News

กลุ่มเพอร์เฟค JV ซูมิโตโม ฟอเรสทรี ยักษ์ญี่ปุ่นพัฒนาคอนโดหรู ปักหมุดสถานี BTS ทองหล่อ-เอกมัย

LivingInsider Report 2017-10-16 14:31:37

 

กลุ่มเพอร์เฟค JV “ซูมิโตโม ฟอเรสทรี” ยักษ์ญี่ปุ่นพัฒนาคอนโดหรู ปักหมุดสถานี BTS ทองหล่อ-เอกมัย

 

กลุ่ม “พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค” และ “แกรนด์ แอสเสทฯ” ประกาศจับมือ “ซูมิโตโม ฟอเรสทรี” บริษัทยักษ์ใหญ่ในธุรกิจไม้และรับสร้างบ้านของญี่ปุ่น ตั้งบริษัทร่วมทุน ประเดิมคอนโดระดับไฮเอนด์แห่งใหม่ย่านทองหล่อ เงินลงทุน 4,514 ล้านบาท

 

นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เพอร์เฟค และ บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) โดย นายวิทวัส วิภากุล กรรมการและกรรมการบริหาร

 

ได้ร่วมลงนามในสัญญาความร่วมมือพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ร่วมกับ นายอาคิระ อิชิคาวะ ประธานบริษัท และนายทัตสึโอะ อิวางาคิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซูมิโตโม ฟอเรสทรี (สิงคโปร์) จำกัด โดยมี นายบรรสาน บุนนาค เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว พร้อมด้วย นายพิชัย รัตตกุล ร่วมเป็นสักขีพยาน พิธีลงนามจัดขึ้นที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น

 

โดยจัดตั้งบริษัทร่วมทุน แกรนด์ แอสเสทฯ ถือหุ้น 40%, พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ถือหุ้น 11% อีก 49% ถือหุ้นโดย ซูมิโตโม ฟอเรสทรี สิงคโปร์ [Sumitomo Forestry (Singapore) Ltd.] ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ ซูมิโตโม ฟอเรสทรี ถือหุ้นทั้งหมด ร่วมมือกันพัฒนาโครงการด้วยเงินลงทุน 4,514 ล้านบาท

 

รูปแบบเป็นคอนโดมิเนียมระดับลักเซอรี่ บนพื้นที่ 2.5 ไร่ ริมถนนสุขุมวิทระหว่างสถานีบีทีเอสทองหล่อและเอกมัย โดยอยู่ห่างจากสถานีทองหล่อ 350 เมตร ความสูงประมาณ 45 ชั้น จำนวน 400 ยูนิต กำหนดเปิดตัวโครงการและเริ่มก่อสร้างในปี 2561 คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จในปี 2563

 

นายชายนิดเปิดเผยว่า ความร่วมมือกับซูมิโตโม ฟอเรสทรี พันธมิตรที่มีประวัติความเป็นมายาวนานถึง 326 ปี และเป็นผู้นำในธุรกิจป่าไม้และธุรกิจก่อสร้างบ้านของญี่ปุ่น นอกจากจะเป็นการร่วมมือกันพัฒนาโครงการแล้ว ยังเสริมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัท โดยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งในด้านทุนที่แข็งแกร่ง เทคโนโลยีและโนว์ฮาวด้านการก่อสร้างของญี่ปุ่นซึ่งเป็นที่ยอมรับ และเพิ่มคุณค่าให้กับโครงกาสามารถเข้าถึงกลุ่มชาวญี่ปุ่นที่เป็นลูกค้าหลักของทำเลทองหล่อได้เป็นอย่างดี

 

