รายการโปรด
ช่วงนี้วงการอสังหาริมทรัพย์ ที่มีเรื่องราวให้ติดตามอย่างใกล้ชิด ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องการยื่นขอ EIA ที่ล่าสุดก็มีโครงการชื่อดังถูกถอดถอนไม่ผ่าน EIA ทั้งที่ทำเรื่องผ่านเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น แน่นอนว่าทำให้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง
เพราะไม่ใช้แค่ดีเวลลอปเปอร์ที่เดือดร้อนเท่านั้น แต่ยังสร้างความกังวลใจไปถึงกลุ่มผู้ซื้อโครงการนั้นๆ อีกด้วย และเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นผู้ซื้อจะสามารถทำอะไรได้บ้าง เลือกเดินหน้ารอให้เรื่องผ่าน หรือจะขอเงินดาวน์คืนและจะขอได้อย่างไร เรามีคำตอบมาให้ทุกคนแล้ว
ก่อนอื่นขออธิบายคร่าวๆ ให้เข้าใจถึงคำว่า EIA กันซะเล็กน้อย ซึ่งก็คือ รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยหาก Developer จะทำการสร้างคอนโดที่มีจำนวนห้องพักอาศัยตั้งแต่ 80 ยูนิตขึ้นไป หรือมีพื้นที่ใช้สอยในอาคารตั้งแต่ 4,000 ตารางเมตร จะต้องทำเรื่องขอ EIA ให้ผ่านถึงจะสร้างคอนโดได้
โดย EIA จะเปรียบเหมือนสัญลักษณ์ เพื่อยืนยันว่าจะไม่ส่งผลกระทบที่เกิดขึ้นในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเชิงเศรษฐกิจ สังคม และที่สำคัญคือสิ่งแวดล้อมและทรัพยากร ที่รวมไปถึงคนในชุมชนรอบโครงการ ซึ่งจะต้องไม่สร้างความเดือดร้อนเชิงลบ ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็คือไม่บังวิวบังแดด ไม่ส่งเสียงดัง หรือรุกล้ำความเป็นส่วนตัวใดๆ ก็ตาม
ซึ่งส่วนใหญ่ที่ไม่ผ่าน EIA กันก็มักจะเป็นเรื่องเหล่านี้ คราวนี้ผู้ที่ซื้อโครงการจะทำอย่างไร อันดับแรกแนะนำให้ติดต่อทางเซลล์ว่าเรื่องราวเป็นมายังไง และมีวิธีการจัดแก้ไขอย่างไร เมื่อทางเซลล์แจ้งเรียบร้อยแล้ว ทางเราจะต้องได้รับจดหมายชี้แจงแถลงผลเป็นลายลักษณ์อักษรให้ชัดเจนด้วย
แต่เชื่อเถอะว่าโครงการส่วนมากจะทำการยื่นเรื่องขอ EIA ใหม่อีกครั้งแน่นอน สำหรับใครที่ไม่อยากรออยากยกเลิกสัญญาก็สามารถทำได้ โดยจะต้องทำการคืนเงิน ทั้งส่วนของเงินดาวน์ที่เราจ่ายไปทั้งหมด รวมถึงเงินจอง เงินทำสัญญา และดอกเบี้ยที่จะได้ประมาณ 7.5% ต่อปี (หรืออาจน้อยกว่านี้) และอื่นๆ โดยในสัญญาจะมีระบุว่าคืนเงินเป็นระยะเวลาภายในกี่เดือนหลังเกิดเรื่อง ดังนั้นเราต้องเก็บเอกสารทั้งหมดไว้ให้ดี รวมถึงหนังสือแจ้งเตือนเกี่ยวกับการขอ EIA ไม่ผ่านด้วย
สำหรับบางคนเลือกที่จะรอ คราวนี้เราก็ต้องมาดูอีกว่าในสัญญาระบุเงื่อนไขเรื่องนี้ไว้ยังไงบ้าง เช่น ระยะเวลาในการก่อสร้างเสร็จเป็นจำนวนกี่เดือนกี่ปี หรืออาจกำหนดว่าคืองวดสุดท้ายของการผ่อนดาวน์หมด แต่ถ้าล่าช้าไม่สามารถสร้างทันตามกำหนด และขอยื่นเวลาบอกว่าจะเสร็จภายในกี่วัน
ทางผู้ซื้อสามารถเรียกค่าปรับเป็นรายวัน ในอัตรา 0.01% ของราคาซื้อขาย จนกว่าจะสร้างเสร็จหรือเป็นไปตามสัญญา ซึ่งหากครบกำหนดแล้วยังไม่เสร็จซะที หรือหากว่า EIA ไม่ผ่านจริงๆ ก็สามารถยกเลิกสัญญาได้เช่นเดียวกัน ขณะที่ใครซื้อใบจองต่อมาอีกทอดหนึ่ง เงินที่ได้จะเป็นไปตามที่ระบุในสัญญาเอาไว้รอบแรกที่ทำกับโครงการเท่านั้น ทำให้แน่นอนว่าส่วนต่างที่เราซื้อขายกันเองจะไม่ได้รับคืน
หลังจากนั้นทำการยื่นเรื่องของเงินคืนกับทางเซลล์ และสอบถามให้แน่ชัดอีกทีว่าจะได้เงินคืนเมื่อใด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะได้เงินคืนในรูปแบบเช็ค แต่อย่างที่รู้ๆ กันว่าขั้นตอนกว่าจะได้เงินคืนมานั้นมักใช้เวลาพอสมควร แต่ถ้าเจ้าไหนมีความเป็นมืออาชีพ ยังคงต้องการรักษาความน่าเชื่อก็อาจได้เงินคืนเร็ว
ในกรณีที่ทางดีเวลลอปเปอร์ไม่ยอมคืนเงินหรือมีแววว่าจะโกง แนะนำให้รวมตัวผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด และไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ พร้อมกับร้องเรียนแจ้งสคบ. หรือโทร 1166 ประกอบกับทักไปขอความช่วยเหลือจากเพจที่มีชื่อเสียงในโซเชียลมีเดีย ให้ช่วยเป็นกระบอกเสียง เพราะยิ่งเสียงดังเท่าไหร่ก็ยิ่งจะได้ผลเร็วขึ้นเท่านั้น
เชื่อว่าเรื่องแบบนี้คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เพราะไม่มีใครได้ประโยชน์แถมยังเสียเวลาและวุ่นวายกันทุกๆ ฝ่าย อย่างไรก็ดีทางทีมงาน Livinginsider ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกๆ ท่านที่ได้รับความเสียหายมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
5 ทำเล ที่ชาวจีนนิยมซื้อคอนโดมากที่สุดในปี 65
2023-03-02
หิ้งพระในคอนโด จัดยังไงให้ถูกหลักฮวงจุ้ย เสริมโชคลาภบารมีและสิริมงคลให้ผู้อยู่อาศัย
2024-03-26
อย่าลงทุนอสังหาฯ แค่เพราะมันเป็นการลงทุนที่ดี
2020-06-19
Facebook Ads กับลงทุนอสังหาฯ
2020-04-15
แบรนด์วัสดุก่อสร้าง แต่ละเจ้าเป็นยังไงบ้าง?
2024-06-16
รีวิวโครงการรวดเร็วดีค่ะ
บทความดี น่าติดตามครับ
บทความหลากหลาย อ่านแล้วมีประโยชน์
ข้อมูลดีมาก ระเอียดมากครับ
เยี่ยมมากๆ ครับ น่าสนใจ FC เลยครับ
มีประโยชน์มากๆค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลน่ะค่ะ