ทุนต่างชาติ-เชนโรงแรมดัง ปักหมุดเมืองท่องเที่ยว

มาตรการส่งเสริมภาคการท่องเที่ยว กระตุ้นนักท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศของภาครัฐ ประกอบกับแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ไปยังจังหวัดสำคัญของไทย กลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดชั้นดีให้กับเมืองท่องเที่ยวหลักอย่าง ภูเก็ต พัทยา และหัวหิน พบเชนโรงแรมดังระดับโลกหลายแบรนด์ ยังจับมือผู้ประกอบการไทยเข้าพัฒนาทั้งกลุ่มโรงแรมและโครงการที่อยู่อาศัยชั้นดี เจาะดีมานด์ลูกค้าทุกระดับเติบโต ระบุรายได้ท่องเที่ยวกลุ่มประเทศภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้มาแรงแซงทุกประเทศ

นายจุน อัน ออย ประธานกรรมการบริหารวินแดม โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า ตลาดท่องเที่ยวในประเทศไทย ยังเป็นที่น่าสนใจในการเข้ามาเจาะและลงทุนในกลุ่มโรงแรม เพราะไทยมีความโดดเด่นด้านทรัพยากร และได้เปรียบในแง่ทำเลที่ตั้งที่ดีกว่าประเทศอื่นๆ ในแถบเอเชีย-แปซิฟิก พบปี 2562 มีตัวเลขแสดงถึงแนวโน้มความต้องการเข้ามาพักอาศัยในโรงแรมของไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพิ่มขึ้นถึง 10% โดยเฉพาะในโรงแรมระดับ 4-5 ดาว บริษัทจึงมีแผนจะขยายห้องพัก

ล่าสุดเข้ามาลงทุนร่วมกับกลุ่มซิซา กรุ๊ป พัฒนาโครงการ วินแดม แกรนด์ โครงการอสังหา ริมทรัพย์เพื่อการลงทุน แบบการันตี ผลตอบแทน (Investment Property) ทำเลชายหาดในหาน จังหวัดภูเก็ต ในระดับ 5 ดาวพรีเมียม เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนและนักท่องเที่ยวทั่วโลก

“ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีการเติบโตของคนชั้นชนกลางอย่างน่าสนใจ ภายในปี 2565 จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจรวมถึง 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากประชากรกลุ่มนี้ 350 ล้านคนรวมถึงไทยด้วย นับเป็นภูมิภาคเดียวที่มีการเติบโตของการท่องเที่ยวสูงสุด ท่ามกลางการชะลอตัวของโลก”

ด้านนายปีเตอร์ เวบสเตอร์ ผู้จัดการทั่วไประดับภูมิภาค (สิงคโปร์ ไทย เมียนมา ลาว และกัมพูชา) ของฮิลตัน แบรนด์โรงแรมระดับโลก ล่าสุดลงนามร่วมกับ “ออเนอร์ กรุ๊ป” ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในพัทยา จ้างบริหารโรงแรม ภายใต้แบรนด์ “ฮิลตัน การ์เดน อินน์ พัทยาซิตี้” มูลค่า 1.1 พันล้านบาท จำนวน 320 ห้องพัก

โดยปัจจุบันบริษัทได้เข้ามาปักหมุดผ่านการนำแบรนด์ในเครือเข้ามาบริหารจัดการโรงแรมในประเทศไทยแล้วรวม 11 แห่ง จำนวน 3,000 ห้องพัก เนื่องจากเล็งเห็นการเติบโตอย่างรวดเร็วในเชิงการท่องเที่ยวของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยประเทศไทย ถือเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวสำคัญของคนทั่วโลก โดยเฉพาะเมืองพัทยา ที่เป็นที่รู้จักและยอมรับสูงจากนักท่องเที่ยว 

ซึ่งเดิมฮิลตันได้เข้าไปบริหารโรงแรมในพัทยาแล้ว 1 แห่ง โครงการล่าสุดทำเลพัทยาเหนือจะเป็นแห่งที่ 2 เพื่อรองรับโอกาสจากนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ ทั้งรายบุคคล หรือ กลุ่มคณะที่จะเข้ามาประชุมและทำกิจกรรมอื่น ๆ มากมาย โดยมีแม่เหล็กสำคัญต่อภาคการท่องเที่ยว จากแผนการขยายตัวของสนามบินอู่ตะเภา ที่จะกระตุ้นนักท่องเที่ยวจาก 8 แสน-5 ล้านคน หลังช่วงปี 2563

“พัทยาเป็นเป้าหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกอันดับ 18 จากทั่วโลก เรามีรายได้จากการเข้าพักในฮิลตันพัทยาระดับดีมาก และเมื่อไหร่ที่สนามบินอู่ตะเภา เชื่อมกับสนามบินหลักสุวรรณภูมิ โดยมีพัทยาเป็นศูนย์กลาง ภาพที่เกิดขึ้นจะคล้ายโอซากา-โตเกียวของญี่ปุ่น ที่การท่องเที่ยวข้ามไปมาจะคึกคักสูง”

ขณะที่ ก่อนหน้า อินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ล กรุ๊ป (ไอเอชจี) ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลี เพิ่งจับพัฒนาโครงการ อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนซ์ หัวหิน มูลค่า 3.5 พันล้านบาท ระดับโรงแรม ภายใต้แบรนด์ อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส ซึ่งเป็นแบรนด์เอ็กซ์คลูซีฟในมหานครชั้นนำของโลก เช่น บอสตัน ดูไบ เท่านั้น ร่วมกับกลุ่ม พราว เรียลเอสเตท ในรูปแบบคอนโดมิเนียมติดชายหาดระดับลักชัวรี

เจาะกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง ซื้อเพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศ และซื้อเพื่อลงทุนระยะยาว ตอกยํ้าความสำเร็จต่อเนื่องในไทยจากโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท, โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ท และฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท วานา นาวา หัวหิน

ขอบคุณข่าวจาก ฐานเศรษฐกิจ

https://www.thansettakij.com/content/property/416195?utm_source=category&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=property