
หน้าแรก
หลายคนฝันอยากมีบ้านริมแม่น้ำ ริมคลอง บรรยากาศดี ๆ สูดอากาศสดชื่นทุกวัน แต่รู้ไหมว่าการสร้างบ้านติดน้ำไม่ได้ทำได้ตามใจชอบ กฎหมายกำหนดเอาไว้ชัดเจนว่าห้ามรุกล้ำลงไปในเขตน้ำ เพราะถือว่าผิดกฎหมาย ถ้าไม่แก้ไข ระวังจะถูกรื้อได้ เพราะฉะนั้นวันนี้เรามาดูกันชัด ๆ ว่า กฎหมายว่าไว้ยังไงบ้าง
กฎหมายที่ต้องรู้ ก่อนสร้างบ้านริมแม่น้ำ
ก่อนจะลงมือสร้างบ้านริมคลองหรือริมแม่น้ำ ต้องเช็กกฎหมายให้ดี ไม่งั้นอาจกลายเป็นสร้างผิดโดยไม่รู้ตัว โดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 55 (พ.ศ. 2543) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 หมวด 4 ข้อ 42 ระบุไว้ว่า อาคารห้ามสร้างชิดแหล่งน้ำ ต้องเว้นระยะร่นจากขอบตลิ่งออกมาตามความกว้างของแม่น้ำ คู คลอง ดังนี้
การสร้างบ้านรุกล้ำแม่น้ำลำคลองมีโทษอะไรบ้าง?
สำหรับใครที่มีแผนจะสร้างบ้านริมแม่น้ำ ขอบอกก่อนว่าห้ามสร้างอาคาร สะพาน หรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ล่วงล้ำเข้าไปในแหล่งน้ำสาธารณะเด็ดขาด เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่า ตามที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย ฉบับที่ 14 (พ.ศ. 2535) มาตรา 117
หากใครสร้างบ้านรุกล้ำแม่น้ำลำคลอง หรือขออนุญาตแล้ว แต่กลับสร้างไม่ตรงตามแบบที่ได้รับอนุญาต กฎหมายระบุโทษไว้ชัดเจนใน พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย ฉบับที่ 17 (พ.ศ. 2560) มาตรา 118 ว่า มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับโดยคำนวณตามพื้นที่ของอาคารหรือสิ่งที่รุกล้ำเข้าไปในแม่น้ำในอันตราไม่น้อยกว่า 1,000 บาท/ตารางเมตร แต่ไม่เกิน 20,000 บาท
และถ้ายังฝ่าฝืนอีก จะต้องเสียค่าปรับรายวันในอัตราไม่เกิน 20,000 บาท/ตารางเมตร ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืนตามมาตรา 118 ทวิ วรรคหนึ่ง หรือจนกว่าจะทำให้ถูกต้อง โดยคำนวณตามพื้นที่ของอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว ทั้งยังต้องรื้อถอนหรือแก้ไขอาคารให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กําหนด ซึ่งไม่น้อยกว่า 30 วัน แต่ไม่เกิน 1 ปี เว้นแต่ศาลจะสั่งเป็นอย่างอื่น
การขออนุญาตสร้างบ้านหรือสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำแหล่งน้ำสาธารณะ
ถ้าใครอยากสร้างบ้านริมแม่น้ำหรือติดคลอง และมีความจำเป็นที่ต้องสร้างอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างยื่นออกไปในแหล่งน้ำสาธารณะ ต้องขออนุญาตจากกรมเจ้าท่าก่อนเสมอ และผู้ขออนุญาตต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน หรือเป็นผู้มีสิทธิครอบครอง หรือเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ดูแลที่ดินผืนนั้นจริง ๆ หากไม่ใช่ ผู้ขออนุญาตจะต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลเหล่านี้ก่อน
วิธีการขออนุญาต ต้องยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น โดยเขียนแบบฟอร์มคำขอ พร้อมแนบเอกสารประกอบต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด ได้แก่
1. สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนของผู้ขออนุญาต หรือหนังสือมอบอำนาจถ้าให้ผู้อื่นไปยื่นแทน
2. เอกสารยืนยันสิทธิ์ครอบครองที่ดิน เช่น โฉนดที่ดิน หรือสำเนาหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3, น.ส.3ก, น.ส.3ข)
