รายการโปรด
บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน) ประกาศผลประกอบการไตรมาสสอง ปี 2565 มียอดรับรู้รายได้ที่ 1,632.7 ล้านบาท ขยายตัวจากไตรมาสก่อนหน้า 3% แต่หดตัวเล็กน้อยจากช่วงเดียวของปีก่อนที่ 2.5% ทั้งนี้บริษัทยังคงรักษาความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ ได้ดี ในภาวะที่อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นทั่วโลก
โดยบริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 39.2% รวมถึงการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการขาย และการบริหาร ได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม ส่งผลให้ในไตรมาส 2 ปี 2565 นี้ บริษัทมีกำไรสุทธิที่ 338.1 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนกำไรสุทธิที่ 20.7%
ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.305 บาท เพิ่มขึ้นจากอัตราเงินปันผลระหว่างกาลปีก่อนหน้าที่ 3.4% โดยกำหนดวัน Record Date ผู้มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 30 สิงหาคม 2565 และจะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในวันที่ 9 กันยายน 2565 ซึ่งเมื่อเทียบกับระดับราคาหุ้นปัจจุบัน คิดเป็น Dividend Yield ทั้งปีที่ราว 6.9%
นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” กล่าวว่า ในช่วงปี 2565 นี้ เป็นอีกปีที่ท้าทายการดำเนินธุรกิจอย่างมาก โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมามีปัจจัยเสี่ยงเข้ามาหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงในเรื่องของ Geopolitical Risk การแบ่งขั้วของมหาอำนาจโลก สงครามระหว่างรัฐเซียกับยูเครน จนมาถึงความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ จีน ไต้หวัน
นอกจากนี้ทั้งโลกยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงในเรื่องของเงินเฟ้อ ทำให้ธนาคารกลางของหลายประเทศต้องเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ในแง่ของประเทศไทย ทาง กนง.ได้มีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไป 0.25% เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า และอาจปรับขึ้นอีก 2 ครั้งในการประชุมที่เหลือของปี
อย่างไรก็ดีมองว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีจะปรับตัวขึ้นได้กว่าในช่วงครึ่งปีแรกจากแรงหนุนในภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางเข้าประเทศ การบริโภคภาคเอกชนที่น่าจะขยายตัวได้ดีต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง
ในส่วนของลลิลฯ ผลประกอบการในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มียอดรับรู้รายได้แล้ว 3,218.5 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.5% โดยยังคงบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ในสภาวะที่เงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น โดยคงระดับอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ระดับ 39.2% ในขณะที่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย (SG&A/Sales) อยู่ที่ 9.6% ซึ่งทำได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม ส่งผลให้ในครึ่งปีแรกนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 665.7 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนกำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ที่ 20.7%
สำหรับการขยายธุรกิจ มั่นใจว่าในปีนี้บริษัทจะสามารถขยายธุรกิจ เปิดโครงการใหม่ได้เป็นไปตามแผนงานที่ตั้งไว้ โดยในปีนี้ มีการเปิดโครงการใหม่ไปแล้วทั้งสิ้น 6 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 5,000 ล้านบาท และอยู่ระหว่างเตรียมเปิดโครงการใหม่เพิ่มเติมอีก 2 โครงการ ในไตรมาส 3 นี้ และที่เหลือในไตรมาสสุดท้ายของปีอีก 1-2 โครงการ
ซึ่งแม้บริษัทจะมีการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่บริษัทมีการบริหารความเสี่ยงด้านการเงินอย่างรัดกุม มีการใช้แหล่งเงินทุนที่หลากหลาย มีวงเงินสำรองที่ยังไม่เบิกใช้อีกจำนวนมาก รวมถึงการหมุนรอบธุรกิจที่รวดเร็ว ช่วยให้บริษัทมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง
โดย ณ สิ้นไตรมาสองนี้ มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) เพียง 0.58 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ราว 1.38 เท่า และหากพิจารณาในแง่ของตัวเลข Net D/E ณ สิ้นไตรมาสสอง อยู่ที่ระดับเพียง 0.23 เท่า สะท้อนความเสี่ยงทางการเงินที่ต่ำ และศักยภาพในการขยายธุรกิจในอนาคตของบริษัท โดยไม่ติดปัญหาด้านสภาพคล่อง
ASW ชูกลยุทธ์ EXPAND รุก EEC ปั้น Flagship Project “อควารัส จอมเทียน พัทยา” มูลค่า 5,000 ลบ. เจาะตลาด Staycation และนักลงทุนทั้งไทย-เทศ
2024-12-13
เดอะ คิวเว่ เซ็นทรัลพาร์ค นวมินทร์–รามอินทรา กวาดยอดขายกว่า 400 ล้านบาท ในรอบ EXCLUSIVE VISIT DAY
2024-12-13
ลักชูรีวิลล่า “บางเทา–เชิงทะเล” มาแรง ครึ่งแรกปี 67 ยอดขายพุ่ง 500% ผลตอบแทนการเช่าเฉลี่ย 6-8%*
2024-12-13
ธนาสิริ ส่งโปร “เหมันต์ หรรษา..คุ้มค่า น่าอยู่ x12” จองเริ่ม 999 บาท พร้อมสิทธิพิเศษอีกมากมาย
2024-12-12
เปิดตัว “Chapter Market” แลนด์มาร์กใหม่ใจกลางสุขุมวิท 26 ปลุกกรุงเทพฯ สู่ศูนย์กลางอาหาร คาดดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก 1,000 คน/วัน
2024-12-12
เขียนรีวิวถูกใจเจ้มากค่ะ
เขียนรีวิวได้ใจมากครับ
อ่านเเล้วอยยากเห็นหน้านักเขียนเลยค่ะ 555555
ดีมากกกกก ชอบสุดๆ ให้ข้อมูลดีมากๆ
ดีนะคะ ลงบทความมาให้อ่านบ่อยๆ นะคะ
อ่านแล้วอยากมีคอนโดเป็นของตัวเองเลยค่ะ