พลัสฯ ประเดิมคว้างาน 2 โครงการใหม่

พลัสฯ ในธุรกิจบริหารอาคารเพื่อการพาณิชย์ ประเดิมเปิดศักราช 2565 คว้างานบริหารอาคารและระบบวิศวกรรมอาคาร และงานที่ปรึกษาด้านบริหารอาคาร 2 โครงการใหม่ อาคารสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ​​​(ก.ล.ต.) และกรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต สำนักงานใหญ่ (KTAXA)

พร้อมเดินหน้ารับงานใหม่ ชูจุดแข็งบริษัทไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล เชี่ยวชาญเข้าใจลูกค้า ด้วยทีมงานมืออาชีพและทีมสนับสนุนจากส่วนกลาง ผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านการดูแลอาคาร บริหารงานวิศวกรรม บริหารระบบด้านความปลอดภัย

และจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งาน เพื่อการบริหารอาคารเต็มรูปแบบอย่างล้ำสมัยและเพิ่มประสิทธิภาพอาคาร มองแนวโน้มงานบริหารอาคารเพื่อการพาณิชย์ในยุคต่อจากนี้ จะให้ความสำคัญกับ Sustainability และ Technology เป็นอีกหนึ่งมาตรฐานใหม่ในการดำเนินธุรกิจ 

นายชาญ ศิริรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริหารทรัพยากรอาคารและระบบวิศวกรรม บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมตอบโจทย์ทุกบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ กางแผนการดำเนินธุรกิจงานบริหารอาคารเพื่อการพาณิชย์ในปี 2565 พลัสฯ พร้อมเดินหน้าธุรกิจแม้ปัจจุบันจะมีความท้าทายจากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กระทบต่อรูปแบบการทำงานและการใช้พื้นที่อาคารสำนักงาน แต่มองว่าอาคารสำนักงานยังคงมีความจำเป็นอยู่ เพียงแต่ต้องปรับรูปแบบให้ยืดหยุ่นและเหมาะสมสอดคล้องกับการใช้งาน และต้องให้ความสำคัญเรื่องระบบการจัดการความปลอดภัยและสุขอนามัยของผู้ใช้อาคาร

ซึ่งพลัสฯ สามารถปรับตัวและให้คำแนะนำเจ้าของอาคารจนผ่านความท้าทายนี้มาได้ โดยล่าสุดพลัสฯ ยังได้รับงานที่ปรึกษาบริหารพื้นที่สำนักงานและงานบริหารอาคารใหม่อีก 2 โครงการ ซึ่งได้รับความไว้วางใจจาก 1.อาคารที่ทำการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดี 2.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต (KTAXA) ในสำนักงานใหญ่ (อาคาร G Tower โซน South Wing)

โดยเป็นการให้คำปรึกษาแนะนำด้านงานอาคาร งานวิศวกรรมอาคาร งานดูแลความมั่นคงปลอดภัย (Physical security & safety) งานความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน (Occupational Safety, Health and Environment) บริหารการใช้พื้นที่และจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกในสำนักงาน

นอกจากนี้ การดำเนินงานของพลัสฯ จะให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืน (Sustainability) ซึ่งได้กลายมาเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญในทุกธุรกิจ การจะเปลี่ยนแปลงให้ธุรกิจมีความยั่งยืนได้ต้องเกิดจากการเปลี่ยนแปลงที่ค่อยเป็นค่อยไป พลัสฯ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในการขับเคลื่อนให้กับธุรกิจ ในลักษณะการเป็นพาร์ทเนอร์กับเจ้าของอาคารที่มีมุมมองสร้างความยั่งยืนที่ตรงกัน

พร้อมสร้างการเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน นอกจากดูแลบริหารพื้นที่และระบบวิศวกรรมอาคารแล้ว ยังมีการให้คำแนะนำและสนับสนุนการยกระดับมาตรฐานอาคารในด้านต่าง ๆ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมมากมาย เช่น รางวัลอาคารโดดเด่นด้านความปลอดภัย Building Safety Awards (BSA) 2021

จากสมาคมผู้ตรวจสอบอาคาร รางวัล Asian Building Fire Safety Award ของอาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ มาตรฐาน ISO 14001 : 2015 ของอาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่ และได้รับการรับรองมาตรฐานสากล Fitwel  อาคารเพื่อสุขภาวะที่ดีของผู้ใช้งาน จากอาคารสิริแคมปัสและอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นต้น

“เมื่อการผสานความยั่งยืนกลายเป็น “อนาคต” ในการทำธุรกิจที่ไม่อาจมองข้ามได้ ทำให้ภาคธุรกิจต้องเกิดการ Transformation ให้สอดคล้องกับกระแสการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ซึ่งพลัสฯ เริ่มต้นจากการเสนอนวัตกรรมหรือโมเดลที่นำเทคโนโลยีในการผสมผสานกระบวนการออกแบบมาช่วยลดการใช้พลังงาน เป็นการพัฒนา HVAC diagnostics and Solving based AI

โดยนำ AI และ IoT เข้ามาช่วยควบคุม วิเคราะห์ และสั่งการระบบปรับอากาศในอาคาร ตรวจวัดและสั่งการอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ เพื่อควบคุมคุณภาพอากาศ ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และยังลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย” นายชาญกล่าว

สำหรับการดำเนินธุรกิจบริหารอาคารเพื่อการพาณิชย์ของพลัสฯ ในปี 2565 ยังคงเดินหน้ารับงานโครงการใหม่  โดยปัจจุบันพลัสฯ บริหารอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ของผู้ประกอบการทั้งในกลุ่มของธุรกิจธนาคารและการลงทุน ธุรกิจโรงพยาบาล สถานศึกษา คอมมูนิตี้มอล

และพร้อมรับงานดูแลอาคารที่ครอบคลุมในทุกประเภท สำหรับผู้ที่สนใจบริการสามารถโทร.02-688-7555 หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง  www.plus.co.th/service/facility-management