
หน้าแรก
"อินทรีมอร์ตาร์" เปิดศึกรุกลูกค้าภาครัฐชิงเมกะโปรเจกต์ 4 แสนล้าน เจาะกลุ่มอสังหาเกรดพรีเมี่ยม งัดสินค้าใหม่ "ปูนนอนชริ้งค์เกราท์ รับกำลังอัดสูง" ชูนวัตกรรมอินทรีพ่น เล็งตลาดวัสดุก่อสร้างพลิกเติบโต เม็ดเงินสะพัด ลั่นรายได้ยอดขายพุ่ง 10%
"อินทรีมอร์ตาร์" ลุยกลยุทธ์ปี 2560 รุกขยายฐานลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน รับเมกะโปรเจกต์แสนล้าน เร่งเจาะกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เกรดพรีเมี่ยม-ซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ เล็งตลาดวัสดุก่อสร้างพลิกเติบโต 1-3% เม็ดเงินสะพัดกว่า 400,000 ล้านบาท งัดสินค้าใหม่ "อินทรีมอร์ตาร์ 72" ปูนนอนชริ้งค์เกราท์ รับกำลังอัดสูง สำหรับงานเกร้าท์คอนกรีต งานรอยต่อโครงสร้าง เกร้าท์ฐานเครื่องจักร ชูจุดขายนวัตกรรมล้ำยุค "อินทรีพ่น" นวัตกรรมใหม่ของการฉาบปูน พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาด้านเทคนิคถึงไซต์ลูกค้า มั่นใจดันยอดขายพุ่ง 10-15% พร้อมเจาะตลาดเพื่อนบ้าน ชี้อัตราเติบโตแรงกระฉูด จี้รัฐบังคับใช้มาตรฐานครอบคลุมผลิตภัณฑ์มอร์ตาร์ในท้องตลาด หวั่นลูกค้าเจอผลิตภัณฑ์คุณภาพต่ำ
ขจรศักดิ์ มโนทรัพย์ศักดิ์ ผู้จัดการทั่วไป อินทรีมอร์ตาร์ บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ SCCC เปิดเผยว่า ในปี 2560 บริษัทจะเดินหน้ากลยุทธ์การดำเนินธุรกิจต่อเนื่องจากปี 2559 โดยเร่งขยายฐานลูกค้าใหม่ เพื่อเข้าถึงงานภาครัฐมากขึ้น เพราะช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจของประเทศไทยส่วนใหญ่เดินด้วยการผลักดันโปรเจกต์ต่างๆ จากทางภาครัฐ ซึ่งล่าสุด รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้อนุมัติแผนปฏิบัติการด้านคมนาคมขนส่ง ระยะเร่งด่วน ปี พ.ศ. 2560 ระยะที่ 2 ทั้งระบบราง ถนน ทางน้ำและทางอากาศ จำนวน 36 โครงการ มูลค่าลงทุนมหาศาลถึง 8.95 แสนล้านบาท เฉพาะปีนี้ปีเดียวคาดว่าจะมีมูลค่าการลงทุนสูงถึง 4 แสนล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นระบบโครงสร้างสาธารณูปโภค รวมถึงโครงการก่อสร้างสถานที่ราชการ สถานศึกษา
"ขณะเดียวกัน ในกลุ่มลูกค้าภาคเอกชนของอินทรีมอร์ตาร์ ทั้งกลุ่มโครงการที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ แนวราบและแนวสูง มีแผนเปิดโครงการใหม่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเกรดพรีเมี่ยมและซูเปอร์ลักชัวรี่ ส่งผลให้ตลาดวัสดุก่อสร้าง แม้ยังได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อที่ไม่สดใสมากนัก ปัญหาหนี้ครัวเรือนในอัตราสูง และอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มสูงขึ้นส่งผลต่อกำลังซื้อของกลุ่มกลางถึงล่าง แต่ในภาพรวมยังสามารถเติบโตได้ถึง 1-3% หรือมีมูลค่าตลาดประมาณ 400,000 ล้านบาท"
