ลดค่าโอน-จำนองไม่คึก LTV ถ่วงอสังหาฯ หนัก

มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ เกิดแล้ว แบงก์-ดีเวลอปเปอร์ชี้ ลดค่าโอนเหลือ 0.01% ยังไม่แรงพอฟื้นตลาด เหตุแอลทีวีกดดันผู้ซื้อ มูลค่าหลักประกันลด ขณะเอ็นพีแอลเพิ่ม บิ๊กเนมรอเทสต๊อกไตรมาส 4

ที่สุดกระแสเรียกร้องของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งต้องการให้รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังเข็นมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ หวังปลุกตลาดที่ชะลอตัวอย่างหนักตั้งแต่ต้นปีต่อเนื่องถึงปัจจุบันให้ฟื้นตัวอีกครั้ง

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 เห็นชอบตามกระทรวงการคลังเสนอมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอน และลดค่าจดจำนอง เหลือ 0.01% สำหรับการซื้อขายบ้านที่มีราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยของตัวเอง นอกจากนี้จะให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. จัดทำสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยตํ่าวงเงิน 50,000 ล้านบาท สำหรับกู้ซื้อบ้านได้ทั้งบ้านใหม่ บ้านมือสอง

นายนริศ สถาผลเดชา เจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี ธนาคารทหารไทย กล่าวว่า ปัจจุบันมีความจำเป็นที่ต้องมีมาตรการดูแลภาคอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากภาพรวมของตลาดค่อนข้างชะลอตัว ดังนั้นมาตรการลดค่าโอนและค่าจดจำนอง จึงมีความจำเป็นในขณะที่ปริมาณการโอนมีน้อยและสต๊อกของอสังหาริมทรัพย์ยังบวมอยู่ เพราะหากไม่มีมาตรการนี้ช่วยยิ่งทำให้สต๊อกที่เหลืออยู่ราคาปรับลด

แต่ประเมินโอกาสความสำเร็จนั้น เชื่อว่าได้ผลไม่มาก ถ้าเทียบกับปี2559 ซึ่งมีการออกมาตรการใกล้เคียงกันสาเหตุหลักมาจาก 3 ปัจจัย ได้แก่ 

1. คุณภาพสินเชื่อไม่ดีเท่าเดิม โดยหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) 2 ไตรมาสที่ผ่านมาปีนี้เอ็นพีแอลอยู่ที่ 3.34% (ยังไม่รวมหนี้จัดชั้นที่กล่าวถึงเป็นพิเศษ)

2. มาตรฐานการปล่อยสินเชื่อในปีปัจจุบันสร้างวินัยมากกว่าปี 2559 ที่ผ่อนคลาย

3. แนวโน้มราคาหลักประกันที่จะปรับลดลงตามเทรนด์ของอสังหาริมทรัพย์ในเอเชีย (ไทย ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย) โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่ราคาปรับลดค่อนข้างมาก เหล่านี้เป็นปัจจัยทำให้มาตรการลดค่าธรรมเนียมไม่ได้ผลเท่าที่ควร

นายณัฐพล ลือพร้อมชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เมื่อมีข่าวออกมาควรจะเร่งออกประกาศให้สามารถบังคับใช้ภายในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 ซึ่งเป็นจังหวะเหมาะ อย่างน้อยดีมานด์จะฟื้นกลับมาบ้าง แต่ความเห็นเพิ่มเติมว่าในโซนกรุงเทพฯ และปริมณฑลระดับราคาตํ่ากว่า 3 ล้านบาทมีไม่มาก จึงขอเสนอให้พิจารณาที่ระดับราคา 4-5 ล้านบาทต่อยูนิต สำหรับบ้านหลังแรก

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-พรีเมียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เบื้องต้นเห็นด้วยกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มจีดีพีของประเทศ อย่างไรก็ตาม คงไม่ได้ผลมากนัก หากยังมีมาตรการทางการเงินของ ธปท. กำกับอยู่ เพราะขณะนี้ผู้บริโภคถูกแอลทีวีกดดัน ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ ทำให้ยอดขายไม่เกิดขึ้น

“ปัญหาวันนี้ คือ คนกู้ไม่ได้ ฉะนั้นการโอนฯ ย่อมไม่มีทางเกิดขึ้น แม้รัฐจะลดค่าโอน-จดจำนองให้ก็ตาม ขณะเดียวกันการที่เงินบาทแข็งค่า ก็ส่งผลให้กำลังซื้อต่างชาติที่เคยพยุงตลาดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หายไปอีกเช่นกัน”

นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ครั้งนี้ โดยจิตวิทยาช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจเร็ว ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวมีระยะ 6 เดือน ครอบคลุมสต๊อคคงเหลือตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีนี้ถึงไตรมาสแรกปี 2563 ถือเป็นการช่วยตลาดอสังหาฯ ในภาพรวม

ปัจจุบันเจ้าใหญ่ชะลอเปิดตัวโครงการใหม่ ๆ ประกอบกับมาตรการที่ออกมาจะทำให้ซัพพลายถูกดูดซับ ทำให้ตลาดอสังหาฯ ไตรมาส 4 เป็นบวก ในส่วนออลล์ อินสไปร์มีสินค้าพร้อมโอนกว่า 5,000 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่อยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว เป็นคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ทำเลใกล้เมืองในราคาที่เข้าถึงได้ คาดว่าจะได้รับอานิสงส์อย่างดี

นายสินเมธ อิ่มเอม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ฟูจิตสึ เจเนอรัล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องปรับอากาศภายใต้แบรนด์ฟูจิตสึมองว่าช่วยผลักดันอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจออกแบบตกแต่งภายใน สินค้าตกแต่งบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์เครื่องนอน ให้เติบโตดีขึ้น

ในส่วนบริษัทเตรียมผนึกลูกค้าโครงการที่มีสัดส่วนอยู่ 40% จากลูกค้าทั้งหมด ในการจัดโปรโมชันส่งเสริมการขายร่วมกับโครงการต่าง ๆ ในช่วงที่ภาครัฐมีการจัดมาตรการ โดยจะเป็นรูปแบบของการจัดโปรโมชันแถมเครื่องปรับอากาศฟูจิตสึ ทันทีเมื่อลูกค้าโอนบ้านในระยะเวลาที่กำหนด หรือจะเป็นโปรโมชันซื้อเครื่องปรับอากาศในราคาพิเศษออกมา

ขอบคุณข่าวจาก ฐานเศรษฐกิจ

https://www.thansettakij.com/content/412777