ้น โดยคำนึงถึงสุขภาวะที่ดี (Well-being) เพื่อเพิ่มคุณค่าของสินค้าและขยายฐานกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย มุ่งเน้นตั้งแต่การเลือกทำเลที่ตั้ง
การออกแบบดีไซน์ทั้งฟังก์ชั่นพื้นที่ใช้สอยภายในตัวบ้าน สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ของพื้นที่ส่วนกลาง รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัย พร้อมทั้งเดินหน้าขยายสัดส่วนของธุรกิจตามแผนโครงสร้างรายได้ 5 ปี ปรับสัดส่วนกำไรของทั้ง 2 ฝั่งอยู่ที่ 50/50 ภายในปี 2564” นายสุเทพ กล่าว
แสนสิริ ชี้ทำเล ‘ดอนเมือง-สายไหม’ มาแรง ดีมานด์พุ่ง ยอดขายบ้านแนวราบโต 130%
เมื่อวานนี้
ศุภาลัย เปิดตัว 2 โครงการใหม่ “ศุภาลัย เลควิลล์ ศุขประยูร-มอเตอร์เวย์” และ “บลิซ ศุขประยูร-มอเตอร์เวย์” รับแรงหนุนตลาดที่อยู่อาศัยชลบุรีโตต่อเนื่อง
เมื่อวานนี้
SCX Corporation เปิดตัว KROMO Bangkok, Curio Collection by Hiltion ปักหมุดธุรกิจโรงแรม หนุนพอร์ต Hospitality แตะ 2,000 ห้องใน 5 ปี รองรับการเป็น World Class Destination ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก พร้อมเปิดให้บริการ 24 ก.ย.68 นี้
เมื่อวานนี้
บริทาเนีย บุก “บางแสน” เปิดโครงการใหม่ สำเร็จเกินคาด กวาดยอดขายล้นมูลค่ากว่า 350 ล้านบาท
2025-09-17
แสนสิริ เปิดตัว “เศรษฐสิริ เกาะแก้ว รีทรีต” ครั้งแรกของแบรนด์ “เศรษฐสิริ” บ้านเดี่ยวลักซ์ชัวรีในภูเก็ต ราคาเริ่มต้น 13-20 ล้านบาท
2025-09-17
อ่านสนุกจังค่ะ
บทความดี น่าติดตามครับ
อ่านแล้วรู้สึกดี จะดีกว่านี้ถ้าโครงการลดราคาและให้ของฟรีด้วย อิอิ
ชอบมากค่ะ อ่านๆฟรีด้วย