News
icon share

“REAL ASSET” รุกอสังหาฯปี’66 จ่อเปิด 4 โครงการ มูลค่า 5,900 ลบ. พร้อมจับมือยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่น “SOTETSU” ร่วมทุนพัฒนาโครงการ

LivingInsider Report 2023-03-30 17:58:35
“REAL ASSET” รุกอสังหาฯปี’66 จ่อเปิด 4 โครงการ มูลค่า 5,900 ลบ.  พร้อมจับมือยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่น “SOTETSU” ร่วมทุนพัฒนาโครงการ

 

REAL ASSET ลุยตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2566 ผุดทั้งแนวสูง-แนวราบรวม 4 โครงการ มูลค่าทั้งสิ้นกว่า 5,900 ล้านบาท เตรียมเปิดตัวแบรนด์ใหม่ “ARLO LASALLE 17” และ “VIVALDI Bangna” พร้อมปรับกลยุทธ์การเติบโตเร็วขึ้นเล็งขยายสู่โครงการลักษณะ M&A และ Recurring Income เพื่อเสริมสร้างกระแสเงินสดให้กับบริษัทฯ คาดปี 2567 ทำสถิติ New High รายได้สูงถึง 7,000 ล้านบาท อีกทั้งเพิ่มกลยุทธ์ทางธุรกิจจับมือพันธมิตรใหญ่จากญี่ปุ่น “SOTETSU” ลุยลงทุนต่อ 3-5 ปี

 

นายบดินทร์ธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด หรือ
REAL ASSET บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์  ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ และคอนโดมิเนียมมาแล้วมากกว่า 20 โครงการ เปิดเผยถึง แผนการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2566 นี้ ว่า บริษัทฯ มีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ 4 โครงการ รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 5,900 ล้านบาท  

 

ทั้งโครงการแนวราบและแนวสูง (คอนโดมิเนียม) จับกลุ่มตลาดกลางถึงตลาดบน ทั้งในรูปแบบของการพัฒนาโครงการเองและแบบ M & A (Mergers and Acquisitions ) พร้อมทั้งยังมองหาโอกาสขยายสู่การพัฒนาโครงการ ในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ (Hospitality) กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ (Retail and Commercial Building) เพื่อเสริมสร้างกระแสเงินสดให้กับบริษัทฯ และสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

“REAL ASSET” รุกอสังหาฯปี’66 จ่อเปิด 4 โครงการ มูลค่า 5,900 ลบ.  พร้อมจับมือยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่น “SOTETSU” ร่วมทุนพัฒนาโครงการ

 

สำหรับโครงการแนวราบ วางแผนเปิดตัวทั้งสิ้น 2 โครงการ ในช่วงครึ่งหลังของปี คือ

1. โครงการ VIVALDI Bangna  (วีวัลดี บางนา) บริเวณซอยวัดคลองปลัดเปรียง  ห่างจากถนนบางนา
เพียง 1.8 กิโลเมตร พัฒนาเป็นโครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์ใหม่ที่เตรียมยกระดับมาตรฐานเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้า Hi-End Segment ของโครงการแนวราบมากยิ่งขึ้น ราคาขายเริ่มต้นที่ 10-20 ล้านบาท มูลค่าโครงการกว่า 1,300 ล้านบาท

 

2. โครงการ VIRANYA Rangsit – Wongwaen  (วิรัณยา รังสิต - วงแหวน) เป็นโครงการบ้านเดี่ยว บนทำเล
วงแหวน-ลำลูกกา คลอง 5  ราคาขายเริ่ม 3.XX ล้านบาท มูลค่าโครงการกว่า 1,250 ล้านบาท

 

ส่วนที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมเบื้องต้นมีแผนจะเปิด 2 โครงการ คือ

1. โครงการ THE STAGE Made by Me Ratchada - Huaikhwang  พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม High Rise Condo ความสูง 31 ชั้น บนทำเลรัชดา - ห้วยขวาง มูลค่าโครงการประมาณ 2,130 ล้านบาท ในราคาเริ่มต้นที่ 2.89 ล้านบาท โดยมีแผนที่จะเปิดขายรอบแรก Online booking 3 เมษานี้

 

2. แบรนด์ใหม่ภายใต้ชื่อโครงการ ARLO LASALLE 17 (เดิมคือโครงการ The Excel ลาซาล 17) เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise 4 อาคาร บนที่ดินกว่า 4 ไร่ จำนวนห้องพักอาศัย 581 ยูนิต  มูลค่าโครงการ 1,240 ล้านบาท ซึ่งโครงการนี้ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของบริษัทฯ ในแบบ M & A

“REAL ASSET” รุกอสังหาฯปี’66 จ่อเปิด 4 โครงการ มูลค่า 5,900 ลบ.  พร้อมจับมือยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่น “SOTETSU” ร่วมทุนพัฒนาโครงการ

