
หน้าแรก
นับตั้งแต่ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนใหม่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้เริ่มทำงานอย่างต่อเนื่องภายใต้ 216 นโยบาย (ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีก) โดยมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ขึ้นสำหรับทุกคน นโยบายดังกล่าวครอบคลุม 9 ด้าน ได้แก่ ความปลอดภัยสาธารณะ ศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ การขนส่งสาธารณะ สุขภาพ โครงสร้างพื้นฐานและแผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดิน การศึกษา และการบริหารจัดการ
photo credit by prachachat
ซีบีอาร์อี บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก ให้ความเห็นว่า ด้วยประสบการณ์ของผู้ว่าฯ ในฐานะอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จึงเป็นที่คาดว่านโยบายมีแนวโน้มที่จะส่งผลในทางที่ดีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ เพราะมาจากมุมมองของผู้ที่มีความรู้ด้านอสังหาริมทรัพย์และการพัฒนาเมืองในกรุงเทพฯ
หลายนโยบายมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและเครือข่ายขนส่งสาธารณะ ในขณะที่ลดค่าใช้จ่ายและแก้ไขปัญหาในระดับ "เส้นเลือดฝอย" ไปในเวลาเดียวกัน แต่ยังมีนโยบายที่น่าสนใจอื่น ๆ ที่เราเชื่อว่าจะส่งผลอย่างมากต่อการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
นายรัฐวัฒน์ คูวิจิตรสุวรรณ หัวหน้าแผนกวิจัยและที่ปรึกษาการพัฒนาโครงการ ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า “นโยบายหนึ่งที่จะส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่อการพัฒนาเมืองหากมีการนำมาบังคับใช้ คือ นโยบายในการแก้ไขการวางผังเมืองและกฎหมายควบคุมอาคารให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในปัจจุบัน ข้อบังคับหลายเรื่องค่อนข้างล้าสมัยแล้วและไม่ได้สอดคล้องกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน ซึ่งทำให้เป็นอุปสรรคในการพัฒนาด้านการวางผังเมืองอย่างเป็นระบบ”
หลายคนกล่าวว่ากรุงเทพฯ ได้สูญเสียเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์เรื่องร้านอาหารริมทางหรือสตรีทฟู้ดไปแล้ว เมื่อมีข้อกำหนดในการดูแลความสะอาดเรียบร้อยของทางเท้า โดยไม่ได้จัดหาพื้นที่ใหม่ให้พ่อค้าแม่ค้าที่ต้องย้ายออกจากพื้นที่เดิม นโยบายใหม่นี้ไม่เพียงมีเป้าหมายที่จะสร้างความร่วมมือ ระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อจัดหาพื้นที่สำหรับหาบเร่แผงลอยที่เหมาะสมในเมืองเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมการจัดถนนคนเดินในพื้นที่ที่มีผู้คนเดินเท้าหนาแน่นอีกด้วย
กรุงเทพฯ จะฟื้นคืนสตรีทฟู้ดและสร้างศูนย์อาหารในทำเลต่าง ๆ ซึ่งให้ความสะดวกต่อพนักงานในอาคารสำนักงานและผู้อยู่อาศัยในแต่ละพื้นที่ ส่งผลให้ทำเลนั้นๆ มีความน่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้อสังหาริมทรัพย์โดยรอบและผู้ที่มาเยือน
