
หน้าแรก
นายชญานิน ปัตตพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.พี.ซี.คอนกรีตอัดแรง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้างแบรนด์ ซี.พี.ซี. เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินธุรกิจค้าวัสดุรายใหญ่ในจังหวัดพิษณุโลกมานานกว่า 39 ปี ครองมาร์เก็ตแชร์ของตลาดค้าวัสดุทั้งหมดในจังหวัดพิษณุโลก กว่า 50% หรือสร้างรายได้เข้าบริษัทปีละ 200 ล้านบาท โดยสินค้าหลักของบริษัทคือ เสาเข็ม คอนกรีต คอนกรีตผสมเสร็จ ท่อระบายน้ำ สำหรับทิศทางตลาดในปีนี้จะชะลอตัวลงตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย และเศรษฐกิจจังหวัดพิษณุโลก ที่ภาคเอกชนชะลอการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ และเกษตรกรกำลังลดลงเป็นผลสืบเนื่องมาจากพืชผลทางการเกษตรราคาตกต่ำ
ทั้งนี้เริ่มเห็นสัญญาณของธุรกิจไม่ขยายตัวตั้งแต่ปี2558 เป็นต้นมา ส่งผลยาวมาถึงปี 2559 ยอดขายบริษัทลดลงราว 15-20% และปี 2560 คาดว่าจะลดลงไม่ต่ำกว่า 15% เพราะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว ราคาสินค้าเกษตรยังไม่ปรับตัวดีขึ้น แต่บริษัทจะปรับเปลี่ยนแผนการตลาดใหม่จากเดิมที่มีสัดส่วนลูกค้า 50% เอกชนอีก 50% ลูกค้าภาครัฐ ปีนี้จะหันมาเจาะลูกค้าภาครัฐเป็น 70% ลดสัดส่วนเอกชนเหลือ 30% โดยเฉพาะโครงการซ่อมแซมถนน คลองประปา ส่วนโครงการขนาดใหญ่ขณะนี้กำลังรอท่าทีจากผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการสร้างสะพานข้ามแยกอินโดจีน งบประมาณกว่า 800 ล้านบาท ที่กำลังจะเร่งก่อสร้างในเร็วๆ นี้ ขณะนี้ผู้รับเหมากำลังสำรวจราคาวัสดุก่อสร้าง หากว่าบริษัทได้ถูกรับเลือกป้อนวัสดุให้กับโครงการดังกล่าวจะส่งผลดีอย่างมากต่อธุรกิจในปีนี้
สำหรับสถานการณ์การแข่งขันในธุรกิจวัสดุก่อสร้างจังหวัดพิษณุโลก มีการแข่งขันที่รุนแรง จากทุนท้องถิ่นและบิ๊กแบรนด์จากส่วนกลาง แต่บริษัทไม่ได้รับผลกระทบเพราะจำหน่ายสินค้าคนละเซ็กเมนต์กับคู่แข่ง โดยบริษัทจะเน้นจำหน่ายวัสดุก่อสร้างที่เป็นโครงสร้างขนาดใหญ่ และเป็นเจ้าตลาดจึงไม่ได้รับผลกระทบ อีกทั้งต้นทุนการผลิตก็ไม่สูงมาก เพราะผลิตเองทุกกระบวนการ นอกจากนี้ยังมีสาขาย่อย 6 สาขา ในต่างอำเภอ และในจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง เช่น สุโขทัย กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ เป็นต้น ทำให้ประหยัดต้นทุนค่าขนส่งได้
"ปีนี้เป็นอีกปีหนึ่งนักธุรกิจไม่เชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ขยายตัวไม่มีใครกล้าที่จะลงทุน เห็นได้ชัดเจนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในพิษณุโลกชะลอตัวมากคอนโดมิเนียม 3 โครงการขายไม่ออก เหลือขายกว่า 500 ยูนิต นอกจากนี้ยังมีโครงการบ้านเดี่ยวของกลุ่มแสนสิริตัดสินใจไม่ขึ้นเฟสใหม่เพราะรอดูท่าทีเศรษฐกิจ และกำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัว นโยบายบริษัทนอกจากจะปรับแผนการตลาดใหม่ แล้วยังต้องประหยัดลดต้นทุนการผลิตสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป" นายชญานินกล่าว
นายชญานินกล่าวว่า สำหรับแผนการลงทุนใหม่จะทุ่มงบประมาณกว่า 150 ล้านบาท สร้างโรงงานเพื่อดำเนินธุรกิจค้าเหล็กเพื่องานก่อสร้าง เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ เนื่องจากจะยึดฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่ คาดว่าธุรกิจค้าเหล็กกับค้าวัสดุก่อสร้างจะสามารถไปด้วยกันได้จะเป็นธุรกิจใหม่ที่ช่วยเสริมธุรกิจเดิม และมั่นใจว่าภายใน 2 ปี ต่อจากนี้ไปธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง
ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1491450965
“เสนา” เปิดตัว “เฟล็กซี่ เมกะ สเปซ บางนา” คอนโดโลว์คาร์บอนแฟล็กชิพพร้อมอยู่แห่งแรกย่านบางนา เริ่ม 1.89 ล้านบาท*
54 นาทีที่แล้ว
แสนสิริ เผยลูกค้าตอบรับ ‘บุราสิริ-สราญสิริ’ ดีเกินคาด ยอดจองทะลุเป้า ชูจุดเด่น ‘จตุโชติคอมมิวนีตี้’ ใกล้ทางด่วนเพียง 5 นาที
6 ชั่วโมงที่แล้ว
ชาญอิสสระ รุก 3 โปรเจกต์อัลตราลักซ์ชัวรี ทำเลกรุงเทพกรีฑา–ภูเก็ต มูลค่ารวม 12,000 ล้านบาท พร้อมผนึก BDMS Wellness Clinic ยกระดับการอยู่อาศัยเพื่อสุขภาพครบวงจร
เมื่อวานนี้
เอพี ไทยแลนด์ Grand Opening ‘ASPIRE วิภา-วิคตอรี่’ คอนโดคุณภาพพร้อมเข้าอยู่ ปรับสมดุลพลังงานชีวิต ครบทุกคำตอบ ‘ที่สุดของ Living Quality ในแบบคุณ’
เมื่อวานนี้
CG Capital ผนึก IHG เปิดตัว “InterContinental Residences Bangkok Asoke” โครงการ Freehold แห่งเดียวใจกลางสุขุมวิท เดินหน้าวางหมากกรุงเทพฯ สู่ World Class City
เมื่อวานนี้
ดีที่ได้อ่านรีวิวก่อนซื้อคอนโด ช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ชอบค่ะ
ดีมากเลยค่ะ น่าติดตามข้อมูล
เป็นประโยชน์มากครับ กำลังตัดสิ้นใจพอดีครับ
ดีเลยครับได้ความรู้
เยี่ยมมากๆ ครับ น่าสนใจ FC เลยครับ