
หน้าแรก
นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่าสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ระลอกใหม่ส่งผลกระทบต่อลูกหนี้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ดังนั้น ธปท. จึงขอให้สถาบันการเงิน สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และผู้ประกอบธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงิน (ผู้ให้บริการทางการเงิน) เร่งช่วยเหลือลูกหนี้ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. ขยายเวลาให้ลูกหนี้รายย่อยสมัครรับความช่วยเหลือได้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 (จากเดิมที่ครบกำหนดในวันที่ 31 ธันวาคม 2563) โดยลูกหนี้สามารถสมัครขอรับความช่วยเหลือด้วยตนเอง หรือนายจ้างหรือเจ้าของกิจการสมัครขอรับความช่วยเหลือแทนลูกหนี้ได้ เช่น ในกรณีสินเชื่อสวัสดิการ โดยต้องได้รับความยินยอมจากลูกหนี้ที่เป็นพนักงานหรือลูกจ้าง เพื่อให้การขอรับความช่วยเหลือของลูกหนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทันเหตุการณ์
2. ให้ผู้ให้บริการทางการเงินเร่งให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ทุกประเภท (ลูกหนี้รายย่อย ลูกหนี้ SMEs และลูกหนี้ธุรกิจขนาดใหญ่) ตามความเหมาะสมกับประเภทสินเชื่อและคำนึงถึงความเสี่ยงของลูกหนี้ จำแนกตามลักษณะธุรกิจและพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งมีแนวทางต่าง ๆ ดังนี้
- 2.1 ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เช่น ลดค่างวด ขยายระยะเวลาชำระหนี้ ต่ออายุวงเงินหรือคงวงเงิน เปลี่ยนประเภทหนี้จากสินเชื่อระยะสั้นเป็นสินเชื่อระยะยาว ปลอดชำระเงินต้นและ/หรือดอกเบี้ยชั่วคราว ลดอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำกว่าอัตราตลาด เป็นต้น
- 2.2 ให้เงินทุนหมุนเวียนและเสริมสภาพคล่องเพิ่มเติม
- 2.3 พิจารณาชะลอการชำระหนี้สำหรับลูกหนี้ SMEs ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 100 ล้านบาท ภายใต้ พ.ร.ก. soft loan ช่วงที่ผ่านมาอาจจะทำให้ลูกหนี้ไม่สารถประเมินกระแสเงินสดได้เพราะฉะนั้นการจะปรับปรุงโครงสร้างหนี้ในช่วงนี้ก็อาจจะยากลำบาก เพระฉะนั้นมีช่องให้กับลูกหนี้กลุ่มนี้ไปยื่นขอความช่วยเหลือจากสถาบันการเงินในเรื่องของการชะลอหนี้ได้อีกจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 64 เช่นเดียวกัน
- 2.4 ผ่อนปรนเงื่อนไขอื่นตามความเหมาะสม
ธปท. จะติดตามความคืบหน้าการช่วยเหลือลูกหนี้ของผู้ให้บริการทางการเงินอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ ธปท. สามารถทบทวนมาตรการช่วยเหลือได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ต่อไป
ด้าน นางวิเรขา สันตะพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกำกับและตรวจสอบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ธปท. กล่าวว่า ในสภาวะปัจจุบันธนาคารพณิชย์รวมถึงสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมถึงผู้ประกอบการที่ไม่ใช่ธนาคารได้มีการทยอยออกมาตรการออกมาอย่างต่อเนื่อง
ลูกหนี้สามารถยื่นขอให้สถาบันการเงินพิจารณามาตรการช่วยเหลือได้ถึงวันที่ 30 มิ.ย.64 โดยธนาคารพาณิชย์สามารถพิจารณาตามความเหมาะสมที่ลูกหนี้ประสบปัญหา เช่น ในกรณีที่ลูกหนี้ตกงาน ธนาคารพาณิชย์สามารถเลื่อนการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้ ซึ่งอาจต่อเนื่องไปภายหลังวันที่ 30 มิ.ย.ก็ทำได้
ด้านลูกหนี้ สินเชื่อบ้านจะมีหลายทางเลือกในการช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มนี้ ตั้งแต่เลื่อนการชำระค่างวดทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยออกไป 3 เดือน หรือเลื่อนชำระเงินต้น 3 เดือนและพิจารณาจ่ายดอกเบี้ยตามความเหมาะสม สุดท้ายการขอลดค่างวดโดยขยายเวลาการชำระนี้
ทั้งนี้ ลูกหนี้ที่ต้องการความช่วยเหลือควรรีบติดต่อศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า (call center) ของผู้ให้บริการทางการเงินแต่ละแห่งได้โดยตรง หรือ โทร 1213 ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธปท. หรือผ่าน "ทางด่วนแก้หนี้" เว็บไซต์ https://www.1213.or.th/App/DebtCase
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ขึ้นแท่นอันดับ 1 ด้านคุณภาพการบริหารจัดการระดับสากล กวาด ISO มากที่สุด ครบ 3 มาตรฐานครอบคลุมทุกมิติ เป็นเจ้าแรกในประเทศไทย
2022-07-14
นัมเบอร์วันเฮ้าส์ซิ่ง ดิเวลลอปเม้นท์ ส่งโครงการ THE ONE life bangna บุกเมกาบางนา บ้านเดี่ยวอารมณ์รีสอร์ตใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ ทำเลต้นบางนา
2022-07-14
Last Call Promotion!! กับแคมเปญ “ชีวาทัยเป็นได้มากกว่าเพื่อน” หมดเขต 31 ก.ค.นี้เท่านั้น
2022-07-14
ASW เสริมกลยุทธ์ Lifestyle Community จัด Monstr Concert Festival Series#1 ตอบรับไลฟ์สไตล์ลูกบ้านโครงการคอนโดฯ เคฟทาวน์ สเปซ
2022-07-14
เตือนภัยขอสินเชื่อบ้าน-ที่ดินระวังโดนโกง
2022-07-11
ข้อมูลละเอียดดีครับ ขอบคุนสำหรับ ข้อมูลนะครับ
บทความดีๆ หาอ่านได้ที่นี่เลยค่ะ ชอบมากๆ
ดีมากๆ เป็นเว็บที่ให้ข้อมูลดีค่ะ
ห้องดูกว่างมากเลยโครงการนี้
ชอบนะ อ่านต่อไม่รอแล้วจ้า
อันนี้รีวิวหรือวิทยานิพนธ์คะ ละเอียดจริงๆ สุดยอดเลยค่ะ