3. แบบแปลนบ้านและรายละเอียดสิ่งปลูกสร้าง ที่จะสร้างล้ำเข้าไปในแม่น้ำหรือคลอง ซึ่งต้องมีวิศวกรโยธาที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายเซ็นรับรองจำนวน 3 ชุด แต่ถ้าสิ่งที่ปลูกสร้างมีขนาดเล็ก ทำด้วยไม้หรือวัสดุอื่นที่ไม่คงทนถาวร ไม่ต้องมีวิศวกรรับรอง
4. แผนผังบริเวณที่ขออนุญาตและบริเวณใกล้เคียง ที่มีรายละเอียด เช่น ความกว้างของหน้าที่ดินที่ติดแม่น้ำลำคลอง ขนาดของอาคารหรือสิ่งที่จะขออนุญาตสร้าง ระยะห่างจากขอบฝั่ง ถ้ามีรูปถ่ายบริเวณที่ขออนุญาตด้วยจะยิ่งดี
5. หนังสือรับรองจากจังหวัด ว่าสิ่งปลูกสร้างนั้นไม่เป็นอุปสรรคต่อแผนพัฒนาจังหวัด ผังเมือง และการรักษาสภาพแวดล้อมของจังหวัด
6. รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIA)
7. หลักฐานหรือเอกสารอื่นที่อธิบดีกรมเจ้าท่ากำหนด โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ค่าธรรมเนียมการสร้างอาคารรุกล้ำแม่น้ำลำคลอง
เรื่องค่าธรรมเนียมตรงนี้มีระบุไว้ชัดเจนใน กฎกระทรวง เรื่องกำหนดค่าตอบแทนรายปี สำหรับผู้รับอนุญาตปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งอื่นใดล้ำลำน้ำ พ.ศ. 2563 โดยผู้ที่ขออนุญาตจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเป็นรายปี จนกว่าจะมีการยกเลิกหรือเพิกถอนใบอนุญาต ซึ่งปีแรกให้จ่ายค่าตอบแทนในวันที่ได้รับอนุญาต จากนั้นปีต่อไปให้จ่ายไม่เกินวันที่ครบกำหนดรอบปีนับแต่วันที่ได้รับอนุญาต
สำหรับที่พักอาศัย สะพานทางเดิน บันไดท่าน้ำ หรือศาลาท่าน้ำ ณ ตอนนี้ ได้รับการลดหย่อนให้จ่ายค่าธรรมเนียมรายปีอยู่ที่ 5 บาท/ตารางเมตร คำนวณจากขนาดพื้นที่ที่กินลำน้ำจริง ๆ และต้องจ่ายตามระยะเวลาที่ได้รับอนุญาต ถ้ามีเศษไม่ถึง 1 ตารางเมตร ให้ปัดขึ้นเป็น 1 ตารางเมตร และถ้าบ้านหรืออะไรก็ตามที่ล้ำเข้าไปในแม่น้ำลำคลองครอบคลุมพื้นที่สาธารณะ จนทำให้คนอื่นไม่สามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ได้ ให้คำนวณค่าธรรมเนียมพื้นที่ตามขอบเขตที่อาคารนั้นครอบคลุมทั้งหมด
ไม่ว่าจะเป็นบ้านริมน้ำที่มีอยู่แล้ว หรือบ้านใหม่ที่กำลังสร้างอยู่ สิ่งสำคัญคือ ห้ามละเลยข้อกฎหมาย เพราะถ้าไม่ทำตามขั้นตอน ไม่ยื่นขออนุญาต หรือสร้างรุกล้ำลำน้ำไปโดยไม่ถูกต้อง อาจกลายเป็นปัญหาทั้งเรื่องกฎหมายและผลกระทบสิ่งแวดล้อม เช่น การกีดขวางทางน้ำ จนทำให้น้ำระบายไม่ทัน และกลายเป็นสาเหตุของน้ำท่วมได้
ดังนั้น ถ้าคิดจะสร้างบ้านหรือสิ่งปลูกสร้างริมน้ำ ควรศึกษาเงื่อนไขให้ละเอียด ยื่นขออนุญาตกับกรมเจ้าท่าให้ถูกต้อง และปฏิบัติตามข้อกำหนดเสมอ จะได้อยู่สบายใจ ปลอดภัยจากทั้งปัญหากฎหมายและภัยธรรมชาติ
บทความที่เกี่ยวข้อง
ระยะร่นของอาคาร เรื่องสำคัญที่ผู้ซื้อควรรู้
เบื้องหลังคอนโดทรงขั้นบันได ที่ไม่ได้มีแค่ดีไซน์เก๋
รู้หรือไม่? ก่อสร้างหรือต่อเติมบ้าน ต้องทำเรื่องขออนุญาตด้วย
รวม 10 คอนโดวิวเเม่น้ำ ราคาเบา ๆ เริ่มต้นไม่ถึง 4 ล้าน*
คอนโดติดรถไฟฟ้า สะดวกจริงหรือ?
2019-11-05
อารมณ์หลอกเหตุผล
2016-07-08
นวัตกรรมเทคโนโลยีออกแบบบ้าน-คอนโด ช่วยลดความเสียหายจากภัยพิบัติ
2025-05-09
เกาะกระแส “วิมานหนาม”...คนโบราณเชื่อว่า มดดำขึ้นบ้านให้ระวังผู้ที่ย้ายเข้ามาอยู่ใหม่
2024-09-05
จำนองคืออะไร ต้องรู้อะไรบ้าง ? มาดูกัน!
2020-04-15
อ่านแล้ว สัมผัสได้เลยว่าตั้งใจเขียน เยี่ยมค่ะ
กำลังตัดสินใจอยู่พอดีเลย ขอบคุณมาจ้าาาาาาาา
ภาพรวมเว็บน่าสนใจมากๆ มีหลากหลายเนื้อหาให้อ่านดีครับ
อ่านแล้วอยากมีคอนโดเป็นของตัวเองเลยค่ะ