COBE ลาดพร้าว-สุทธิสาร จาก SC Asset ที่เป็นมากกว่าคอนโด แต่เป็น Community ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ New Gen บนทำเลเชื่อมต่อ New CBD แต่งครบ เริ่มเพียง 2 ล้านบาท*

ถ้าพูดถึงชื่อ “SC Asset” หลายคนคงนึกถึงโครงการบ้านหรูหรือคอนโดพรีเมียม ที่จับตลาดลูกค้าระดับกลางถึงบนเป็นหลัก แบบที่ใครเป็น First Jobber หรือเพิ่งเริ่มทำงานได้ไม่นาน ก็มักจะคิดว่า “ราคาอาจจะเกินเอื้อมไปหน่อย” เลยทำให้โครงการของ SC ดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่มีความพร้อมด้านการเงินมากกว่า

แต่ปีนี้บอกเลยว่ามีเซอร์ไพรส์ เพราะ SC กลับมาทำคอนโดเซกเมนต์ Affordable เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี โดยเปิดราคาเริ่มต้นแค่ “2 ล้าน” เท่านั้นเอง ทำให้คนที่ฝันอยากมีคอนโดเป็นของตัวเอง หรือเล็งโครงการของ SC ไว้ เริ่มมีโอกาสใกล้ความจริงมากขึ้น

โครงการนั้นก็คือ โค้บบ์ ลาดพร้าว-สุทธิสาร (COBE Ladprao-Sutthisan) คอนโดที่ไม่ได้เข้าถึงคนรุ่นใหม่ด้วยเรื่องราคาที่เริ่มต้นเพียง 2 ล้านบาท* แต่ยังคุ้มกว่านั้น เพราะขายแบบ Fully Furnished แทบไม่ต้องซื้อของแต่งเพิ่มก็เข้าอยู่ได้เลย นอกจากนี้ ดีไซน์และฟังก์ชันยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ New Gen อีกด้วย

► Beyond Convenience, It’s Lifestyle

มากกว่าความสะดวก แต่คือคุณภาพชีวิตที่ลงตัว

ตอนแรกก็คิดเหมือนกันว่า คอนโดราคานี้คงต้องแลกกับทำเลไกล ๆ แต่พอได้มาเดินดูรอบ ๆ โครงการจริง ๆ ถึงกับเปลี่ยนความคิดทันที เพราะ โค้บบ์ ลาดพร้าว-สุทธิสาร เข้าไปในซอยลาดพร้าว 64 แค่ 70 เมตร* เดินออกมาแป๊บเดียวก็เจอถนนใหญ่ที่มีทั้งรถไฟฟ้าและรถเมล์ผ่านหลายสาย เดินทางง่ายไม่ยุ่งยาก ขอยกให้เป็นหนึ่งในคอนโดราคาย่อมเยา แถมค่าครองชีพก็สบายกระเป๋าไปอีก

สำหรับคนที่เพิ่งทำงานได้ไม่นาน และยังไม่ได้ซื้อรถอย่างเราคือตอบโจทย์มาก โครงการอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีโชคชัย 4 เพียง 600 เมตร* จะไปบางกะปิ ศรีนครินทร์ หรือสำโรงก็ง่ายนิดเดียว แต่หากใครทำงานในเมือง ถ้าไม่นั่งรถไฟฟ้าสายสีเหลืองไปเปลี่ยนเป็น MRT สายสีน้ำเงินที่สถานีลาดพร้าว ก็เรียกพี่วินให้ไปส่งที่สถานีสุทธิสาร ใช้เวลาแค่ไม่ถึง 10 นาที (ประมาณ 2.7 กิโลเมตร*) ก็ได้เหมือนกัน

ส่วนใครมีรถส่วนตัวก็สบาย เพราะที่ตั้งโครงการเชื่อมต่อถนนหลักหลายสาย ไม่ว่าจะเป็น ถนนลาดพร้าว, รัชดาภิเษก และ ประดิษฐ์มนูธรรม และที่ถูกใจสุด ๆ คือมีซอยย่อยให้ขับรถลัดเลาะไปออกซอยนั้นทะลุซอยนี้ได้สะดวก