"ทั้งนี้ บริษัทเตรียมแผนเจาะกลุ่มลูกค้าภาครัฐและขยายกลุ่มลูกค้าเอกชน โดยมุ่งเน้นการขายแบบ ให้บริการครบวงจรแบบอินทรีพ่น ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมใหม่ของการฉาบปูน พร้อมผู้เชี่ยวชาญคอยให้บริการด้านเทคนิค อุปกรณ์เครื่องพ่น ชุดอุปกรณ์ไซโล และระบบลำเลียง ที่สามารถใช้ได้กับทั้งปูนสำเร็จรูป (มอร์ตาร์) ชนิดถุงและผง ทำให้ฉาบปูนได้สะดวก รวดเร็ว งานเสร็จเร็วขึ้น 3 เท่า ลดต้นทุนและแรงงานของผู้รับเหมากว่า 50% คาดว่าจากแผนที่วางไว้จะทำให้กลุ่มผลิตภัณฑ์อินทรี มอร์ตาร์ เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 10-15%"
"นอกจากให้บริการครบวงจรแบบอินทรีพ่นแล้ว อินทรีมอร์ตาร์ยังเน้นขายผลิตภัณฑ์ปูนกาว ปูกระเบื้องและผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ “อินทรีมอร์ตาร์ 72” ปูนนอนชริ้งค์เกราท์ (Non-Shrink Grout) รับกำลังอัดสูง ซึ่งบริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่เมื่อต้นปีนี้ เป็นกลุ่มงานเกร้าท์โครงสร้าง เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ลูกค้า ซึ่งมีคุณสมบัติดังนี้ ไหลตัวดีเยี่ยม ไม่เยิ้ม ไม่หดตัว ใช้สำหรับงานเกร้าท์ ซ่อมรูโพรงช่องว่างในงานคอนกรีต งานเทฐานเครื่่องจักร เสาคอนกรีต เสาเหล็ก สะพาน งานฝังหรือ ยึดเหล็กเส้น งานประกอบผนังหล่อสำเร็จ งานรอยต่อโครงสร้าง"
ขจรศักดิ์กล่าวอีกว่า "อินทรีมอร์ตาร์เน้นสร้างทางเลือกให้ลูกค้าในการเลือกซื้อสินค้าคุณภาพที่เหมาะสมแก่การใช้งาน รวมถึงตอบโจทย์ในเรื่องการจัดส่งให้ตอบรับกับหน้างานลูกค้า ซึ่งในปีนี้ ผลิตภัณฑ์ใหม่จะเป็นกลุ่มงานกันซึม กลุ่มสินค้างานฉาบพรีเมียม หลังจากปีก่อนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ได้แก่
• คอนกรีตแห้ง อินทรีมอร์ตาร์ 52 (กำลังอัด 240 กก./ซม.2) และ อินทรีมอร์ตาร์ 53 (กำลังอัด 280 กก./ซม.2) สำหรับงานคอนกรีตขนาดเล็ก เช่น เทคานเอ็น เสาเอ็น พื้นลานบ้าน ลานจอดรถหน้าบ้าน
• ปูนเทปรับระดับพื้นชนิดไหลตัวดี อินทรีมอร์ตาร์ เบอร์ 32 เป็นปูนสำเร็จรูปที่ใช้สำหรับงานเทพื้นเพื่อปรับระดับก่อนปูทับด้วยวัสดุตกแต่ง เช่น พื้นไม้ลามิเนต ที่ทำให้เสร็จงานเร็วขึ้นถึง 2 เท่า ลดเวลาการทำงานเนื่องจากเนื้อปูนไหลตัวได้ดี สามารถเทปรับระดับพื้นได้บางถึง 1 ซม. มีแรงยึดเกาะที่ดี ไม่หลุดร่อน
"สถานการณ์ธุรกิจวัสดุก่อสร้างจะแข่งขันรุนแรงกว่าทุก ๆ ปีที่ผ่านมา เนื่องจากทุกบริษัทต่างเห็นตลาดมีโอกาสขยายตัวสูงในบางพื้นที่จากปัจจัยบวก ทั้งการลงทุนเมกะโปรเจกต์ของภาครัฐ ทำให้เกิดโครงการก่อสร้างของภาคเอกชนตามมา กำลังซื้อจากกลุ่มผู้ที่ซื้อรถคันแรกที่ปลดภาระหนี้เรียบร้อยแล้วและราคาพืชผลเกษตรบางตัวที่ปรับตัวสูงขึ้นส่งผลให้กำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอินทรีมอร์ตาร์มั่นใจในแผนการให้บริการเทคโนโลยีช่วยตอบโจทย์ความต้องการในด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่จะมีการเติบโตในอนาคตแบบครบวงจรด้วยอินทรีพ่น ที่มีความแตกต่างจากคู่แข่งและเน้นความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคอย่างแท้จริง จะผลักดันยอดขายของอินทรี มอร์ตาร์ เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 10-15%" ขจรศักดิ์กล่าว
