รายการโปรด
บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ประกาศกำไรสำหรับไตรมาส 1 ปี 2566 จำนวน 71 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนปกติ 126 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมกางแผนขยายธุรกิจ ปี 2566 เดินหน้าขับเคลื่อนผลประกอบการให้โตต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวโครงการที่พักอาศัย จำนวน 5 โครงการ หนุนด้วยกลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม และอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ ที่ยังคงเดินหน้าตามแผนงานอย่างต่อเนื่อง
โดยในไตรมาสที่ผ่านมา ธุรกิจโรงแรมขยายตัวได้ดีจากการเปิดประเทศทั่วโลก สร้างรายได้จากการขายและให้บริการจำนวน 2,544 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นประมาณ 51% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลักดันโดยทั้ง 4 กลุ่มพอร์ตโฟลิโอโรงแรมที่บริษัทฯ เข้าลงทุน
โดยเฉพาะผลประกอบการของโรงแรมในประเทศไทย ที่มีรายได้มากขึ้นกว่า 3 เท่าตัวจากระดับอัตราการเข้าพักในช่วงไตรมาสแรกของปีเฉลี่ยที่กว่า 88% และสามารถปรับอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยรายวัน (Average Daily Rate: ADR) ได้เพิ่มขึ้นกว่า 8% เมื่อเทียบกับปีก่อนเกิดโควิด-19 ตอกย้ำความแข็งแกร่งธุรกิจโรงแรมของบริษัทฯ ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่ดี และเป็นจุดมุ่งหมายในการเดินทางที่สำคัญของนักท่องเที่ยว
หนุนด้วยผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของโรงแรมทั้ง 2 แห่งในโครงการ CROSSROADS ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้หลากหลายกลุ่มทั่วโลก ผลักดันให้อัตราการเข้าพักเฉลี่ยเติบโตกว่า 88% ด้วยระดับรายได้เฉลี่ยต่อห้อง (RevPAR) ที่สูงที่สุดตั้งแต่เปิดโครงการมา จากผลสำเร็จของกลยุทธ์ในการบริหาร RevPAR ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดร่วมกับการพัฒนาและปรับปรุงห้องพักเพื่อตอบสนองกระแสนิยมในการท่องเที่ยว
โดยทิศทางของการท่องเที่ยวในไทยและมัลดีฟส์ คาดว่าจะดีต่อเนื่องตลอดทั้งปีนี้ จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้บริษัทฯ มั่นใจต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานธุรกิจโรงแรมปี 2566 เนื่องจากทั้งสองพอร์ตโฟลิโอมีสัดส่วนรายได้รวมกันสูงถึงประมาณ 50% ของรายได้รวมของบริษัทฯ
นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ‘S’ เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 1 ปีนี้ สะท้อนให้เห็นสัญญาณของการฟื้นตัวที่ชัดเจนของธุรกิจโรงแรม โดยโรงแรมทุกแห่งสามารถกลับมาให้บริการแก่นักท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่ ส่งสัญญาณต่อผลประกอบการที่จะเติบโตต่อเนื่องในไตรมาสถัด ๆ ไป
โดยเรามีความมั่นใจว่าจะสามารถขับเคลื่อนรายได้ตามเป้าหมายที่เราวางไว้ทั้งปีรวม 16,700 ล้านบาทซึ่งโดยหลักจะมาจากการเติบโตของกลุ่มโรงแรมมากกว่า 10,000 ล้านบาท เสริมทัพด้วยรายได้จากธุรกิจที่พักอาศัย หนุนด้วยดีมานด์ของโครงการ Ready-to-move-in ของคอนโดมีเนียม ที่จะฟื้นตัวตามการเปิดพรมแดนทั่วโลก ซึ่งเราพร้อมจะช่วงชิงโอกาสดังกล่าว ด้วยการขยายสัดส่วนการถือครองโครงการThe ESSE Sukhumvit 36
ส่งผลให้สามารถรับรู้รายได้และกำไรจากโครงการดังกล่าวเต็ม 100% โดยบริษัทฯ คาดว่าโครงการดังกล่าวจะมีบทบาทสำคัญในการหนุนผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2 – 3 ของปีนี้ ผนวกกับไตรมาสสุดท้ายของปี จะได้รับยอดโอนจากโครงการใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว ซึ่งเราคาดหวังความสำเร็จ เช่นเดียวกับโครงการศิรนินทร์ เรสซิเดนเซสซึ่งได้รับการยอมรับจากกลุ่มลูกค้าอย่างดีและสามารถสร้างผลประกอบการได้อย่างยอดเยี่ยมในปี 2565 ที่ผ่านมา
บริษัทมีแผนขยายโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบและจะเพิ่มความหลากหลายของที่อยู่อาศัยทั้งในแง่ของทำเลที่ตั้งและฐานลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น โดยในปี 2566 บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการแนวราบรวม 5 โครงการซึ่งมีมูลค่ารวมหมื่นล้านบาท พร้อมตั้งงบในการซื้อที่ดินเพื่อรองรับการเปิดตัวโครงการต่อเนื่องปีละอย่างน้อย 4 โครงการ เพื่อผลักดันรายได้จากธุรกิจที่พักอาศัยให้เติบโตที่ระดับ CAGR 20% เฉลี่ยภายในปี 2568
นอกจากโครงการจัดสรรจำนวน 3 โครงการ บนทำเลศักยภาพในกรุงเทพที่เราจะทยอยเปิดตัวในครึ่งปีหลังของปีนี้แล้ว เราจะสร้างความแตกต่างของโครงการแนวราบของสิงห์ เอสเตท บนพื้นฐานกลยุทธ์ Speed to market เน้นโครงการที่เข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริง
นำเสนอความ Exclusive ด้วยขนาดโครงการที่เหมาะสม มีความเป็นส่วนตัวด้วยลักษณะโครงการ Cluster Homeซึ่งจะเปิดตัวโครงการ Flagship project ที่มีราคาเริ่มต้นที่หลังละ 550 ล้านบาท ในรูปแบบ Private Estate บนทำเลใจกลางสุขุมวิทและเตรียมพัฒนาโครงการถัดไปในย่านรามอินทรา ซึ่งจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ที่ราคาเริ่มต้น 100 ล้านบาท
สำหรับอีก 2 ธุรกิจของสิงห์ เอสเตท ที่จะสร้างการเติบโตของผลประกอบการอย่างมีนัยสำคัญในปี 2566 นี้ ได้แก่ (1) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า ที่จะรับรู้ยอดรายได้เต็มปีของอาคาร S-OASIS ซึ่งมีพื้นที่เช่ามากกว่า 53,000 ตารางเมตร ที่พึ่งเปิดตัวไม่นานมานี้ โดย ณ ปัจจุบัน ได้รับความสนใจเป็นอย่างดี และมีผู้เช่าหลักหลักเข้ามาทำสัญญาเช่าแล้วเกือบ 9,000 ตารางเมตร
และ(2) ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน ที่มียอดโอนที่ดินสะสมจำนวน 87 ไร่ โดยพื้นที่ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 900 ไร่จะทยอยพัฒนาและโอนกรรมสิทธิ์ให้กับลูกค้า ซึ่งเราคาดหวังว่ายอดขายที่ดินจะเร่งตัวขึ้นในปี 2566 สอดคล้องกับความคืบหน้าในการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคในนิคมอุตสาหกรรม และการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้า 2 แห่ง ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผลักดันผลกำไรของบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
“สิงห์ เอสเตท จะขับเคลื่อนธุรกิจในปี 2566 อย่างเต็มพละกำลัง ด้วยกลยุทธ์ที่มุ่งสู่ความเป็นเลิศในธุรกิจ หรือ S EXCELS เพื่อสร้างผลการดำเนินงานสู่เป้าหมายรายได้และกำไร All-time High พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจให้เติบโตต่อเนื่อง ด้วยพันธสัญญาในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น การส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่เป็นเลิศให้แก่ลูกค้า และสร้างคุณค่าที่ยังยืนให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม” นางฐิติมา กล่าวเสริม
ASW ชูกลยุทธ์ EXPAND รุก EEC ปั้น Flagship Project “อควารัส จอมเทียน พัทยา” มูลค่า 5,000 ลบ. เจาะตลาด Staycation และนักลงทุนทั้งไทย-เทศ
2024-12-13
เดอะ คิวเว่ เซ็นทรัลพาร์ค นวมินทร์–รามอินทรา กวาดยอดขายกว่า 400 ล้านบาท ในรอบ EXCLUSIVE VISIT DAY
2024-12-13
ลักชูรีวิลล่า “บางเทา–เชิงทะเล” มาแรง ครึ่งแรกปี 67 ยอดขายพุ่ง 500% ผลตอบแทนการเช่าเฉลี่ย 6-8%*
2024-12-13
ธนาสิริ ส่งโปร “เหมันต์ หรรษา..คุ้มค่า น่าอยู่ x12” จองเริ่ม 999 บาท พร้อมสิทธิพิเศษอีกมากมาย
2024-12-12
เปิดตัว “Chapter Market” แลนด์มาร์กใหม่ใจกลางสุขุมวิท 26 ปลุกกรุงเทพฯ สู่ศูนย์กลางอาหาร คาดดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก 1,000 คน/วัน
2024-12-12
วิเคราะห์ทำเลได้ดีมากค่ะ เห็นภาพตามชัดเจน
ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย อ่านแล้วรู้เรื่องดีครับ
ชอบๆ มีสาระประโยชน์มากค่ะ
เนื้อหาดีค่ะ
มีประโยชน์มากๆค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลน่ะค่ะ