รายการโปรด
การยุติมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในประเทศจีน ทำให้มีชาวจีนเดินทางไปต่างประเทศมากขึ้น พร้อมกับการลงทุนของจีนในอสังหาริมทรัพย์ของประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย ก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ตั้งแต่ออสเตรเลียมาถึงประเทศไทย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ครอบครัวชาวจีนที่ส่งลูกหลายไปเรียนต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ ต่างหาซื้ออพาร์ทเมนต์หรือคอนโดมิเนียมในประเทศเหล่านั้น ทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับไทยที่มีชาวจีนเข้ามาลงทุนซื้ออาคารที่พักจำนวนมาก
สัญญาณที่เกิดขึ้นนี้แสดงให้เห็นถึงการไหลออกของเงินทุน จากภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน ที่เริ่มเปราะบางและไม่แน่นอน ประกอบกับนโยบายของรัฐบาลจีน ที่เพิ่มการเก็บภาษีกับครอบครัวที่ร่ำรวย ก็ยิ่งทำให้ชาวจีนหันหาการลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น
เอียน เฉิน ผู้ก่อตั้งบริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ จ้าหลิน เรียลตี (Jalin Realty) ซึ่งมีสาขาอยู่ในจีน ออสเตรเลีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ กล่าวว่า "ความสนใจของนักลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ในเอเชียเพิ่มขึ้นสองเท่าตั้งแต่รัฐบาลเริ่มเปิดประเทศ โดยเฉพาะชาวจีน" และว่า "นักลงทุนส่วนใหญ่คือผู้ที่ต้องการนำเงินออกนอกประเทศ แม้ตอนนี้เรายังไม่เห็นคลื่นการลงทุนขนาดใหญ่ แต่ก็มีกระแสความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะนักเรียนจีนที่กลับไปเรียนต่อที่ออสเตรเลีย"
ในอดีต ชนชั้นกลางและสูงของจีนมักหาลู่ทางยักย้ายสินทรัพย์ของพวกเขาไปยังต่างประเทศเพื่อกระจายการลงทุน และหลีกเลี่ยงการเข้าถึงของทางการจีน แต่หลังจากการระบาดใหญ่ แนวโน้มดังกล่าวยิ่งเพิ่มขึ้น และไม่ใช่แค่สินทรัพย์เท่านั้นแต่ชาวจีนจำนวนมากยังหาทางลงหลักปักฐานในต่างแดนด้วย
และแม้ข้อจำกัดของรัฐบาลจีนที่นำมาใช้ในการป้องกันไม่ให้เงินทุนไหลออกนอกประเทศมากเกินไปอาจช่วยสกัดการหลั่งไหลของเงินทุนเหล่านี้ได้บ้าง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็แสดงให้เห็นถึงการขาดความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจจีนที่ชะงักงันในช่วงโควิดระบาด
โจอี้ หวัง ผู้อำนวยการบริษัทบัญชี CS Corp ในสิงคโปร์ กล่าวว่า นับตั้งแต่สิ้นสุดการระบาด จำนวนลูกค้าชาวจีนของตนเพิ่มขึ้นราว 300 ราย ซึ่งตนเชื่อว่า "โควิดและมาตรการล็อกดาวน์ทำให้ชาวจีนต้องทบทวนอนาคตของพวกเขามากขึ้น"
เจนนี หยาน ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของบริษัทแห่งหนึ่งในเสินเจิ้น ซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ ให้ความเห็นว่า "ชาวจีนจำนวนมากเดินทางไปประเทศไทยนับตั้งแต่รัฐบาลจีนเริ่มเปิดประเทศ และพวกเขาต่างหาทางลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์"
"ราคาอสังหาฯ ในไทยและมาเลเซียยังคงถูกกว่ามากเมื่อเทียบกับเมืองลำดับที่สามของจีน" และว่า "บ้านหรูหนึ่งหลังมีราคาประมาณ 2 ล้านหยวน (10 ล้านบาท) ขณะที่ราคาห้องพักหนึ่งห้องอยู่ที่ 5 แสนหยวน (2.5 ล้านบาท)" เจนนี หยานกล่าวด้วยว่า "ยิ่งมีชาวจีนเดินทางมากเท่าไร ก็ยิ่งมีความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์มากขึ้น"
ขอบคุณข่าวจาก รอยเตอร์, voathai
ASW ชูกลยุทธ์ EXPAND รุก EEC ปั้น Flagship Project “อควารัส จอมเทียน พัทยา” มูลค่า 5,000 ลบ. เจาะตลาด Staycation และนักลงทุนทั้งไทย-เทศ
เมื่อวานนี้
เดอะ คิวเว่ เซ็นทรัลพาร์ค นวมินทร์–รามอินทรา กวาดยอดขายกว่า 400 ล้านบาท ในรอบ EXCLUSIVE VISIT DAY
เมื่อวานนี้
ลักชูรีวิลล่า “บางเทา–เชิงทะเล” มาแรง ครึ่งแรกปี 67 ยอดขายพุ่ง 500% ผลตอบแทนการเช่าเฉลี่ย 6-8%*
เมื่อวานนี้
ธนาสิริ ส่งโปร “เหมันต์ หรรษา..คุ้มค่า น่าอยู่ x12” จองเริ่ม 999 บาท พร้อมสิทธิพิเศษอีกมากมาย
2024-12-12
เปิดตัว “Chapter Market” แลนด์มาร์กใหม่ใจกลางสุขุมวิท 26 ปลุกกรุงเทพฯ สู่ศูนย์กลางอาหาร คาดดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก 1,000 คน/วัน
2024-12-12
ขอบคุณค่ะ ได้ความรู้มากๆ เลย
มีความหลายหลายในการรีวิวดีค่ะ
ชอบนะ อ่านต่อไม่รอแล้วจ้า
ริวิวเวอร์จริงๆค่ะ ฮ่าๆ ครบถ้วนดี
อ่านเพลิน เขียนดี
รีวิวได้ชวนซื้อมากๆครับ ฮ่าๆ