อย่างถ้าใครจะไปย่าน New CBD อย่าง รัชดา พระราม 9 ก็ให้ไปทางซอยลาดพร้าว แยก 4 เพื่อขับต่อบนถนนสุทธิสารวินิจฉัย ซึ่งไม่นานจะไปบรรจบกับแยกรัชดา-สุทธิสาร จากนั้นเลี้ยวซ้ายแล้วมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทางได้เลย ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีเลี่ยงรถติดในชั่วโมงเร่งด่วนได้ดีทีเดียว

หรือหากจะไป ทองหล่อ เอกมัย ก็ไม่ต้องกังวล เพียงขับรถออกถนนใหญ่ข้ามแยกเกตุนุติ แล้ววิ่งตรงไปเรื่อย ๆ เมื่อถึงแยกที่ตัดระหว่างถนนลาดพร้าวกับประดิษฐ์มนูธรรม ให้เลี้ยวซ้ายแล้วไปกลับรถ เพื่อมาขึ้นทางด่วนฉลองรัช ด่านโยธินพัฒนา หรือที่เราเรียกติดปากกันว่า เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา แล้วมุ่งหน้าไปยังโซนสุขุมวิท

นอกจากนี้ ในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ใครอยากไปเที่ยว หรือกลับต่างจังหวัดก็ไปได้ทุกทิศ ไม่ว่าจะเป็นฝั่งตะวันออก สามารถใช้ทางด่วนฉลองรัชขับไปไม่ถึงชั่วโมงถึงมอเตอร์เวย์ สาย 7 ส่วนใครจะไปภาคเหนือหรืออีสาน แนะนำให้ใช้ทางลัดไปยังแยกรัชดา-สุทธิสาร แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนรัชดาภิเษก จากนั้นขับต่อไปเรื่อย ๆ แล้วไปกลับรถบนสะพานรัชวิภา เพื่อขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ได้เลย

อยู่ COBE Ladprao-Sutthisan ไม่ได้ลงตัวแค่การเดินทาง แต่สิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างได้รายล้อมไว้หมดแล้วจริง ๆ เริ่มที่แหล่งช็อปปิง พูดไปใครจะเชื่อว่านี่คือคอนโดที่เชื่อมถึง 4 เซ็นทรัล! แน่นอนว่าที่แรกจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ เซ็นทรัล ลาดพร้าว ศูนย์การค้าชื่อดังของกรุงเทพฯ โซนเหนือ ส่วนแห่งที่ 2 คือ เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์ แห่งที่ 3 เซ็นทรัล พระราม 9 และแห่งที่ 4 New Project ในอนาคตอย่าง เดอะ เซ็นทรัล พหลโยธิน ที่เตรียมเปิดให้บริการปลายปี 2569

นอกจากนี้ ยังอยู่ใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์อื่น ๆ อีกมากมาย เช่น คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC), อิมพีเรียล เวิลด์ ลาดพร้าว และโลตัส รามอินทรา

แต่ถ้าจะหาของกินง่าย ๆ ในวันสบาย ๆ เดินออกมาหน้าโครงการก็เจอทั้งอาหารตามสั่งและก๋วยเตี๋ยว แถมทำเลลาดพร้าวและในซอยย่อยต่าง ๆ ยังเต็มไปด้วยร้านอาหารและคาเฟ่เทสต์ดีอีกเพียบ อาทิ ร้านตำ 20 รัชดา-สุทธิสาร, ครัวกลิ่นกะทะ สาขาลาดพร้าว, เออแซ่บ แจ่วฮ้อน, SHINJI Matcha Dojo, W’s Nest BKK และอีกมากมาย รวมไปถึงแหล่งไลฟ์สไตล์ตอนกลางคืนอย่าง ตลาดนัดเลียบด่วน และ จ๊อดแฟร์ รัชดา

Photo Credit by : Facebook Shinji

ยิ่งไปกว่านั้น ย่านนี้ยังถือเป็นศูนย์รวมสำนักงานออฟฟิศทั้งภาครัฐและเอกชน ไม่ว่าจะเป็น เมืองไทยภัทร คอมเพล็กซ์, AIA, SET (ตลาดหลักทรัพย์ฯ), G Tower, ศาลยุติธรรม รัชดา, การบินไทย และ ปตท.สำนักงานใหญ่ ใครอยากหาคอนโดใกล้ที่ทำงาน นาทีนี้ก็ต้อง โค้บบ์ ลาดพร้าว-สุทธิสาร แล้วล่ะ

