คอนโดบางแคทะลัก บิ๊กทุนแนะแตะเบรก

คอนโดฯ แนวสายสีนํ้าเงิน หัวลำโพง-บางแค ราคาขายแค่ 8 หมื่นบาทต่อตารางเมตร ซัพพลายล้น บิ๊กทุนแนะแตะเบรก

เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงิน ส่วนต่อขยายมีจุดเริ่มต้น 2 จุดคือ จากสถานีเตาปูนวิ่งไปตามถนนประชาราษฎร์สาย 2 ข้ามแม่นํ้าเจ้าพระยา ลงมาตามแนวถนนจรัญสนิทวงศ์สิ้นสุดบริเวณสถานีท่าพระ อีกจุดเริ่มต้นคือ สถานีหัวลำโพงแล้วผ่านมาทางใต้ดินตามแนวถนนเจริญกรุงลอดผ่านแม่นํ้าเจ้าพระยา ขึ้นสู่เส้นทางลอยฟ้า บริเวณถนนอิสรภาพบรรจบเข้ากับเส้นทางที่มาจากสถานีเตาปูนที่สถานีท่าพระ จากนั้นวิ่งเลยไปตามถนนเพชรเกษมสิ้นสุดที่สถานีบางแค 

โดยเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงินที่มาจากหัวลำโพง ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้วส่วนอีกช่วงจะเปิดให้บริการปี 2563 แต่เนื่องจากสายสีนํ้าเงินเป็นเส้นทางที่ยาว 27 กิโลเมตร จำนวน 19 สถานี ทำให้มีคอนโดมิเนียมสะสมมากที่สุด เมื่อเทียบกับรถไฟฟ้าสายอื่นที่อยู่ระหว่างก่อสร้างประมาณ 48,384 หน่วย สะสมมาตั้งแต่ปี 2552

ทั้งนี้นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟีนิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนซัลแทนซี่ จำกัด สะท้อนว่า แม้พื้นที่บางบริเวณจะอยู่ในเขตที่มีข้อจำกัดในการพัฒนา เช่น พื้นที่ตามแนวถนนเจริญกรุงนับจากปี 2552 เป็นต้นมา

พื้นที่ตามแนวเส้นทางรถฟ้าสายสีนํ้าเงินช่วงหัวลำโพง - บางแค มีคอนโดมิเนียมอยู่ประมาณ 19,739 หน่วย หรือประมาณ 38.7% ของคอนโดมิเนียมทั้งหมดที่เปิดขายในพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงินทั้ง 2 ช่วง (48,348 หน่วย) เป็นโครงการที่เปิดขายช่วงปี 2560 มากที่สุดเพราะมีคอนโดมิเนียมมากกว่า 5,230 หน่วย เปิดขายในปี 2562 และพื้นที่ตามแนวถนนเพชรเกษมเป็นพื้นที่ที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายมากที่สุด

เพราะตั้งแต่อดีตมาถึงพฤษภาคม 2562 มีคอนโดมิเนียมเปิดขายมาแล้วประมาณ 18,640 หน่วย หรือประมาณ 94% เนื่องจากพื้นที่อื่น ๆ ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงินช่วงหัวลำโพง -บางแค ไม่มีพื้นที่ในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมหรือสามารถพัฒนาได้เฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมขนาดเล็กเท่านั้น 

อัตราการขายเฉลี่ยของโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายในพื้นที่ตามแนวสายสีนํ้าเงินช่วงหัวลำโพง-บางแค ยังคงมีคอนโดมิเนียมเหลือขายอยู่ไม่น้อย ราคาขายเฉลี่ยประมาณ 82,000 บาทต่อตารางเมตรหรือไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อหน่วย คอนโดมิเนียมขนาด 1 ห้องนอน พื้นที่ประมาณ 30-35 ตารางเมตรเป็นราคาขายและขนาดห้องที่นิยมมากที่สุดในตลาดคอนโดมิเนียมกรุงเทพมหานครโครงการที่ขายในราคาสูงกว่านี้จะขายได้ยากและยังคงเหลือขายอยู่ในปัจจุบันแม้ว่าจะเปิดขายมามากกว่า 2 ปีแล้วก็ตาม

ด้านนายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท แวลู บริษัท พฤกษา เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าทำเลแนวรถไฟฟ้า สายสีนํ้าเงิน มีปริมาณคอนโดมิเนียมสะสมมากทำให้การแข่งขันระบายสต๊อกสูง ส่งผลให้หลายค่ายต่างชะลอขึ้นโครงการใหม่

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถาน การณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ย่านฝั่งธนบุรี ยังถือว่าเป็นตลาดที่มีผู้ประกอบการรายใหญ่เข้ามาลงทุนพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปัจจัยสนับสนุนจากแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล และการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง - หลักสอง ที่เปิดให้บริการเต็มรูปแบบครบทุกสถานี ทำให้การเดินทางเข้าสู่ศูนย์กลางธุรกิจได้อย่างสะดวกสบาย 

จึงทำให้บริเวณแยกท่าพระ เป็นอีกหนึ่งทำเลที่น่าจับตามองในด้านมูลค่าที่ดินและการเติบโตของราคาอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากมีความครบครันทุกปัจจัยแห่งการอยู่อาศัยและในอนาคตจะกลายเป็น HUB ศูนย์กลางการท่องเที่ยว การค้า การคมนาคม ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังทิศต่าง ๆ ของกรุงเทพฯ ด้วยถนนสายหลักและโครงข่ายรถไฟฟ้าหลากหลายสีอย่างสมบูรณ์

โดยบริษัทได้เข้าพัฒนาโครงการทำเลฝั่งธนฯ อย่างต่อเนื่องสร้างสรรค์โครงการ “ศุภาลัย ไลท์ ท่าพระ-วงเวียนใหญ่” บนพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ มูลค่าโครงการประมาณ 1,240 ล้านบาท กับไลฟ์สไตล์ที่ลงตัว บนทำเลสมบูรณ์แบบกับหลากหลายจุดเชื่อมต่อคมนาคม ทำให้ทุกการเดินทางสะดวกสบายเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างง่ายดาย 

ไม่ว่าจะใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สถานีท่าพระ 570 เมตร เพียง 2 สถานี เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว สถานีบางหว้า และเพียง 7 สถานี เข้าสู่ย่านศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ (CBD) อีกทั้งทำเลติดถนนนเพชรเกษมเชื่อมสู่ถนนสายหลักสำคัญ อาทิ ถนนจรัญสนิทวงศ์ ถนนรัชดาภิเษก ถนนราชพฤกษ์ และถนนกาญจนาภิเษก รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันทั้งห้างสรรพสินค้า-แพลต ฟอร์มวงเวียนใหญ่ เดอะมอลล์ ท่าพระ บิ๊กซี อิสรภาพ และไอคอน สยาม แหล่งช็อปปิ้ง-ตลาดวงเวียนใหญ่ ตลาดพลู และ ร.พ. ศิริราช

ขอบคุณข่าวจาก ฐานเศรษฐกิจ

https://www.thansettakij.com/content/412070