นอกจากนี้ หากจะเพิ่มเติมจากนโยบายของผู้ว่าฯ ชัชชาติ ซีบีอาร์อีเชื่อว่าการควบคุมดูแลเรื่องความสะอาดของพื้นที่และอาหาร จะเป็นแรงผลักดันที่สำคัญในการส่งเสริม และยกระดับอาหารข้างทางสู่มาตรฐานสากล รวมถึงส่งผลต่อความเป็นอยู่ที่ดีของชาวกรุงเทพฯ และผู้ที่มาเยือน
“อัตราเงินเฟ้อและค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นในกรุงเทพฯ ได้ส่งผลให้บัณฑิตจบใหม่จำนวนมากต้องนำรายได้ส่วนใหญ่ไปจ่ายค่าที่พักและค่าเดินทาง ทำให้มีเงินเหลือสำหรับการออมและการใช้จ่ายอื่น ๆ เพียงเล็กน้อย ซึ่งไม่ได้ส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจ หนึ่งในนโยบายของผู้ว่าฯ ชัชชาติ คือการสร้างที่พักอาศัยชั่วคราวสำหรับนักเรียนนักศึกษาจบใหม่ (Housing Incubator) ที่มีอายุ 18-25 ปีให้สามารถเช่าอาศัยได้ด้วยค่าเช่าที่ต่ำเป็นระยะเวลา 5 ปี
ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้คนกลุ่มนี้สามารถประหยัดเงินได้มากขึ้นและตั้งตัวได้ แผนงานที่วางไว้คือการแปลงอาคารเก่า ที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ในเชิงพาณิชย์แล้ว หรืออาคารที่รอการพัฒนาในย่านใจกลางธุรกิจ ให้เป็นที่พักอาศัยชั่วคราว อย่างไรก็ตาม นโยบายนี้จะส่งผลโดยตรงต่อตลาดให้เช่าที่พักอาศัยทั่วกรุงเทพฯ ทำให้การแข่งขันเพิ่มขึ้น และมีแนวโน้มที่จะมีผลต่อราคาค่าเช่าที่พักอาศัย ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักศึกษาจบใหม่” นายรัฐวัฒน์กล่าวเพิ่มเติม
ยังมีอีกหลายนโยบายของผู้ว่าฯ ที่เราจะต้องรอดูว่าจะมีการดำเนินการตามแผนที่วางไว้หรือไม่ และนโยบายใดบ้างที่จะดำเนินการเป็นอันดับแรก ๆ แต่สิ่งที่เรากำลังเห็นอยู่ คือ ความชัดเจนมากขึ้นของการจัดการงบประมาณและนโยบายรายเขตที่ชี้ให้เห็นถึงปัญหาที่รอการแก้ไขทั่วกรุงเทพฯ สิ่งที่เราทำได้ในตอนนี้คือส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมจากภาคเอกชน และหวังว่าสโลแกนของผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์จะเป็นไปตามที่ตั้งไว้ว่า ทำงาน ทำงาน ทำงาน
ASW โชว์แกร่ง 9 เดือนกวาดยอดขาย 17,474 ล้านบาท ทะลุ 90% ของเป้าทั้งปี เตรียมปรับแผนภูเก็ต เปิดโปรเจกต์ใหม่เพิ่มเสริมทัพไฮซีซั่น มั่นใจพรีเซลตามเป้า 19,500 ล้านบาท
เมื่อวานนี้
SCOPE Thonglor เปิดตัว Triplex Residence รูปแบบ The Penthouse of Penthouses ครอบคลุม 3 ชั้น พื้นที่กว่า 765 ตร.ม. ราคา 615 ลบ.
เมื่อวานนี้
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ขนบ้านเดี่ยว-ทาวน์โฮมจัดแคมเปญ “เค้าท์ดาวน์ ดีล!! แจกให้หมดครบจบที่นี่” ลดสูงสุด 300,000 บาท วันที่ 4-5 ต.ค.นี้เท่านั้น
เมื่อวานนี้
“Lumpini Park ON 19” กระแสดีเกินคาด กวาดยอดจองกว่า 360 ล้านบาท หลังเปิดขายอย่างเป็นทางการ
เมื่อวานนี้
แสนสิริ เผยยอดขาย 9 เดือนแรกปี 68 อยู่ที่ 39,000 ล้านบาท โค้งสุดท้ายลุยเปิด 7 โครงการใหม่ มูลค่า 18,000 ล้านบาท
2025-10-02
ขอบคุณค่ะ ได้ความรู้มากๆ เลย
เขียนบทความน่าอ่านมากเลย
เขียนได้ดีมากค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ ที่เขียนบทความดีๆนี้ให้อ่านน่ะคะ
น่าติดตามค่ะ
ดีไปหมด ไม่มีที่ติเลยจ๊ะ