Photo Credit by : www.pttplc.com

แต่ใช่ว่าโครงการจะเหมาะวัยรุ่นหนุ่มสาว หรือคนเพิ่งเริ่มต้นทำงานใหม่ ๆ เท่านั้น ใครอยู่เป็นครอบครัวมีลูกมีหลานก็ตอบโจทย์เช่นกัน เพราะเต็มไปด้วยสถานศึกษารองรับทุกวัย เช่น Oakbury International School, โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี), โรงเรียนหอวัง และ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

นอกจากนี้ ยังอยู่ใกล้ทั้งโรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4, โรงพยาบาลลาดพร้าว และโรงพยาบาลเวชธานี ซึ่งช่วยให้อุ่นใจได้เมื่อมีอาการเจ็บป่วยไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนก็ตาม

► Designed for You, Built for New Life

ออกแบบสะท้อนตัวตน สร้างสังคมแห่งการใช้ชีวิตยุคใหม่

อย่างที่บอกในตอนแรกว่า COBE Ladprao-Sutthisan ไม่ได้เข้าถึงคนรุ่นใหม่แค่ราคาที่จับต้องง่าย แต่ยังออกแบบตัวสถาปัตยกรรมในสไตล์โมเดิร์น โดยหยิบเอารูปทรงและเส้นสายเรียบง่ายมาผสมผสานกันอย่างลงตัว พร้อมเพิ่มลูกเล่นด้วยการ Carve Out บางส่วนของกรอบอาคาร ให้ดีไซน์ดูโดดเด่นไม่ซ้ำใคร รวมถึงมีการใช้โทนสีแบบ Bold Color ที่สะท้อนความสดใสและตัวตนของคน New Gen ได้อย่างชัดเจน

เห็นได้จาก Sales Gallery 2 ชั้น ที่มาพร้อมดีไซน์มินิมอลถูกใจ Gen Z อย่างเราแบบสุด ๆ และที่พิเศษกว่านั้นคือ ชั้น 2 ยังมี RW Coffee and Tea คาเฟ่สุดชิคเปิดให้บริการ ใครที่แวะมาชมห้องตัวอย่าง ก็สามารถนั่งจิบกาแฟชิล ๆ พร้อมถ่ายรูปเก๋ ๆ ได้เลย

และในอนาคต Sales Gallery จะถูกปรับเป็นอาคาร Commercial จำนวน 6 ยูนิต ซึ่งร้านค้าที่คอนเฟิร์มแล้วก็คือ 7-Eleven ที่เปิดให้บริการเป็น Food Place แบบจัดเต็มทั้งของกิน ของใช้ และอาหารพร้อมทานไว้ครบจบในที่เดียว ใครหิวเมื่อไหร่ก็แวะมาได้ ไม่จำเป็นต้องออกไปข้างนอก 

โดยโครงการเป็นคอนโด Low Rise จำนวน 4 อาคาร แบ่งเป็น อาคารชุดพักอาศัย สูง 8 ชั้น 3 อาคาร รวมห้องพักอาศัย 684 ยูนิต และ อาคารเพื่อการพาณิชย์ 1 อาคาร จำนวน 6 ยูนิต บนเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ พร้อมที่จอดรถ 223 คัน ซึ่งคาดว่าจะสร้างเสร็จช่วงต้นปี 2570 

มาชมพื้นที่ส่วนกลางกันบ้าง ขอบอกเลยว่าไม่ใช่แค่งานดีไซน์ที่ดูมินิมอลโดนใจวัยรุ่นเทสต์ดีเท่านั้น แต่ยังเชื่อม Space ทั้งภายในและนอกอาคารให้มาบรรจบกันอย่างลงตัวกับ Key DNA ของ COBE คือ Co-Being Community และที่นี่มาในคอนเซปต์ “A Community For Every You” สร้างพื้นที่ Join Community - Share Your Story - Pin Your Interest ให้ลูกบ้านมาพบปะและแชร์ไอเดียกันได้ทุกเมื่อ ส่วน Facilities ต่าง ๆ ก็มีครบตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคใหม่ รวมถึงติดตั้ง Solar Cell เพื่อลดการใช้พลังงาน โดยค่าส่วนกลางจะอยู่ที่ 58 บาท/ตารางเมตร/เดือน 

