Review

One Bangkok | “The Heart of Bangkok” แลนด์มารค์แห่งใหม่ที่สุดใจกลางเมือง ที่จะเป็นเมืองกลางใจของทุก Generations ได้แบบไร้ขีดจำกัด

Nessle 2024-04-03 15:34:33

 

One Bangkok (วัน แบงค็อก) หนึ่งใน Landmark ใจกลางกรุงเทพฯ ของประเทศไทย โปรเจกต์ที่ไม่ได้ถูกสร้างให้เป็นเพียงโครงการ แต่เนรมิตให้เป็นเมืองสุดสร้างสรรค์ระดับโลก 

 

ซึ่งหากถามหาจุดเริ่มต้นที่เป็นหัวใจหลักในการเกิดขึ้นของ One Bangkok คืออยากให้ทุก Generations ได้สัมผัสกับสังคมที่ยกระดับ พร้อมมอบคุณภาพชีวิตที่ดี และประสบการณ์ที่แตกต่างที่หาจากที่ไหนไม่ได้ นั่นทำให้การรังสรรค์ครั้งนี้จึงไม่ได้ทุ่มเทแค่แรงกาย หรือถูกกลั่นกรองออกมาจากทางความคิดเพียงเท่านั้น

 

แต่ใช้ใจสร้างเมืองขึ้นมา ทั้งการใส่ใจในทุกรายละเอียด ประณีตกับทุกขั้นตอนที่ได้สร้างขึ้น เข้าใจทุกการดำเนินชีวิตของทุกช่วงวัย ผ่านการออกแบบดีไซน์พื้นที่ที่ถูกจัดสรรได้อย่างลงตัว และที่สำคัญคือการรวบรวมสิ่งที่ดีที่สุดจากทุกหนแห่ง จนหลอมรวมออกมาเป็น One Bangkok ที่จะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนให้เมืองน่าอยู่แบบทวีคูณ

 

ตั้งแต่การวางแผนมาสเตอร์แพลน การก่อสร้าง ต่อเนื่องไปจนถึงแผนการดำเนินธุรกิจ โดยมีการลงทุนนำเอา Smart Technologies ซึ่งจะขอยกตัวอย่างที่เป็นจุดสำคัญของโครงการอย่าง Central Utility Plant หรือ ศูนย์กลางระบบอัจฉริยะ รวบรวมการทำงานทุกระบบ ไว้ในที่เดียว โดยมี District Command Center หรือ ศูนย์บัญชาการกลาง เข้ามาเสริมทัพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการทรัพยากรและดูแลทุกชีวิต

 

สอดรับไปกับโลกการค้าอย่างศูนย์การค้าและการอยู่อาศัย ที่มีทั้งรูปแบบของคอนโดและโรงแรม ต่อเนื่องไปถึงสำนักงาน รวมถึงส่วนต่อขยายกับพื้นที่สีเขียวของสวนลุมพินี และสวนเบญจกิติ อีกทั้งยังมอบความสะดวกสบาย รวมถึงความปลอดภัยขั้นสูงสุดตลอด 24 ชั่วโมง ให้กับทุกคนที่มาใช้ชีวิตอยู่อาศัย เพื่อให้เป็น Smart City เมืองอัจฉริยะได้แบบมีอัตลักษณ์เฉพาะตัว

 

จนนำไปสู่การยกระดับการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน พร้อมกับผลักดันกรุงเทพฯ ให้ก้าวสู่การเป็น “The New Influential Global City” เพื่อเป็น “เมืองกลางใจ” ตามคอนเซ็ปต์ “The Heart of Bangkok” สำหรับทุกคนอย่างแท้จริง

 

โดยองค์ประกอบของการเป็นเมืองกลางใจ หรือ The Heart of Bangkok ประกอบไปด้วย

ทำเลที่เปี่ยมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบอุดมสมบูรณ์รอบด้าน

ต้องยอมรับเลยว่าการเลือกหมุดหมายโลเคชัน บนถนนพระราม 4 ตัดกับถนนวิทยุ นั้นนับเป็นจุดยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจบนทำเลที่ดีที่สุดของใจกลางกรุงเทพฯ เชื่อมต่อโลกธุรกิจได้อย่างง่ายดายรวดเร็วและมีศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นย่านสาทร สีลม หรือสามย่าน ด้วยระบบขนส่งสาธารณะแบบครบลูปการเดินทาง

 

