รายการโปรด
โลกเปลี่ยนไปแล้วครับ แผนที่เคยทำให้คนรวยในอดีต อาจจะใช้ไม่ได้อีกแล้วในอนาคต ทำไมอย่างงั้น ? แล้วเราควรทำยังไงดี ? ... ผมจะเล่าให้ฟังครับ
คุณคงเคยได้ยินเรื่องราวของนักลงทุนที่เริ่มต้นจากเงินก้อนแรกจำนวนน้อย ๆ แต่ด้วยความสามารถในการลงทุนที่เฉียบคม และพลังของผลตอบแทนทบต้น ปีละ 30% ตลอด 20 ปี ทำให้พวกเค้ามีความมั่งคั่งระดับ 100 ล้าน หรือ แม้แต่ 1000 ล้าน ในปัจจุบัน ใช่ไม๊ครับ ... ผมเองก็เป็นคนนึงที่ฟังเรื่องราวเหล่านี้แล้วไฟลุก ! อยากทำตาม อยากเดินตามรอยความสำเร็จ หมกมุ่นอยู่กับการเพิ่มขีดความสามารถของตัวเอง ตั้งเป้าหมายไปที่ผลตอบแทน 30% ในแต่ละปี
จนผมได้มาพบความจริงที่ว่า... แผนการนี้ อาจจะใช้ไม่ได้อีกแล้วในอนาคต ถ้าเรานั่งไทม์แมชชีนไปในอีก 20 ปี ข้างหน้า แล้วสัมภาษณ์นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ ถามพวกเค้าถึงวิธีการที่ทำให้พวกเค้าร่ำรวย ผมเชื่อว่าคำตอบจะเปลี่ยนไปจากวันนี้มาก
ด้วยดอกเบี้ยธนาคารที่ต่ำ (มาก) ในปัจจุบัน ทำให้เรายอมรับผลตอบแทนที่ต่ำลงจากการลงทุน โดยไม่รู้ตัว
ถ้าคุณฝากเงินแล้วได้ดอกเบี้ย 5% คุณคงไม่ยอมลงทุน ถ้าผลตอบแทนไม่เย้ายวนพอ จริงไม๊หละครับ ? จะเอาเงินมาเสี่ยงทำไม ! อยู่เฉย ๆ ก็ได้ดอกเบี้ยอยู่แล้ว แต่ในปัจจุบัน ขอแค่ผลตอบแทน 4-5% คนก็แย่งกันลงทุนแล้ว ... คำถามคือ ถ้าคนทั่วโลก ยอมรับผลตอบแทนที่ต่ำลงจะเป็นยังไง ?
การลงทุนจริง ๆ แล้ว มันก็คือการประมูลครับ ใครที่ยอมรับผลตอบแทนต่ำกว่า (ซื้อแพงกว่า) ก็จะได้ลงทุนก่อน เพราะฉะนั้น เราจะเหลือทางเลือกแค่สองทางคือ จะยอมรับผลตอบแทนที่ต่ำลง หรือจะไม่ลงทุนเลย แน่นอนว่าเราต้องเลือกยอมรับผลตอบแทนที่ต่ำลง เพราะถ้าเราเลือกไม่ลงทุนเลย นั่นหมายถึงการเอาเงินไปเก็บไว้เฉย ๆ รอเงินเฟ้อมากัดกินจนเงินด้อยค่าไปเอง ซึ่งแย่กว่าการได้ผลตอบแทนต่ำซะอีก
ที่ผมพูดแบบนี้ ไม่ได้หมายว่าความรู้และความคมของการลงทุนไม่สำคัญนะครับ เรื่องนั้นแน่นอนว่ามันยังสำคัญเสมอ เสมอมา และเสมอไป ไม่ว่าเราจะลงทุนอะไร เราต้องรู้จริงในเรื่องนั้น แต่ผมกำลังจะบอกคุณว่า ต่อให้เราเก่งระดับเดียวกับคนที่ทำผลตอบแทนได้ 30% ในอดีต เราก็อาจจะทำผลตอบแทนได้แค่ 10-15% ในปัจจุบัน
ขอบคุณภาพจาก moneyweb.co.za
แล้วทำไงดี ??? ย้อนเวลาไปก็ไม่ได้แล้ว
ถ้าจะตอบคำถามนี้ ก่อนอื่นเลยเราต้องเข้าใจว่า ต่อให้โลกเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน มันมีหลักการพื้นฐานบางอย่างที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
สำหรับเรื่องการลงทุน หลักการที่ไม่มีวันเปลี่ยนก็คือ "ความมั่งคั่ง = เงินต้น x ผลตอบแทน x เวลา"