ส่วนปี 2559 ยอดขายของกลุ่มอินทรีมอร์ตาร์ยังสามารถเติบโตประมาณ 7% ตามเป้าหมาย แม้เจอผลกระทบภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ปัญหาหนี้ครัวเรือนสูงซึ่งส่งผลโดยตรงต่อกำลังซื้อ และยังมีสต็อกบ้านที่ค้างอยู่ในระบบรอระบายอีกจำนวนหนึ่งด้วย
ด้านการขยายตลาดกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนหรือ AEC ในปี 2560 คาดว่าจะเติบโตตามเป้าหมาย โดยปีที่ผ่านมา กลุ่มประเทศเพื่อนบ้านมีอัตราการใช้ปูนซีเมนต์เติบโตเกือบทุกประเทศ โดยเฉพาะประเทศเวียดนาม และกัมพูชา เปรียบเทียบกับประเทศไทยอยู่ในภาวะชะลอตัวถึงคงที่
ปรีดา การสมลาภ ผู้จัดการโรงงาน อินทรีมอร์ตาร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "สำหรับโรงงานอินทรีมอร์ตาร์ผลิตปูนซีเมนต์สำเร็จรูป จ.สระบุรี เริ่มต้นสายการผลิตแรกเมื่อปี 2552 ที่ 250,000 ตันต่อปี ปี 2555 เพิ่มสายการผลิตที่ 2 รวมกำลังการผลิตเป็น 500,000 ตันต่อปี และปี 2557 เพิ่มสายการผลิตที่ 3 ขยายกำลังการผลิตจนถึงปัจจุบัน รวม 750,000 ตันต่อปี มีผลิตภัณฑ์หลากหลายรองรับตั้งแต่งานฉาบ งานก่อ งานเทปรับระดับพื้น งานปูกระเบื้อง งานคอนกรีต และผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด คือ ปูนนอนชริ้งเกราท์ รับกำลังอัดสูง
"กลุ่มผลิตภัณฑ์อินทรีมอร์ตาร์รองรับความต้องการ การใช้งานผู้รับเหมาทุกขั้นตอนก่อสร้าง ซึ่งมีคุณภาพเกรดพรีเมี่ยม การผลิตได้มาตรฐานควบคุมอย่างแม่นยำและการผสมด้วยเครื่องผสมที่ทันสมัยที่สุดจากประเทศเยอรมนี จนได้ผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์สำเร็จรูปประเภทต่างๆ ซึ่งหากเป็นไปได้ อยากเสนอให้ภาครัฐส่งเสริมเรื่องการบังคับใช้มาตรฐานผลิตภัณฑ์มอร์ตาร์ที่ขายอยู่ในท้องตลาด เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้า"
ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1488867663
"จระเข้ คอร์ปอเรชั่น" ลุยต่อสู่ Net Zero! กางวิสัยทัศน์ปี 68 ดันวงการก่อสร้างสีเขียว เต็มรูปแบบ ชี้ชัดความยั่งยืนไม่ใช่เทรนด์ เผยผู้บริโภคเลือก "คุณภาพ" ควบคู่ "ดูแลโลก"
เมื่อวานนี้
Dees Supreme จับมือ AWS ร่วมขับเคลื่อนนวัตกรรมหอฟอกอากาศ “FAHSAI” ยกระดับคุณภาพอากาศบริสุทธิ์ เสริมสุขภาพชีวิตคนเมือง สู้ฝุ่น PM2.5
เมื่อวานนี้
อนาบูกิ ธนาสิริ (ประเทศไทย) เปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวระดับพรีเมียม “อนาบูกิ ธนาเรสซิเดนซ์ กาญจนาภิเษก-พระราม 9” มูลค่า 1,500 ลบ.
2025-04-29
เบล็ส แอสเสทฯ ฉลอง 15 ปี ยกระดับแบรนด์ สู่ “บ้านสุข บ้าน BLESS” เตรียมผุดอาณาจักรใหม่ “เบล็ส ดิ เอสเต้พาร์ค” บนทำเลสุขุมวิท-บางพลี มูลค่า 1,300 ล้านบาท
2025-04-29
เอพี ไทยแลนด์ เสริมทัพ THE MAJESTIC COLLECTION เปิดตัว “THE PALAZZO ปิ่นเกล้า-บรมฯ” คฤหาสน์ระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรี มูลค่า 2,200 ลบ.*
2025-04-28
อ่านสนุก ได้ความรู้ด้วย
โดยรวมดีนะคะ
ให้ 4 ดาวละกัน แต่ชอบนะคะ อยากให้ลงบ่อยๆกว่านี้ค่ะ
ดีนะคะ ลงบทความมาให้อ่านบ่อยๆ นะคะ