ซึ่งวิธีการเดินทางที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดคือ MRT สถานีลุมพินี ที่สามารถเชื่อมต่อเข้าตัวโครงการได้เลย หรือหากใช้รถยนต์ส่วนตัวก็หมดกังวล เพราะทำทางเข้า-ออกรอบโครงการถึง 6 จุด เพื่อการสัญจรที่คล่องตัวตลอดทั้งวัน ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือการเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างสวนลุมพินีและสวนเบญจกิติ ผสานกันเป็นพื้นที่สีเขียวมากกว่า 700 ไร่ ที่เปรียบเสมือนปอดขนาดใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ได้อย่างกลมกลืนหลอมรวมไปด้วยกันแบบไร้ที่ติ

 

นิยามใหม่ของการใช้ชีวิต การันตีด้วยมาตรฐานระดับโลก

สิ่งที่จะยืนยันได้ว่า วัน แบงค็อก คือมาตรฐานใหม่ในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ให้กับผู้อยู่อาศัย ผู้ใช้อาคาร และผู้มาเยือน ก็มาจากการได้การรับรองที่น่าเชื่อถือด้วยมาตรวัดระดับโลกอย่าง มาตรฐาน LEED for Neighborhood Development (LEED-ND) ระดับ Platinum First in Thailand รวมถึง WiredScore และ SmartScore ระดับ Platinum ตอกย้ำความเป็นเลิศด้านการเชื่อมต่อผ่านเทคโนโลยีอัจฉริยะ อีกทั้งยังมุ่งสู่การรับรองมาตรฐาน WELL ระดับ Platinum เพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัยและผู้ใช้อาคาร ซึ่งถือเป็นโครงการแรกในประเทศไทย

 

เติมเต็มประสบการณ์ ผ่านคอมมูนิตี้ขนาดใหญ่ ที่หลากหลาย แตกต่าง แต่ลงตัว

โดยแสดงออกให้เห็นผ่านจากการจัดสรรพื้นที่แบบผสมผสาน ที่มีครบวงจรครอบคลุมทุกมิติ ทั้งศูนย์การค้า ที่อยู่อาศัย โรงแรม และอาคารสำนักงาน ซึ่งโอบล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียวชวนพักผ่อนหย่อนใจ รวมถึงยังเพิ่มการมีส่วนร่วมและสีสันในการใช้ชีวิต ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการเรียนรู้ และสอดแทรกศิลปะวัฒนธรรม และการจัดอีเวนต์ที่มีความหลากหลายในทุกแง่มุม

 

ส่งผลให้เกิดความสมดุลลงตัวได้แบบงดงามไร้ที่ติ ซึ่งตอนนี้แม้จะเผยโฉมให้เห็นเพียงบางส่วน แต่ก็สร้างความโดดเด่นสะดุดตา จนเป็นที่ได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วทุกแห่งหน เอาเป็นว่า ณ เวลานี้ไม่มีใครไม่พูดถึง วัน แบงค็อก ซึ่งล้วนแล้วแต่อยากทำความรู้จักและเข้าไปสัมผัสอย่างใกล้ชิดกันทั้งนั้น

 

ทำให้เห็นว่าจากองค์ประกอบแต่ละส่วนได้ถูกนำมาเรียงต่อกันกลายเป็นภาพของความสมบูรณ์แบบอย่างยิ่งใหญ่อลังการ บนพื้นที่รวมทั้งหมดกว่า 108 ไร่ ซึ่งหากจะสโคปให้เห็นถึงความเป็น วัน แบงค็อก แบบชัดเจนมากยิ่งขึ้น จึงถูกแบ่งออกเป็น 6 องค์ประกอบ ที่ล้วนแสดงให้เห็นถึงการตอบสนองทุกความต้องการได้แบบตอบโจทย์ ดังนี้

 

ศูนย์กลางรีเทลแห่งใหม่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใจกลางเมือง

หนึ่งในไฮไลท์สำคัญที่จะดึงดูดผู้คนทั้งจากประเทศไทยและทั่วทุกมุมโลกต้องยกให้ One Bangkok Retail จุดหมายปลายทางของการชอปปิงและไลฟ์สไตล์ชั้นนำของกรุงเทพฯ ด้วยพื้นที่รีเทลกว่า 160,000 ตารางเมตร แบ่งเป็นทั้งหมด 3 โซนด้วยกัน ดังนี้

- Parade เปรียบเสมือน Open Playground ตอบโจทย์สำหรับทุกเพศ ทุกวัย ผสมผสานทุกไลฟ์สไตล์ Shop - Play - Work - Eat ที่มีทั้งหมด 9 ชั้น บนพื้นที่เช่า 85,000 ตารางเมตร รวบรวมร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ แบรนด์ดังมากมาย ตลอดจนซูเปอร์มาร์เก็ตที่จำหน่ายสินค้าจากทั่วทุกมุมโลก

 

