Central Pattana Residence ขึ้นแท่นผู้นำตลาดอสังหาฯ ภาคใต้ ขยายอาณาจักรผ่านกลยุทธ์ Retail-Led Mixed-Use Development

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การท่องเที่ยวคือกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยหลายจังหวัดใน “ภาคใต้” ถูกยกให้เป็นเดสติเนชั่นการท่องเที่ยวระดับโลก ซึ่งผลที่ตามมาคือ ไม่เพียงสร้างงานสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ แต่ยังสร้างโอกาสด้านการลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อผู้คนหลั่งไหลเข้ามาท่องเที่ยวและทำงานอย่างต่อเนื่อง ความต้องการที่อยู่อาศัยก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย 

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ Central Pattana Residence เดินหน้าขยายตลาดในภูมิภาคนี้ ด้วยการนำโมเดลธุรกิจที่ผสานระหว่างที่อยู่อาศัยกับไลฟ์สไตล์มอลล์เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ผ่านกลยุทธ์ Retail-Led Mixed-Use Development ที่ใช้ศูนย์การค้า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจหลักของกลุ่มเซ็นทรัล มาเป็นแม่เหล็กดึงดูดลูกค้า จากนั้นจึงพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในบริเวณเดียวกันหรือใกล้เคียง สร้างความได้เปรียบในการตอบโจทย์ทั้งกลุ่มเรียลดีมานด์ที่มองหาความสะดวกสบายสูงสุด และนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่คุ้มค่า

โดยพอร์ตที่อยู่อาศัยในภาคใต้ หลัก ๆ แล้วจะอยู่ในภูเก็ต นครศรีธรรมราช โดยเฉพาะหาดใหญ่ (สงขลา) ซึ่งเป็นจังหวัดที่ธุรกิจรีเทลของ Central Pattana มีความแข็งแกร่งอย่างมาก จากจุดเริ่มต้นในการเปิดตัว เซ็นทรัล หาดใหญ่ ก่อนจะพัฒนาเซ็นทรัล เฟสติวัล หาดใหญ่ ในเวลาต่อมา

ทั้งนี้ Central Pattana Residence ได้ขยายอาณาจักรที่อยู่อาศัยครอบคลุมจังหวัดภูเก็ต สงขลา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง เพชรบุรี และกระบี่ รวม 7 จังหวัด 12 โครงการ จำนวน 4,504 ยูนิต มูลค่าทั้งหมด 14,923 ล้านบาท 

จังหวัดภูเก็ต ได้พัฒนาทั้งหมด 3 โครงการ บนทำเลศักยภาพใจกลางเมือง พร้อมเชื่อมต่อแหล่งไลฟ์สไตล์ใกล้ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต ดังนี้ 

1. คอนโด - โครงการ Phyll Phuket รวมห้องพักอาศัยทั้งหมด 439 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,493 ล้านบาท

2. คอนโด - โครงการ Escent Phuket รวมห้องพักอาศัยทั้งหมด 513 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,489 ล้านบาท 

3. คอนโด - โครงการ Phyll Phuket II รวมห้องพักอาศัยทั้งหมด 393 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,811 ล้านบาท 

จังหวัดสงขลา มีการพัฒนาทั้งหมด 2 โครงการ ติดกับศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล หาดใหญ่ เชื่อมต่อการอยู่อาศัยกับแหล่งไลฟ์สไตล์ได้แบบไม่มีสะดุด ดังนี้ 

1. คอนโด - โครงการ Escent Hatyai รวมห้องพักอาศัย 666 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,518 ล้านบาท 

2. คอนโด - โครงการ Escent Hatyai II รวมห้องพักอาศัย 662 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,762 ล้านบาท 

จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีที่อยู่อาศัยทั้งหมด 1 โครงการ ได้แก่ คอนโด - โครงการ Escent Ville Suratthani รวมห้องพักอาศัย 459 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,094 ล้านบาท อยู่ใกล้ศูนย์การค้าเซ็นทรัล สุราษฎร์ธานี 

จังหวัดนครศรีธรรมราช มีการพัฒนาทั้งโครงการแนวราบและแนวสูง ทั้งหมด 2 โครงการ ใกล้กับศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครศรี ดังนี้

1. คอนโด - โครงการ Escent Nakhon Si รวมห้องพักอาศัย 459 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,264 ล้านบาท 

2. บ้าน - โครงการ Baan Nirati Nakhon Si รวม 79 ยูนิต มูลค่าโครงการ 717 ล้านบาท

จังหวัดตรัง มีการพัฒนาที่อยู่อาศัย 1 โครงการ ได้แก่ คอนโด - โครงการ Escent Trang รวมห้องพักอาศัย 378 ยูนิต มูลค่าโครงการ 884 ล้านบาท อยู่ติดโรบินสันไลฟ์สไตล์ ตรัง ห้างสรรพสินค้าในเครือเซ็นทรัล 

จังหวัดเพชรบุรี มี 1 โครงการ ได้แก่ คอนโด - โครงการ Escent Phetchaburi จำนวน 196 ยูนิต มูลค่าโครงการ 450 ล้านบาท อยู่ติดศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ เพชรบุรี

และในช่วงปลายปี 2568 เตรียมขยายโครงการใหม่พร้อมกับศูนย์การค้าเซ็นทรัล กระบี่ โดยเป็นโครงการมิกซ์ยูสระดับ Super Premium ครบวงจรแห่งแรกของจังหวัด ที่รวมทุกความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันไว้ในที่เดียว ภายในโครงการประกอบไปด้วยที่อยู่อาศัย ทั้งหมด 2 โครงการ ดังนี้

1. คอนโด - โครงการ Phyll Krabi รวมห้องพักอาศัยทั้งหมด 160 ยูนิต มูลค่าโครงการ 813 ล้านบาท

2. บ้าน - โครงการ Baan Ninya Krabi จำนวน 100 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,628 ล้านบาท

เมื่อไล่เรียงการขยายพอร์ตอสังหาฯ ของ Central Pattana Residence ในแต่ละจังหวัด ทุกคนคงเห็นกันแล้วว่าบางพื้นที่มีการพัฒนาที่อยู่อาศัยมากกว่า 1 โครงการ นั่นหมายความว่าบริษัทประสบความสำเร็จในการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างน่าประทับใจ นอกจากนี้ ตัวเลข Engagement บนโซเชียลมีเดียของแบรนด์ในช่วงจัดแคมเปญพิเศษยังมียอด Reach สูงถึง 1,500,000 ล้านคน สะท้อนความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์เป็นอย่างมาก

ยิ่งไปกว่านั้น ความสำเร็จในการพัฒนาที่อยู่อาศัยรวม 12 โครงการ ครอบคลุมจังหวัดสำคัญในภาคใต้ได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ได้รับรางวัล Best Regional Developer of the Year (Soutern) จากเวที Livinginsider Thailand Developer Awards 2025 

ปฏิเสธไม่ได้ว่า กลยุทธ์ Retail-Led Mixed-Use Development ที่เชื่อมต่อการใช้ชีวิตทุกมิตินั้น ทำให้บริษัทมีความโดดเด่นเหนือกว่าใคร เพราะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม และเป็นโมเดลธุรกิจที่ยากจะเลียนแบบ 

ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ คือเหตุผลที่ทำให้ Central Pattana Residence ที่แม้จะไม่ได้เป็นผู้ประกอบการท้องถิ่น แต่สามารถครองตำแหน่งผู้นำตลาดที่อยู่อาศัยในภาคใต้ ได้อย่างไร้ข้อกังขา