News

ความเชื่อมั่นบริษัทอสังหาฯ เพิ่มขึ้น หลังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยมาเกือบ 3 ปี

LivingInsider Report 2022-01-17 09:46:54

ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผยความเชื่อมั่นของผู้ประกอบที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ – ปริมณฑลไตรมาส 4 ปี 64 เพิ่มขึ้นเเป็นไตรมาสแรกในรอบ 10 ไตรมาส จากมาตรการลดค่าโอน จดจำนองและผ่อนปรนมาตรการแอลทีวีหลังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยมาเกือบ 3 ปี

 

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์  ได้รายงานดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ในไตรมาส 4 ปี 2564 มีค่าดัชนีเท่ากับ 52.0 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และมีค่าดัชนีสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจเพิ่มสูงขึ้นเป็นไตรมาสแรก!

 

หลังจากที่มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นต่ำกว่าค่ากลางต่อเนื่องกันมาเป็นระยะเวลาถึง 10 ไตรมาส ขณะที่ความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้า มีค่าเท่ากับ 62.0 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 57.2 และมีการเพิ่มขึ้นเกือบทุกปัจจัย เป็นผลมาจากการต่อมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ และการจดจำนอง 


วิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวว่า ค่าดัชนีที่เพิ่มสูงขึ้นมีปัจจัยสนับสนุนมาจากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศผ่อนคลายมาตรการแอลทีวีชั่วคราว สำหรับสัญญาเงินกู้ที่ทำสัญญาตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. 2564 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2565

 

เพื่อช่วย "พยุง" เศรษฐกิจไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 รวมถึงการที่รัฐบาลได้มีนโยบายในการเปิดประเทศในต้นเดือนธ.ค.ปี 2564 ที่ผ่านมา 

 

คาดว่าจะส่งผลเชิงบวกต่อการกลับมาของกำลังซื้อที่อยู่อาศัยของคนต่างชาตินับเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญต่อภาคธุรกิจอสังหาฯทำให้ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นในทิศทางที่เป็นบวกเพิ่มขึ้น เมื่อจำแนกกลุ่มผู้ประกอบการฯ ตามประเภทบริษัท

 

พบว่า ความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันของผู้ประกอบการในตลาดหลักทรพย์ฯ ในไตรมาส 4 ปี 2564 มีค่าดัชนีเท่ากับ 56.3 ซึ่งสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 และสูงกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่มีค่าดัชนี 50.0 แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีความเชื่อมั่นต่อธุรกิจในภาวะปัจจุบันเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา

 

ทั้งนี้ เป็นผลมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นโดยมีค่าดัชนีเท่ากับ 62.5 สูงกว่าไตรมาสก่อนหน้า และการเปิดตัวโครงการใหม่หรือเฟสใหม่มีค่าดัชนีเท่ากับ 60.3 ซึ่งสูงกว่าไตรมาสก่อนหน้าเช่นเดียวกัน ขณะที่ผู้ประกอบการที่ไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในไตรมาส 4 ปี 2564 มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นเท่ากับ 45.5 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 42.7
    

โดยมีแนวโน้มดัชนีในด้านต่างๆ เพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกันกับผู้ประกอบการในตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นได้จากยอดขายที่มีค่าดัชนีเท่ากับ 48.1 สูงกว่าไตรมาสก่อนหน้า และเปิดตัวโครงการใหม่หรือเฟสใหม่มีค่าดัชนีเท่ากับ 47.1 ซึ่งสูงกว่าไตรมาสก่อนหน้าเช่นเดียวกัน

 

แต่อย่างไรก็ดี ค่าดัชนีของผู้ประกอบการกลุ่ม ที่ไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในทุกด้านยังคงต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อธุรกิจในภาวะปัจจุบันที่อยู่ในระดับที่ต่ำ และต่ำกว่าผู้ประกอบการกลุ่มในตลาดหลักทรัพย์ฯ อย่างมีนัยสำคัญ


สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล 6 เดือนข้างหน้า มีค่าเท่ากับ 62.0 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 57.2 และมีการเพิ่มขึ้น เกือบทุกปัจจัย ยกเว้น! ในปัจจัยของ "ต้นทุน" ผู้ประกอบการที่ต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 ในภาพรวมของดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้านี้

 

สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นต่อการพัฒนาธุรกิจอสังหาฯ 6 เดือนข้างหน้าในเชิงบวกเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากการที่รัฐบาลประกาศต่ออายุมาตรการเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2564 ให้มีการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และการจดจำนองสำหรับที่อยู่อาศัยที่ไม่เกิน 3 ล้านบาท และขยายครอบคลุมไปถึงบ้านมือสองด้วย

 

จากเดิมที่ให้เฉพาะบ้านใหม่ไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2565 และผู้ประกอบการคาดการณ์ว่าหากมีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศได้มากขึ้นจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ทำให้กำลังซื้อเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ความเชื่อมั่นต่อการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในอีก 6 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้น

 

เมื่อจำแนกกลุ่มผู้ประกอบการฯ ตามประเภทบริษัท พบว่าผู้ประกอบการในตลาดหลักทรัพย์ฯ กลุ่มมีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้าเท่ากับ 67.4 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนซึ่งอยู่ที่ระดับ 62.9 สูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 และจะเห็นได้ว่ามีการเพิ่มขึ้นในทุกปัจจัยอย่างมีนัยสำคัญ

 

ขณะที่ผู้ประกอบการฯที่ไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 54.0 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 48.7 และสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 เช่นกัน โดยเป็นการเพิ่มขึ้นในทุกปัจจัยเช่นเดียวกัน เห็นได้อย่างชัดว่าผู้ประกอบการกลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ และผู้ประกอบการกลุ่ม ในตลาดหลักทรัพย์ฯ เริ่มมีความมั่นใจในอีก 6 เดือนข้างหน้ามากยิ่งขึ้น 

 

ขอบคุณภาพและข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ

https://www.bangkokbiznews.com/business/982746

>> ช่องทางในการติดตามข่าวสาร <<
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @livinginsider ที่นี่

บทความอื่นๆ

livinginsider livinginsider