- THE STOREYS โซนนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้กันกับร้านค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ที่มีความร่วมสมัยและคอนเซ็ปต์สโตร์สุดฮิป ไม่เพียงเท่านั้นยังมีร้านอาหาร บาร์แอนด์บิสโทร และแหล่งแฮงเอาท์ยามค่ำคืน โดยมีอยู่ 5 ชั้น รวม 35,000 ตารางเมตร 

 

- POST 1928 สุดท้ายกับ Shopping Street ที่ผสานความลักซ์ชัวรี่ ครอบคลุมร้านค้าแฟล็กชิพสโตร์แบรนด์ดังระดับโลกมากมายในรูปแบบ Standalone มาให้ชอปอย่างจุใจตลอดสองฝั่งถนน ตั้งแต่ซูเปอร์แบรนด์แฟชั่น วอช แอนด์ จิวเวลรี่ ตลอดจนแบรนด์สตรีทแวร์สุดพรีเมียม บนพื้นที่เช่า 5 ชั้น 40,000 ตารางเมตร

 

สร้างนิยามใหม่แห่งโลกรีเทลจะให้เกิดขึ้นที่นี่ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกในไทย ที่รวบรวมประสบการณ์การชอปปิงที่เหนือระดับแบบครบวงจรที่สุดไว้ในที่เดียว ล่าสุดโซน Parade และ THE STOREYS จะเปิดให้บริการไตรมาส 4 ปี 2567

 

ที่สุดของพื้นที่ศูนย์รวม Worklife แห่งอนาคต

องค์ประกอบถัดมาคือ สำนักงานออฟฟิศเกรด A ถึง 5 อาคาร รวมพื้นที่เช่ากว่า 500,000 ตารางเมตร ที่ให้ความพิถีพิถันในการออกแบบที่เป็นประโยชน์รอบด้าน ทั้งเรื่องของการดีไซน์แต่ละอาคารและทิวทัศน์ที่ไม่เหมือนกัน รวมถึงให้พื้นที่สำนักงานระดับพรีเมียมและเวิร์กสเปซที่มีความยืดหยุ่นคล่องตัวมากมาย ผ่านเทคโนโลยีอัจฉริยะที่คำนึงถึงสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืน

 

โดยในปัจจุบันได้เปิดอาคารสำนักงานส่วนหนึ่งให้เช่าและย้ายเข้ามาทำงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเมื่อโซนนี้เสร็จ 100% จะกลายเป็นศูนย์รวมของผู้คนที่มีวิสัยทัศน์ในการทำงาน ที่สามารถสร้างพื้นที่เพื่อต่อยอดทางธุรกิจให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้า สู่ออฟฟิศแห่งอนาคตชั้นนำของประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน

 

พื้นที่การเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์ ร่วมสร้างแรงบันดาลใจ

นอกเหนือจากรีเทลและสำนักงานออฟฟิศแล้ว ยังมีอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งเสน่ห์ของสเปซนี้อยู่ที่การสร้างสรรค์ค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ เปรียบเสมือนเป็นศูนย์กลางแห่งผลงานทางศิลปะและวัฒนธรรมทั้งไทยและระดับโลก จากศิลปินทั้งไทยรวมถึงต่างประเทศ เพื่อเอาใจคนรักงานอาร์ตรวมถึงใครก็ตามที่สนใจ ก็สามารถสนุกสนานและร่วมเสพศิลปะอย่างเต็มอิ่มได้ในทุกๆ วัน

 

ที่สุดของโรงแรมที่รองรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจทั่วโลก

เมื่อมีทั้งพื้นที่ให้ได้รีแลกซ์ไปกับรีเทลและศิลปะ รวมถึงพื้นที่ให้ทำงานได้อย่างเต็มที่แล้ว ก็ถึงเวลาปรับโหมดชีวิตให้ได้พักผ่อนกันบ้าง โดยที่แห่งนี้คือโรงแรมระดับโลก ซึ่งจะให้การต้อนรับและบริการระดับสากลแต่ยังคงความเป็นไทยอย่างมีเอกลักษณ์ ผ่านโรงแรมที่มีชื่อเสียงถึง 5 แห่ง รองรับด้วยห้องพักและห้องสวีท ทั้งสำหรับการเข้าพักระยะสั้นและระยะยาว

 

โดยผู้ที่เข้ามาพักผ่อนทุกระดับทั้งจากทั้งไทยและต่างประเทศ จะได้รับการต้อนรับและบริการจากผู้ที่มากประสบการณ์และความเป็นมืออาชีพรอบด้าน เหนือสิ่งอื่นใดคือการออกแบบให้ทุกคนได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์ ทั้งธรรมชาติและแสงสียามค่ำคืนของใจกลางกรุงเทพฯ ที่สวยที่สุดได้แบบเต็มสายตา รวมถึงได้เพลิดเพลินไปกับแหล่งไลฟ์สไตล์หลากหลายครบวงจร ทำให้มั่นใจได้เลยว่าทุกย่างก้าวจะเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและความประทับใจไม่รู้ลืม 

