เนอวานา ผนึก ‘เคอี กรุ๊ป’ สยายปีกลงทุนอสังหาฯ ปั้นโปรเจคบ้านไฮเอนด์ ‘เนอวานา บียอนด์ พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา’

‘เนอวานา’ จับมือ ‘เคอี กรุ๊ป’ บริษัทลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ร่วมพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ “เนอวานา บียอนด์ พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา” มูลค่า 2,600 ล้านบาท เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อสูง มั่นใจตลาดอสังหาฯ เริ่มฟื้นตัว

นายศรศักดิ์ สมวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) หรือ (“NVD”) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เซ็นสัญญาร่วมทุนกับ เคอี กรุ๊ป (“KE GROUP”) จัดตั้งบริษัทร่วมทุน “เนอวานา อัลไล ดีเวล ลอปเม้นท์” (“NAD”)

โดย เนอวานา ไดอิ ถือหุ้นในสัดส่วน 49% ร่วมกับบริษัท อัลไล แคปปิตอล 1 (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ เคอี กรุ๊ป ถือหุ้นในสัดส่วน 49% และบริษัท คลังสินค้านานากิจ ถือหุ้นในสัดส่วน 2% การร่วมทุนนี้ มีบริษัท เคอีเอ็กซ์ จำกัด (“KEX”)

ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาฯ ภายใต้ เคอี กรุ๊ป ทำหน้าที่ร่วมพัฒนาและบริหารจัดการโครงการเนอวานา บียอนด์ พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา บ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ บนพื้นที่ 27 ไร่ บนถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ มูลค่าโครงการ 2,600 ล้านบาท โดยตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ที่ 485 ล้านบาท

“เคอี กรุ๊ป ถือเป็นพันธมิตรที่มีศักยภาพสูง มีประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์หลายประเภท ตั้งแต่บ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่อย่างโครงการ คริสตัล โซลานา และคริสตัล พาร์ค ไปจนถึงไลฟ์สไตล์ คอมมูนิตี้มอลล์

อาทิ โครงการเดอะ คริสตัล และคริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (ซีดีซี) บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม เราหวังว่า เคอี กรุ๊ป จะนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ มาต่อยอดร่วมกันพัฒนาโครงการเนอวานา บียอนด์ พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา ที่ตั้งอยู่บนทำเลทองของถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อสูงได้ดียิ่งขึ้น” นายศรศักดิ์ กล่าว 

ด้านนายเอเดรียน ลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคอีเอ็กซ์ จำกัด (“KEX”) กล่าวว่า บริษัทฯ จะใช้เงินลงทุนกว่า 200 ล้านบาท เพื่อร่วมพัฒนาโครงการเนอ วานา บียอนด์ พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีกับพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งอย่าง เนอวานา ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจบ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์นระดับไฮเอนด์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย

“เคอีเอ็กซ์ จะทำงานเชิงรุกร่วมกับ เนอวานา เพื่อช่วยยกระดับการพัฒนาการออกแบบและทำให้ขั้นตอนการส่งมอบบ้านคล่องตัวมากยิ่งขึ้น เราหวังว่าความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายจะนำไปสู่การเติบโตและความสำเร็จร่วมกันในอนาคต” นายเอเดรียน กล่าว

นายกวินทร์ เอี่ยมสกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัลไล แคปปิตอล 1 (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า เรามองว่ากรุงเทพกรีฑาเป็นทำเลที่เหมาะสำหรับบ้านหรูมาก คล้าย ๆ กับถนนเอกมัย-รามอินทรา เพราะเป็นถนนเส้นใหญ่ที่สามารถเชื่อมต่อใจกลางกรุงเทพฯ ได้อย่างสะดวก

และสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาล หรือสนามกอล์ฟ โดยอุปสงค์บ้านหรูเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาบ้านในทำเลนี้เติบโตปีละกว่า 10% ใน 5 ปีที่ผ่านมา

นายกวินทร์ กล่าวอีกว่า เนอวานา เป็นผู้พัฒนาอสังหาฯ ที่มีความเชี่ยวชาญใน Segment บ้านหรู และสร้างโครงการที่มีความโดดเด่น เราจึงเชื่อมั่นในการผนึกกำลังกับ เนอวานา ในฐานะที่เรา (KEX) มีความชำนาญในการสร้างหมู่บ้านระดับ Ultra-Luxury

โครงการเนอวานา บียอนด์ พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา เป็นโครงการบ้านเดี่ยวจำนวน 90 หลัง ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพของถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ที่สามารถเดินทางเชื่อมต่อไปหลายแห่งผ่านโครงข่ายคมนาคมที่สะดวก โดยมีการออกแบบบ้านในสไตล์โมเดิร์นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวภายใต้คอนเซ็ปต์ Modern Living Design

ที่เน้นให้หลายเจเนอเรชั่นอยู่ร่วมกันอย่างสบาย มีการนำธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นแสงและลมธรรมชาติ เข้ามาใช้ในตัวบ้านให้มากที่สุด พร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยมีคุณภาพชีวิตที่ดี 

นายศรศักดิ์ กล่าวย้ำว่า ตลาดที่อยู่อาศัยโดยรวมเริ่มฟื้นตัวจากวิกฤติโควิดและถูกขับเคลื่อนด้วยความต้องการที่แท้จริงจากกำลังซื้อภายในประเทศ โดยเฉพาะตลาดทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยว ที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจากพฤติกรรมผู้ซื้อที่เปลี่ยนไป จากเดิมที่ต้องการอาศัยอยู่คอนโดมิเนียม หันมานิยมที่อยู่อาศัยแนวราบมากขึ้น

เนื่องจากสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยเพื่อรองรับกับการทำงานในรูปแบบไฮบริด ที่ใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น นอกจากนี้ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ ต้องสามารถรองรับกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยไม่ต้องออกจากบริเวณโครงการ ซึ่งการออกแบบบ้านที่เนอวาน่าพัฒนาขึ้นนั้น สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยและตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพที่รองรับการเติบโตในอนาคต

ปัจจุบัน เนอวานา มีโครงการที่อยู่ระหว่างเปิดขาย 9 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 18,000 ล้านบาท  โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายรวมปีนี้เพิ่มขึ้น 50% เป็นมูลค่า 5,600 ล้านบาท