“ทองหล่อเป็นหนึ่งในทำเลยอดนิยมของคอนโดลักเซอรี่ แม้ว่า 1-2 ปีที่ผ่านมามีการแข่งขันค่อนข้างสูง แต่ความต้องการยังคงมีอยู่จำนวนมาก และเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ทั้งเพื่ออยู่อาศัยเองและลงทุนให้เช่า ปัจจุบันโซนนี้มีที่ดินเหลือพัฒนาไม่มาก ขณะที่ราคาซื้อขายปรับตัวขึ้นสูงมาก การหาแปลงที่ดินที่เหมาะสมและพัฒนาโครงการให้มีรูปแบบที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า เป็นสิ่งที่กลุ่มบริษัทมีความมั่นใจ”

 

ในส่วนรูปแบบโครงการ นายวิทวัสเปิดเผยว่า แนวคิดการออกแบบจะเป็นแบบ Timeless ผสมผสานความคลาสสิกและโมเดิร์น ทั้งนี้ แกรนด์ แอสเสทฯ มีประสบการณ์และความคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับการพัฒนาโครงการหรูในทำเลสุขุมวิท ที่ผ่านมา

 

มีการพัฒนาคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ คือ ไฮด์ สุขุมวิท 11 และ ไฮด์ สุขุมวิท 13 ลงทุนโรงแรมระดับห้าดาวบนถนนสุขุมวิท ได้แก่ เดอะ เวสติน แกรนด์ สุขุมวิท รวมถึง ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท โรงแรมแห่งใหม่บนถนนสุขุมวิท 13 ซึ่งติดกับโครงการคอนโด ไฮด์ สุขุมวิท 13 ที่จะเปิดให้บริการต้นปีหน้า

 

มร.อิชิคาวะกล่าวตอนท้ายว่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของไทยในขณะนี้ ทำให้บริษัทมีความสนใจที่จะลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในประเทศไทย ความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับกลุ่ม PF และ GRAND

 

ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย และยังเป็นการขยายธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจะช่วยสร้างฐานรายได้จากธุรกิจในต่าง ประเทศให้แก่บริษัทเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากการลงทุนในสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลียก่อนหน้านี้

 

การเข้ามาร่วมทุนกับบริษัทไทยครั้งนี้ นอกจากจะเห็นโอกาสของการลงทุนในประเทศไทย ที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจและจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังเป็นความร่วมมือที่เกิดขึ้นในโอกาสสำคัญ ในปีซึ่งเป็นวาระครบรอบ 130 ปีความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ญี่ปุ่นด้วย

 

อนึ่ง บริษัท ซูมิโตโม ฟอเรสทรี จำกัด มีประวัติยาวนานกว่า 300 ปี เริ่มต้นธุรกิจจากการทำเหมืองแร่ทองแดง Besshi ในจังหวัดเอฮิเมะ (Ehime) เมื่อปี 1691 ควบคู่กับบริหารจัดการป่าไม้รอบเหมืองแร่ ปัจจุบัน ซูมิโตโม ฟอเรสทรี เป็นบริษัทชั้นนำลงทุนในญี่ปุ่นและหลายประเทศทั่วโลก ครอบคลุมธุรกิจปลูกป่าไม้และการจัดการป่าไม้ การก่อสร้างบ้านไม้ ที่อยู่อาศัย ธุรกิจไม้และวัสดุก่อสร้าง ตลอดจนธุรกิจบริการไลฟ์สไตล์

 

ในส่วนธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เริ่มต้นธุรกิจรับสร้างบ้านเมื่อปี 1975 เป็นผู้พัฒนาระบบการก่อสร้างด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ (Big-Frame Construction Method) เป็นรายแรกในญี่ปุ่น ปัจจุบันมีการพัฒนาแล้วไม่น้อยกว่า 280,000 หน่วย

 

สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ ก่อสร้างบ้านมาแล้วมากกว่า 7,000 หลังต่อปี ในประเทศสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย ตลาดในเอเชียมีการขยายไปสู่การพัฒนาคอนโดมิเนียมในเวียดนามและฮ่องกง

 

 

ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

 

https://www.prachachat.net/property/news-54854

 

 

 

>> ช่องทางในการติดตามข่าวสาร <<
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @livinginsider ที่นี่

บทความอื่นๆ

livinginsider livinginsider