ผลตอบแทนต่ำลง เวลาก็เพิ่มไม่ได้ (จริงๆ คือลดลง เพราะอยากรวยเร็วขึ้น) ถ้าอยากมั่งคั่ง มันไม่มีทางออกอื่นครับ นอกจากเพิ่มเงินลงทุน ... อย่าเพิ่งด่าผมนะครับ ^^ คำตอบนี้อาจจะฟังดูกำปั้นทุบดิน แต่เป็นคำตอบที่เหมาะกับโลกปัจจุบัน
โลกนี้เป็นโลกที่ผลตอบแทนต่ำลงก็จริง แต่ก็เป็นโลกที่หาเงินมาลงทุนได้ง่ายขึ้น จะดีกว่าไม๊ครับ ? ถ้าเราจะใช้จุดแข็งของโลกปัจจุบันให้เป็นประโยชน์ แทนที่จะไปยึดติดอยู่กับแผนการแบบเดิม
ถ้าคุณถามผม ผมจะแนะนำให้หารายได้หลายช่องทาง ทั้งจากงานประจำ การลงทุน และงานเสริม สมัยนี้ขอแค่คุณเก่งจริงและมีความหลงไหลในมันมากพอ ไม่ว่าเรื่องอะไร ก็สามารถทำเงินได้ ... ต่อจากนั้น ก็วางแผนการใส่เงินเข้าไปเพิ่มในพอร์ทการลงทุนอย่างต่อเนื่อง และเป็นระบบ
เงินลงทุนจะเพิ่มขึ้นได้เร็วขึ้นไปอีก ถ้าคุณมีความรู้มาก ถึงระดับที่จะใช้เงินกู้จากธนาคารมาลงทุน (ให้กำไร) ได้ เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งข้อดีของโลกปัจจุบันครับ เพราะนอกจากดอกเบี้ยจะต่ำแล้ว "ไม่ต้องเป็นเศรษฐีก็กู้เงินล้านได้" สมัยก่อนเราทำแบบนี้ไม่ได้นะครับ
ขอบคุณภาพจาก adgsc.com
การบริหารเงินกู้เลยกลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยแห่งความสำเร็จที่สำคัญ โดยเฉพาะถ้าคุณชอบการลงทุนในอสังหาฯ --- ดอกเบี้ยต่ำนัก ย้ายมาอยู่ฝั่งผู้กู้ซะเลย !
แน่นอนครับ วันนึงดอกเบี้ยจะกลับเป็นขาขึ้น แต่ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไหร่ ในรอบใหญ่ (ไม่นับที่ดอกเบี้ยขึ้นเล็ก ๆ น้อย ๆ) อาจต้องใช้เวลาอีกเป็นสิบปี แต่อย่ารอเลยครับ เราไม่ได้มีเวลาเหลือเฟือขนาดนั้น และต่อให้ดอกเบี้ยกลับมาเป็นขาขึ้นจริง ๆ เราค่อยมาปรับแผนของเราอีกทีก็ยังไม่สาย
ยังไม่ต้องเชื่อผมทันทีก็ได้นะครับ แต่อยากฝากไว้ให้ลองเก็บไว้คิด เพราะผมเชื่อจริง ๆ ว่า การลงทุนด้วยเงินก้อนเล็ก แล้วมุ่งไปที่การเพิ่มผลตอบแทนอย่างเดียว ไม่ใช่แผนการที่ดีอีกแล้ว
แผนการที่ดีสำหรับทศวรรษ 2020 คือ หารายได้หลายช่องทาง เติมเงินลงทุนทุกเดือนอย่างเป็นระบบ และใช้เงินกู้จากธนาคารมาลงทุน อย่างเหมาะสม
แน่นอนว่า "ความรู้การลงทุน" ยังคงสำคัญ เพราะเรายังคงต้องเพิ่มผลตอบแทนให้สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้าคนทั่วไปทำได้ 5% แต่เราทำได้ 10-15% แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เราเป็นนักลงทุนที่มั่งคั่งในโลกยุคใหม่แล้วครับ
ขอให้มีความสุขกับการลงทุนในทศวรรษ 2020
ชอบการลงทุนอสังหา เพราะที่นี่เลย เข้าใจง่าย
ชอบนะ อ่านต่อไม่รอแล้วจ้า
ข่าวด้านอสังหาฯ ไวมาก ติดตามอยู่น่ะคะ
ดีเลยครับได้ความรู้
ขอบคุณบทความที่มีประโยชน์ครับ
รีวิวเขียนดีจังค่ะ