เริ่มที่ Main Gate จะมีทั้งหมด 3 จุดด้วยกัน โดยประตูที่ 1 ซึ่งอยู่ด้านหน้าโครงการจะเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนประตูที่ 2 ฝั่ง Commercial จะปิดเวลา 06.00-10.00 น. และเปิดให้เข้าได้อย่างเดียวตั้งแต่ 15.30-20.00 น. นอกเหนือจากนี้สามารถเข้า-ออกได้ตลอดเวลา

สุดท้ายประตูที่ 3 จะอยู่ทางด้านซอยลาดพร้าว 64 แยก 4 โดยเปิดให้ออกเวลา 06.00-10.00 น. และเข้าในเวลา 16.00-20.00 น.เท่านั้น นอกเวลานี้ประตูจะปิด ซึ่งข้อดีของการมีทางเข้า-ออกกระจายไปตามจุดต่าง ๆ ช่วยเพิ่มความสะดวกให้ลูกบ้านมากขึ้น และช่วยลดปัญหารถติดหน้าโครงการได้

ไปต่อกันที่ส่วนกลางชั้น 1 เริ่มจากอาคาร A ประกอบไปด้วย Main Lobby, Social Lounge, Fitness, Mail Room และ Grab Station ส่วนอาคาร B และอาคาร C จะมี Mail Room และ Grab Station อยู่ที่ชั้น 1 เช่นกัน 

สำหรับ Lobby, Social Lounge มีการออกแบบให้ดูโปร่งโล่งสบายตา พร้อมเปิดรับวิวสวนด้วยกระจกบานใส ได้บรรยากาศทั้งสดชื่นและผ่อนคลาย จะมานั่งทำงานชิล ๆ หรือใช้เป็นที่พบปะเพื่อน ๆ ก็ดูเหมาะไปหมด

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ในอาคาร A จะมี Craft & Co. Space และ Meeting Room 2 ห้อง ซึ่งเชื่อมต่อกับ Social Lounge และ Main Lobby ชั้นล่างพอดี ส่วนอาคาร B จะมี Craft & Co. Space ให้ลูกบ้านเข้ามานั่งทำงานหรืออ่านหนังสือ และอาคาร C ก็มีทั้ง Craft & Co. Space, Meeting Room ไว้ให้ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะนัดคุยงาน นั่งทำโปรเจกต์กับเพื่อน ๆ หรือทำเวิร์กช็อปต่าง ๆ และยังมี Live Studio สำหรับสายคอนเทนต์ หรือ แม่ค้า/พ่อค้าออนไลน์ ก็สามารถมาใช้ห้องนี้ไลฟ์สด หรือถ่ายคอนเทนต์ได้

บริเวณ Inner court สวนสีเขียวตรงกลางระหว่างอาคาร ยังมี Lap Pool ขนาด 25 x 5 เมตร ลึก 1.20 เมตร ให้ได้ว่ายออกกำลังกายอย่างเต็มที่ หรือจะมานั่งพักผ่อนสูดอากาศบริสุทธิ์ท่ามกลางธรรมชาติที่ Pool Terrace ซึ่งมีต้นไม้ล้อมรอบ ก็ชิลไปอีกแบบ

ถัดขึ้นไปจะมี Stepp Garden สวนเล่นระดับรับมุมมองจากชั้น 1 ไปชั้น 2 จะเจอกับ Thinkk Yard สวนสีเขียวที่ร่วมออกแบบ Outdoor Furniture กับบริษัท Thinkk Studio และมี Mingle Loung ให้ลูกบ้านได้มาทำอาหาร ปาร์ตี้ สังสรรค์กันได้ และมี Rooftop Garden บนดาดฟ้าของอาคาร A และอาคาร Commercial ให้มานั่งชิลรับลมตอนเย็น 

► Practical Living, Lasting Worth

ชีวิตที่ใช้ได้จริง บนความคุ้มค่าและยั่งยืน

ถึงเวลาพาไปชมห้องพักอาศัยกันบ้าง โค้บบ์ ลาดพร้าว-สุทธิสาร เป็นอีกหนึ่งคอนโดรักษ์โลกแบบจริงจัง เพราะโครงการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและผู้อยู่อาศัยในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็น เฟอร์นิเจอร์ไม้ E1 ที่ช่วยลดสารก่อมะเร็ง หรือสีทาภายในที่ลดการปล่อยสาร VOCs ซึ่งเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ รวมถึงเลือกใช้กระเบื้องที่ลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิต

อีกจุดที่โดนใจคือ โครงการขายแบบ Fully Furnished ทุกยูนิต จัดมาให้ครบทั้งเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและบิลท์อิน เรียกว่าแทบไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มก็มูฟอินเข้าอยู่ได้เลย เหมาะกับคนเพิ่งเริ่มทำงานที่อยากมีคอนโดเป็นของตัวเอง แต่ยังไม่พร้อมรับภาระค่าใช้จ่ายในการแต่งห้องเพิ่ม และยิ่งคุ้มอีกขั้น โครงการรับประกันห้องและเฟอร์นิเจอร์นานถึง 3 ปี* ทั้งนี้ ทุกยูนิตได้ Floor to Ceiling 2.55 เมตร มีห้องให้เลือกทั้งหมด 4 Type ดังนี้

► 1 Bed Flex ขนาด 24-25 ตารางเมตร

ห้องแรกที่เราได้เข้าไปชมคือ 1 Bed Flex ที่ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่ามีความ Flexible เพราะห้องขนาดนี้ เค้ามีแปลนให้เลือก 2 แบบ สามารถเลือกแบบห้องให้ตรงตามไลฟ์สไตล์ และห้องที่นำมาทำห้องตัวอย่างก็ฟังก์ชันลงตัวมาก ๆ แม้ว่าจะเป็นห้องไซซ์เริ่มต้น แต่ก็จัดสรรพื้นที่ออกมาได้ดีเกินคาด ไม่ว่าจะอยู่คนเดียวหรือสองคนก็ใช้ชีวิตได้ลงตัว แถมยังมี Walk-in Closet มาให้อีกด้วย

เปิดประตูเข้ามาจะเจอครัวก่อนเลย ซึ่งทางโครงการบิลท์อินตู้เก็บของไว้ให้ครบทั้งด้านบนและด้านล่าง ใช้งานสะดวก แถมยังติดตั้งเตาไฟฟ้ากับเครื่องดูดควันของ Teka มาให้พร้อม ที่สำคัญไม่ต้องห่วงเรื่องกลิ่นอาหารลอยไปทั่วห้อง เพราะมีประตูกระจกบานสไลด์กั้นครัวออกจากโซน Living อย่างชัดเจน

พอเดินเข้ามาด้านใน จะเจอกับการจัดพื้นที่แบบ Double Space ก็คือจัดให้พื้นที่นั่งเล่นเชื่อมต่อกับห้องนอนที่อยู่ใน Space เดียวกัน จึงได้พื้นที่เปิดกว้าง รู้สึกโล่ง อยู่สบาย โครงการจัดวางเลย์เอาต์ได้ลงตัวมาก ทั้งยังให้ครบทั้งโซฟา ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต โต๊ะทำงานขนาดกะทัดรัดกับเก้าอี้ และบิลท์อินตู้เก็บของติดผนังที่วางทีวีได้พอดี เรียกว่ามีครบทุกฟังก์ชันจริง ๆ

อีกมุมที่ถูกใจมาก ๆ คือ Walk-in Closet ที่เชื่อมต่อกับห้องนอนโดยตรง มีโต๊ะเครื่องแป้งกับตู้เสื้อผ้าบิลท์อินขนาดค่อนข้างใหญ่มาให้เสร็จสรรพ ใช้งานได้จริงแบบไม่ต้องซื้อเพิ่ม 

ส่วนห้องน้ำจะอยู่ติดกัน ภายในให้สุขภัณฑ์มาครบ พร้อม Hand Shower อีกทั้งยังกรุช่องวางของให้ด้วย ทำให้ไม่ต้องไปหาชั้นวางมาติดผนังเองให้เสียเวลา

ต่อกันที่โซนสุดท้ายของห้องนี้คือระเบียง ซึ่งอยู่ถัดจาก Walk-in Closet สามารถเปิดออกไปใช้งานด้วยประตูกระจกบานสไลด์ มีพื้นที่ 1.5 ตารางเมตร ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป วางเครื่องซักผ้าและราวตากผ้าได้พอดี 

