
หน้าแรก
แม้ว่าภาษีโรงเรือนและที่ดินจะถูกยกเลิกไปแล้ว โดยมีการใช้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมาทดแทน แต่ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบภาษีเดิมยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะสำหรับผู้ประกอบการที่มีอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าหรือประกอบธุรกิจ เพื่อเป็นพื้นฐานในการทำความเข้าใจระบบภาษีใหม่และป้องกันปัญหาที่อาจเกิดจากการถูกทวงถามภาษีย้อนหลัง
ภาษีโรงเรือนและที่ดินคือภาษีที่เรียกเก็บจากเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่นำไปใช้หาผลประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยเช่า เปิดเป็นสถานประกอบการ หรือใช้ทำธุรกิจ เช่น หอพัก โรงแรม ร้านค้า สำนักงาน คลินิก หรือโรงพยาบาล โดยเก็บภาษีในอัตรา 12.5% จากค่ารายปี ซึ่งคำนวณจากค่าเช่าหรือมูลค่าการใช้ประโยชน์ตามที่เจ้าหน้าที่ประเมิน
การชำระภาษีโรงเรือนและที่ดินเป็นการชำระภาษีย้อนหลังสำหรับการใช้ประโยชน์ในปีที่ผ่านมา โดยผู้มีหน้าที่เสียภาษีต้องยื่นแบบแจ้งรายการในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ของทุกปี ณ สำนักงานเขตหรือเทศบาลที่โรงเรือนหรือที่ดินนั้นตั้งอยู่ และต้องชำระภาษีภายใน 30 วันหลังจากได้รับการประเมิน
ผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษีโรงเรือนและที่ดินคือเจ้าของโรงเรือนหรือที่ดินที่ได้นำทรัพย์สินนั้นไปหาผลประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยเช่า หรือใช้ประกอบธุรกิจ โดยไม่ได้พักอาศัยเอง นั่นหมายความว่า เจ้าของบ้านเช่า อพาร์ตเมนต์ โรงแรม ร้านค้า โรงงาน หรือสถานประกอบการต่างๆ มีหน้าที่ต้องเสียภาษีนี้ หากมีการใช้ประโยชน์ในลักษณะดังกล่าว
มีอสังหาริมทรัพย์หลายประเภทที่ได้รับการยกเว้นภาษีโรงเรือนและที่ดิน ได้แก่ พระราชวังหลวง ทรัพย์สินของรัฐที่ไม่ได้หาผลประโยชน์ โรงเรียนของรัฐหรือสถานศึกษาที่ไม่หวังกำไร โรงพยาบาลการกุศล สถานที่ทางศาสนา สุสาน และที่สำคัญคือบ้านพักอาศัยที่เจ้าของใช้เองโดยไม่ได้หาประโยชน์ใดๆ
การคำนวณภาษีโรงเรือนและที่ดินทำได้โดยนำค่ารายปีมาคูณด้วยอัตราภาษี 12.5% ซึ่งค่ารายปีในที่นี้ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สิน โดยแบ่งเป็น 2 กรณีหลักคือการให้เช่าและการใช้ประโยชน์อื่นๆ ที่ไม่ใช่การเช่า
สำหรับทรัพย์สินที่มีการให้เช่า ค่ารายปีคือค่าเช่าที่ได้รับจริงตลอดทั้งปี ตัวอย่างเช่น หากคุณมีบ้านให้เช่าในราคาเดือนละ 10,000 บาท เป็นเวลา 10 เดือน ค่ารายปีจะเท่ากับ 100,000 บาท และภาษีโรงเรือนและที่ดินที่ต้องจ่ายคือ 100,000 × 12.5% = 12,500 บาท
สำหรับทรัพย์สินที่ใช้ประกอบกิจการเอง ไม่มีการเช่า เจ้าหน้าที่จะประเมินค่ารายปีจากพื้นที่และทำเลที่ตั้ง โดยคำนวณจากสูตร: พื้นที่ (ตร.ม.) × อัตราทำเล × จำนวนเดือนที่ประกอบการ ตัวอย่างเช่น ร้านค้าขนาด 100 ตร.ม. เปิดตลอดปี ในพื้นที่ที่มีอัตราทำเล 80 บาท/ตร.ม. จะมีค่ารายปี 96,000 บาท และต้องเสียภาษี 12,000 บาท
การเสียภาษีโรงเรือนและที่ดินมีขั้นตอนเริ่มจากการยื่นแบบแจ้งรายการ (ภ.ร.ด.2) พร้อมเอกสารประกอบ เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน โฉนดที่ดิน สัญญาเช่า ใบอนุญาตประกอบกิจการ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบและประเมินภาษี แล้วส่งแบบแจ้งการประเมิน (ภ.ร.ด.8) ให้ชำระภายใน 30 วัน หากไม่เห็นด้วยกับการประเมินสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 15 วัน
การไม่ปฏิบัติตามกฎหมายภาษีโรงเรือนและที่ดินมีบทลงโทษหลายระดับ หากไม่ยื่นแบบตามกำหนด มีโทษปรับ 200 บาท และอาจถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลังได้ถึง 10 ปี หากยื่นแบบเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี มีโทษจำคุก 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 500 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนการชำระล่าช้าจะมีเบี้ยปรับเพิ่มขึ้นตามระยะเวลา ตั้งแต่ 2.5% ถึง 10% ของภาษีที่ค้าง
แม้ว่าภาษีโรงเรือนและที่ดินจะถูกแทนที่ด้วยภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแล้ว แต่การทำความเข้าใจเรื่องนี้ยังมีประโยชน์สำหรับเจ้าของทรัพย์สินและผู้ประกอบการ เพื่อเป็นพื้นฐานในการวางแผนภาษีอสังหาริมทรัพย์อย่างถูกต้อง หากคุณกำลังมองหาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยหรือการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้านหรือซื้อคอนโด LivingInsider มีตัวเลือกมากมายพร้อมข้อมูลที่ครบถ้วน ช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างรอบคอบและวางแผนภาษีได้อย่างถูกต้องในอนาคต
มาถนนบรรทัดทองต้องกินร้านเด็ดร้านไหนบ้าง
2025-05-12
ราชพฤกษ์ ถนนทำเลยอดนิยม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ได้อย่างลงตัว
2025-05-12
ไขข้อสงสัย จอดรถขวางหน้าบ้านคนอื่น ผิดกฎหมายหรือไม่
2025-05-12
โฉนดครุฑแดง คืออะไร เรื่องสำคัญต้องรู้ก่อนซื้อ-ขายที่ดิน
2025-05-12
ทำไมย่าน BTS ตลาดพลู ถึงน่าอยู่และน่าลงทุน
2025-05-12
นักเขียนมืออาชีพ งานคุณภาพและมีประโยชน์มากค่ะ
เขียนได้ดีมากค่ะ
ชอบเรื่องไอเดียแต่งบ้าน ได้ความหลากหลายดีกำลังวางแพลนจะซื้อบ้านเลย เอาเรื่องไอเดียมาอีกเยอะๆนะค่ะ
well