 

พื้นที่พักอาศัยสำหรับครอบครัว ตอบโจทย์ทุกเจเนอเรชัน

ไม่เพียงแค่โรงแรมเท่านั้นแต่ One Bangkok  ยังมีคอนโดที่รอต้อนรับเปิดประสบการณ์ของการอยู่อาศัยอย่างเหนือระดับ กับที่พักแบบ Ultra Luxury สูงเสียดฟ้า 3 อาคาร ที่ให้ความหรูหราเป็นส่วนตัวขั้นสูงสุด และเหนือระดับไปอีกขั้นด้วยการได้ครอบครอง เป็นเจ้าของบ้านบนทำเลดีที่สุดอย่างถนนวิทยุ แวดล้อมด้วยสถานทูตนานาชาติ พร้อมด้วยทัศนียภาพอันงดงามของสวนสีเขียวและเส้นขอบฟ้าของมหานคร พิเศษอีกขั้นด้วยการโอบล้อมด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์มีระดับ ที่ทุกความสะดวกสบายอยู่ใกล้แค่เอื้อม ถือเป็นหนึ่งมิติใหม่ของการอยู่อาศัยที่เชื่อว่าจะหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว

 

โอบล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ที่สร้างความโดดเด่นด้วย Golden Tree อีกหนึ่งจุดไฮไลต์ที่ทุกคนต้องเช็กอิน

ให้ทุกองค์ประกอบที่เอ่ยมาถูกโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอย่างสมบูรณ์แบบ โดยจัดสรรผ่าน พื้นที่สีเขียวและพื้นที่เปิดโล่งภายในโครงการมากถึง 50 ไร่ ให้เป็นส่วนต่อขยายจากสวนลุมพินีและสวนเบญจกิติ เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงพื้นที่ธรรมชาติใจกลางเมืองได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างบรรยากาศในการพักผ่อน ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ และเพลินตาไปกับสวนสีเขียวจากต้นไม้ดอกไม้นานาพันธุ์ นอกจากนี้ยังมี Walkable Neighborhood ทางเดินภายในโครงการปกคลุมด้วยร่มเงาจากต้นไม้ สามารถเดินเข้าถึงทุกพื้นที่ในโครงการได้เพียง 15 นาที สอดคล้องกับแนวคิด 15-Minute Walking City 

 

และทิ้งท้ายด้วยไฮไลต์ที่ไม่อยากให้ใครพลาดโดยเด็ดขาด เพราะมั่นใจเลยว่านี่จะเป็นจุดเช็กอินให้ได้ถ่ายภาพลงโซเชียล และเป็นสถานที่อันน่าจดจำของทุกๆ คน จนกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ นั่นก็คือ Golden Tree ที่ให้ความรู้สึกงดงามมองแล้วเพลินตาผ่อนคลาย ที่ไม่ว่าจะถ่ายรูปองศาไหนก็ออกมาสวยดูดีไปทุกมุม

 

เหนือสิ่งอื่นใดของการสร้างสรรค์พื้นที่สีเขียวของ One Bangkok ในครั้งนี้ คือมีจุดมุ่งหมายที่ต้องการผลักดันให้เป็น Green & Sustainable ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน การใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อม และร่วมมือกันประหยัดพลังงานอย่างเต็มรูปแบบ

 

ทั้งหมดนี้หากจะมองว่า วัน แบงค็อก กลายเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับมาสเตอร์พีชของประเทศ ทุกคนก็คงเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่านี่แหละใช่เลย ซึ่งแน่นอนว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งการสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศและให้ทั่วโลกได้รู้จักประเทศไทยมากขึ้น ขณะเดียวกันก็เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถ ความใส่ใจประณีตในทุกดีเทลทุกตารางเมตร และเป็นการยกระดับมาตรฐานในทุกมิติได้อย่างประสบความสำเร็จ

 

ให้เป็นที่สุดของเมืองที่อยู่กลางใจหนึ่งเดียวของทุกคน ที่สามารถสะท้อนให้เห็นถึงเสน่ห์ของความเป็นเมืองหลวงได้อย่างภาคภูมิ สู่เมืองต้นแบบในการสร้างกรุงเทพฯ ที่นี่ One Bangkok, The Heart of Bangkok เมืองที่เชื่อว่าทุกคนจะตกหลุมรักได้ไม่ยาก สู่อีกขั้นของคำว่าที่สุดได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

>> ช่องทางในการติดตามข่าวสาร <<
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @livinginsider ที่นี่
livinginsider livinginsider