► 1 Bedroom Signature ขนาด 27-30 ตารางเมตร

ถัดไปขยับมาที่ห้องไซซ์์ใหญ่ขึ้นอีกหน่อย อย่าง 1 Bedroom Signature บอกเลยใครที่รักการอยู่บ้าน ไม่ชอบออกไปข้างนอก ห้องนี้คือเหมาะมาก เพราะได้พื้นที่เยอะขึ้น ทำให้จัดมุมต่าง ๆ ตามไลฟ์สไตล์ได้สบาย ๆ 

ห้องนี้เป็นห้องหน้ากว้าง โดยโซนแรกที่เจอเมื่อเปิดประตูเข้ามาก็คือ Living Area ที่ค่อนข้างใหญ่ ซึ่งจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ไว้อย่างเป็นระเบียบ ไม่ว่าจะเป็น โซฟา โต๊ะกลาง โต๊ะและเก้าอี้รับประทานอาหาร ไปจนถึงตู้เก็บของและชั้นวางทีวีแบบบิลท์อิน ส่วนตัวชอบ Type นี้เป็นพิเศษ เพราะบรรยากาศดูโปร่งโล่งสบาย เหมาะกับการนั่งพักผ่อน หรือจะปรับเป็นมุมทำงานเล็ก ๆ เพิ่มเติมก็ยังได้

เดินเข้ามาอีกหน่อยจะเป็นห้องนอน ภายในห้องมีฐานเตียงขนาด 5 ฟุต ตู้เสื้อผ้าบิลท์อิน และโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ครบ กั้นโซนมาให้ชัดเจน แยกระหว่าง Living และห้องนอน เผื่อถ้าคนนึงนั่งดูทีวี อีกคนอยากนอนพักผ่อนก็ทำได้ไม่รบกวนกัน หรือมีแขกมาก็ยังมีพื้นที่ส่วนตัวเป็นของเราเอง

และห้องที่อยู่ติดกันจะเป็นห้องน้ำ ซึ่งติดตั้งอุปกรณ์ครบ พร้อมกรุช่องวางของให้ด้วยเช่นกัน โดยสามารถเข้าได้จากห้องนั่งเล่น ทำให้เวลามีเพื่อนมาหาก็เข้าใช้งานได้เลย ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอน

ขณะที่ห้องครัวกั้นระหว่าง Living Area ด้วยประตูกระจกบานสไลด์ แยกสัดส่วนออกจากกันอย่างชัดเจน ส่วนขนาดก็กว้างกำลังดี มีครบทั้งเคาน์เตอร์ครัวและตู้เก็บของบิลท์อิน รวมถึงติดตั้งเตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควันให้พร้อม ที่ถูกใจเป็นพิเศษคือ ยังมีโต๊ะสำหรับวางของใช้ในครัว หรือทำเป็นมุมดริปกาแฟ หรือชงมัทฉะตอนเช้าก็ได้ฟีลสบาย ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเหลือพื้นที่ให้วางของอย่างอื่นเพิ่มได้แบบไม่รู้สึกอึดอัด

ส่วนระเบียงจะมีประตูบานสไลด์เชื่อมต่อออกไปจากห้องครัวได้เลย โดยมีพื้นที่ 1.7 ตารางเมตร สามารถวางเครื่องซักผ้าและตากผ้าได้สบาย ๆ

แม้จะเป็นการกลับมาทำคอนโด Affordable อีกครั้งในรอบ 10 ปีของ SC Asset แต่ก็ยังคงความพิถีพิถันในทุกดีเทล ไม่ว่าจะเรื่องดีไซน์ ฟังก์ชัน ไปจนถึงวัสดุที่เลือกใช้ ในราคาเริ่มต้นเพียง 2 ล้านบาท* ตอบโจทย์ทั้งความคุ้มและคุณภาพ สมกับเป็นคอนโดที่คนรุ่นใหม่รอคอยจริง ๆ 

ใครกำลังมองหาคอนโดราคาย่อมเยา บนทำเลที่ดี นาทีนี้ก็ต้อง โค้บบ์ ลาดพร้าว-สุทธิสาร (COBE Ladprao-Sutthisan) เท่านั้น ขอบอกเลยว่า อยู่ โค้บบ์ มีแต่คุ้ม! คลิกลิงก์ลงทะเบียนเยี่ยมชมโครงการกันได้เลย >>> https://bit.ly/3JQKxSJ