News

เจเอสพีปรับลุคแตกบริษัท-บุกตลาดเจนวาย

LivingInsider Report 2016-06-17 11:34:02

 

 

นายไพโรจน์ วัฒนวโรดม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.เอส.พี.แอสพลัส จำกัด และรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.เจ.เอส.พี.พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า เจ.เอส.พี.ได้ปรับโครงสร้างการบริหารใหม่ ปรับกลยุทธ์และภาพลักษณ์องค์กรทั้งหมด โดยจัดตั้งบริษัทย่อย คือ บจ. เจ.เอส.พี.แอสพลัส เพื่อดูแลการพัฒนาโครงการเพื่อขาย
 


และภายในบริษัทจะแบ่งหน่วยธุรกิจ (Business Unit) ออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มที่ 1 ครอบคลุมโครงการที่ เจ.เอส.พี.มีอยู่เดิม เช่น โครงการมิกซ์ยูสสำเพ็ง 2, ทิวลิปสแควร์, เจ.เอส.พี. ซิตี้ รังสิต-คลอง 1 ส่วนกลุ่ม 2 ครอบคลุมโครงการใหม่ ได้แก่ ไมอามี่ บางปู, เจ.เอส.พี. ซิตี้ บางปะกง-บ้านโพธิ์, เจ.เอส.พี. ซิตี้ สุขุมวิท-แพรกษา และโครงการใหม่จะพัฒนาในอนาคต
 


ซึ่งโครงการใหม่ได้มีการปรับโฉมภาพลักษณ์องค์กรใหม่ทั้งหมด มีทั้งปรับโลโก้ และชื่อแบรนด์เปลี่ยนเป็น "เจ ซีรีส์" ทั้งหมด จากเดิมที่ไม่มีการกำหนดแบรนด์ชัดเจน พร้อมทั้งเปลี่ยนบุคลิกเซลส์ขายโครงการและห้องตัวอย่างให้เทียบเท่าบิ๊กแบรนด์ในตลาด
 


"เราพยายามปรับความรู้สึกลูกค้าที่มองว่าเราดูโอลด์แฟชั่น (Old-Fashioned) จึงต้องปรับการรับรู้แบรนด์ สิ่งที่เป็นเจทัชพอยต์ (J Touch Point) ซุ้ม ป้อม ป้าย ถูกปรับทั้งหมดให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของเรา คือคนเจนวาย วัย 20-30 ปี และกลุ่มเจนเอ็กซ์บางส่วน วัย 30-45 ปี จะต้องเป็นที่อยู่อาศัยสไตล์โมเดิร์น" นายไพโรจน์กล่าวและว่า
 


การพัฒนาสินค้าจากนี้จะครอบคลุมทั้งแนวราบแนวสูงตลาดกลาง-ล่าง ประกอบด้วย บ้านเดี่ยวราคา 3-7 ล้านบาท ซึ่งเป็นครั้งแรกที่บริษัทจะพัฒนา, ทาวน์เฮาส์ราคา 1.5-5 ล้านบาท, อาคารพาณิชย์ราคา 3-10 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมราคา 1-7 ล้านบาท หรือ ตร.ม.ละ 3 หมื่น-1 แสนบาท แต่ยังคงคอนเซ็ปต์ที่ดินทำเลดี ติดถนนใหญ่ หรือการเดินทางสะดวก ด้วยจุดแข็งในการจัดหาที่ดินที่ดีราคาถูก หลังจากนี้สัดส่วนพอร์ตโครงการเป็นอสังหาฯเพื่อใช้ขาย 80% และเพื่อเช่า 20%
 


ทั้งนี้การปรับเปลี่ยนทั้งหมดเริ่มตั้งแต่ปีนี้ โดยมีโครงการแบบใหม่เปิดตัวครึ่งปีหลังนี้ ได้แก่ 1.โครงการมิกซ์ยูสอาคารพาณิชย์-บ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮาส์ บางบัวทอง 80 ไร่ มูลค่า 2,500 ล้านบาท 2.เจ ซิตี้ และเจ วิลล่า ติวานนท์-บางกะดี ทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยวบนพื้นที่ 31 ไร่ มูลค่า 600 ล้านบาท 3.เจ คอนโด พระราม 2 คอนโดฯโลว์ไรส์ พื้นที่ 2 ไร่ เฟสแรก 156 ยูนิต มูลค่า 300 ล้านบาท และอีก 3 โครงการเป็นการขยายเฟสใหม่ของโครงการทาวน์เฮาส์ที่แพรกษา, บางปะกง และรังสิต แต่ปรับแบรนด์และดีไซน์ใหม่ทั้งหมด
 


สำหรับเป้ายอดขายและรายได้ปีนี้ตั้งเป้า 5,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนมียอดขายและรับรู้รายได้ 3,200 ล้านบาท และมีแบ็กล็อกทั้งหมด 6,000 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ในปีนี้ 5,000 ล้านบาท
 


อนึ่ง นายไพโรจน์ วัฒนวโรดม เดิมดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บจ.เดอะ คอนฟิเดนซ์ ในเครือ บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ ถูกดึงตัวมาอยู่ที่ บจ.เจ.เอส.พี.แอสพลัส เมื่อสิ้น พ.ค. 2559

 

 

ขอบคุณข่าวจาก  ประชาชาติธุรกิจ

 

 

 

 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติ่มได้ที่  

 

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1465984660

>> ช่องทางในการติดตามข่าวสาร <<
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @livinginsider ที่นี่

บทความอื่นๆ

livinginsider livinginsider