 

ช่วยลดระยะเวลาในการพัฒนาโครงการและสร้างผลตอบแทนเร็วขึ้น เป็นการเข้าซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเดิมที่มีศักยภาพมาพัฒนาต่อเพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ และสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ในช่วง
ต้นปี 2567 โดยจะเปิดขายในไตรมาส 3 / 2566

 

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้ร่วมลงทุนกับ บริษัท โซเทสึ เรียลเอสเตท (SOTETSU) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Sotetsu Group ที่ดำเนินธุรกิจรถไฟและรถบัส ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจซุปเปอร์มาร์เก็ต และธุรกิจโรงแรมโดยส่วนใหญ่อยู่ในเมืองโยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น และมีประสบการณ์ดำเนินงานมาประมาณ 70 ปี ในการพัฒนาที่อยู่อาศัย

 

ขณะนี้ ได้ร่วมลงทุนในโครงการ A Space Mega ,โครงการ THE STAGE Mindscape Ratchada – Huaikhwang  และ โครงการ VIVALDI Bangna รวมทั้งมีเป้าหมายจะพัฒนาโครงการใหม่ร่วมกันอีกในอนาคต ทั้งนี้ บริษัทฯเชื่อมั่นในประสบการณ์ที่สะสมมานานของ SOTETSU ที่จะมาช่วยยกระดับที่อยู่อาศัย ผ่านการออกแบบดีไซน์ ,ฟังก์ชัน , Innovation และ Sustainability

 

บริษัทฯมีความเชื่อมั่นว่า ตลาดที่อยู่อาศัยยังมีทิศทางที่เติบโตและผู้บริโภคยังมีความต้องการ เพราะที่อยู่อาศัยเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่จำเป็นในการดำรงชีวิต แต่ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่าภาคธุรกิจอสังหาฯ ยังเผชิญกับปัจจัยลบที่ต้องระมัดระวังในการกำหนดนโยบายธุรกิจ

“REAL ASSET” รุกอสังหาฯปี’66 จ่อเปิด 4 โครงการ มูลค่า 5,900 ลบ.  พร้อมจับมือยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่น “SOTETSU” ร่วมทุนพัฒนาโครงการ

 

ไม่ว่าจะเป็น แนวโน้มการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย ราคาต้นทุนที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้น และ ราคาวัสดุก่อสร้างที่มีทิศทางปรับราคาสูงขึ้นเช่นกัน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ ล้วนส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อธุรกิจ แต่อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยบวกเข้ามาหนุนและส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจ ธุรกิจต่างๆ รวมถึงภาคการท่องเที่ยวไทยจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง รวมไปถึงการเปิดประเทศ ที่เริ่มมีนักท่องเที่ยวกลับเข้ามาในประเทศไทย

 

“บริษัทฯ ตั้งเป้าภายใน 3 ปี (2566-2568) จะพัฒนาโครงการรวมกว่า 14,000 ล้านบาท เพื่อสร้างสมดุลของรายได้ ระหว่าง รายได้จากการโอน และ Recurring Income  ทั้งนี้ตั้งเป้าภายใน 3 ปีจะสร้างรายได้จาก Recurring Income จากการพัฒนา 3 โครงการ รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 1,700 ล้านบาท  

 

โดยปี 2565 บริษัททำยอดขายได้ทั้งสิ้น 2,288 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดขายปี 2566  อยู่ที่ 3,470 ล้านบาท  ซึ่งเติบโตจากปีที่ผ่านมากว่า 50% ทั้งนี้ยังวางแผนนโยบายเชิงรุกจากการพัฒนาโครงการแนวราบและแนวสูง จากโครงการที่เปิดใหม่และโครงการที่อยู่ระหว่างการขายอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้ยอดขายและรายได้เติบโต แบบก้าวกระโดด โดยใน 3 ปีข้างหน้านี้ (ปี2566-2568) บริษัทฯ มีแผนพัฒนาโครงการ

 

โดยเป้ายอดขายตั้งไว้อยู่ที่ 4,000 ล้านบาทต่อปี ส่วนรายได้นั้นจะเริ่มเห็นชัดขึ้นในปี 2567 ที่คาดการณ์ว่าจะมีรายได้ถึง 7,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นสถิติ  New High ที่จะเกิดขึ้นของบริษัทฯ ทั้งนี้บริษัทฯ มี Backlog รองรับการรับรู้รายได้ อยู่ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาทและคาดการณ์ว่า จะสร้าง Backlog เพิ่มในช่วงปีนี้และปีถัดไปรวมอีก 2,000 ล้านบาท เพื่อรองรับแผนการโอนในอนาคต” นายบดินทร์ธร กล่าว

 

>> ช่องทางในการติดตามข่าวสาร <<
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @livinginsider ที่นี่

บทความอื่นๆ

livinginsider livinginsider