3 ความเชื่อที่ควรหนีห่าง ถ้าอยากรวย

หนึ่งในคำถามที่ผมได้รับบ่อยที่สุดคือ "ทำยังไงถึงจะรวย" จริง ๆ แล้ว คนเราทำทุกอย่างตามความเชื่อ คำถามที่น่าจะตอบโจทย์กว่าก็คือ ความเชื่อไหนที่จะพาเราไปสู่ความร่ำรวย? วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังครับ

1) อย่างแรกเลย เลิกคิดว่า "คนจะรวยได้ต้องเกิดมาเพื่อรวยแต่แรก"

หลายคนคิดแบบนั้น เพราะมนุษย์เรามีสัญชาติญาณในการเอาตัวรอด เลยชอบโทษทุกอย่าง (นอกจากตัวเอง) คิดอะไรเพื่อปลอบใจตัวเอง ว่าสิ่งที่เราทำอยู่ทุกวันนี้มันดีแล้ว

เราไม่รวย เพราะเราไม่ได้เกิดมาในบ้านเศรษฐีไง เราไม่เก่ง เพราะไม่ได้มีโอกาสเรียนดี ๆ ไง เราไม่มีคอนเนคชั่น เพราะเราไม่ได้รวย และคนรวยมักจะชอบจับกลุ่มกันเองไงคนรวยเป็นคนไม่ดี เราเป็นคนดี เลยไม่รวย ก็ดีแล้วไง

เราบ้านไม่รวย แถมยังไม่เก่ง บวกไม่มีคอนเนคชั่น และก็เป็นคนดี เพราะงั้นที่เราไม่รวยก็ไม่แปลก แต่ทั้งหมดเนี่ย ก็เกิดจากเหตุผลข้างบนหนะหละ เราแค่เกิดมาโชคร้าย...

ชุดความคิดนี้หละครับที่ทำให้คุณไม่รวยซะที! และคนที่สร้างชุดความคิดนี้ก็คือคุณ! คนที่สามารถเปลี่ยนชุดความคิดนี้ได้มีคนเดียวในโลก ใช่เลย.. ตัวคุณเองนั่นหละครับ! มันอาจจะจริงครับ ที่ว่าปัจจัยหลายอย่าง ทำให้แต่ละคนรวยได้ยากง่ายแตกต่างกัน แต่อย่าลืมนะครับ ทุกอย่างบนโลกนี้มีหลายมุม ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะมองด้านไหน

เกิดมาในครอบครัวที่ไม่รวย ก็ทำให้เรามีโอกาสทำงานแต่เด็ก มีประสบการณ์ มี EQ ที่จะต่อสู้กับอุปสรรคที่เข้ามา ไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยสำคัญของความสำเร็จ ไม่ได้เรียนจบมาสูง ๆ เลยไม่เก่ง แต่คุณอาจลืมมองไปว่า ความรู้ที่ทำให้คนสำเร็จเกือบทั้งหมด ไม่ได้ได้มาจากการเรียนในมหาวิทยาลัย แต่เป็นความรู้ที่ได้มาจากการเรียนรู้ในชีวิตจริงหลังเรียนจบ ซึ่งข่าวดีก็คือ คุณก็สามารถเรียนรู้มันได้เหมือนกัน

เลิกเชื่อว่าชะตากรรมของคุณติดตัวมาตั้งแต่เกิดเถอะครับ "ถ้าคุณเกิดมาไม่รวย ไม่ใช่ความผิดคุณ แต่ถ้าคุณโตมาแบบไม่รวย อันนี้อย่าโทษคนอื่นครับ คุณเลือกจะเปลี่ยนมันได้"

2) เลิกเชื่อว่าต้องพร้อม 100% ก่อนลงมือทำ

หลาย ๆ คน ติดแนวคิดสมัยเรียนมา "คนที่ทำข้อสอบถูกทุกข้อ คือคนที่เก่งที่สุด" อันนี้ใช้ไม่ได้เลยครับกับชีวิตหลังวัยเรียน ด้วยความเชื่อนี้ ทำให้เรารอให้ทุกอย่างพร้อมก่อนค่อยเริ่มลงมือทำ... จริง ๆ แล้ว ความพร้อม 50% มาจากการศึกษาหาความรู้ และเรียนรู้จากคนที่มีประสบการณ์ แต่อีก 50% มาจากการลงมือทำจริง เล่นจริง เจ็บจริง ล้มจริง ลุกจริง

ถ้าคุณรอให้ทุกอย่างมันชัดเจนสำหรับคุณ มันจะชัดเจนสำหรับคนอื่นด้วยด้วยเหมือนกัน และกฏของโลกนี้มันกำหนดไว้แล้วว่าถ้าคุณทำอะไรที่ทุกคนทำกัน ยากที่คุณจะสำเร็จครับ ลงมือเลยครับ! พร้อม 50% แล้วลุยเลย!

3) เลิกเชื่อว่าจะได้อะไรมาง่าย ๆ

ความสำเร็จบนโลกนี้ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่น ความรักในสิ่งที่ทำ และทำสิ่งที่รักอย่างต่อเนื่อง ไม่ยอมแพ้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เรื่องราวความสำเร็จที่สวยหรู มันมีอะไรอยู่เบื้องหลังอีกเยอะครับ แค่เรามองไม่เห็นมัน เพราะสายตาเราจ้องไปแต่ที่ความสำเร็จที่อยู่ตรงปลายทางของถนน จนไม่ทันมองเห็นหลุมบ่อที่มีอยู่เต็มถนน พอเราตกลงไปในบ่อก็เลยตกใจ หมดกำลังใจเดินต่อไปซะอย่างงั้น ทั้ง ๆ ที่คนสำเร็จทุกคนเค้าเคยตกหลุมมาแล้วทั้งนั้น แค่เค้าไม่ได้มานั่งเล่าให้เราฟัง

ผมโชคดีได้มีประสบการณ์เรื่องนี้ตั้งแต่เด็ก ตอนที่ผมสอบเอ็นติดจุฬาฯ จากเด็กต่างจังหวัดที่โรงเรียนนึงมีคนสอบติดไม่กี่คน แถมยังชอบเล่นเกม เล่นเกมถึงเช้าทุกวัน ร้ายไปกว่านั้น ตอน ม.4 ผมยังอ่อนมาก เรียนได้เกรด 1.6 อยู่เลย เพิ่งมาลืมตาอ้าปากได้ตอน ม.5 สิ่งที่คนบอกผมบ่อย ๆ ช่วงนั้นคือ "โชคดีจัง อยากเกิดมาหัวดีแบบนี้บ้าง"...

แต่จริง ๆ แล้วคนแทบไม่เห็นเลย ว่าก่อนจะพลิกชีวิตมาได้ ผมคิดมาเยอะมาก ทำอะไรมาเยอะมาก ต่อเนื่องมาหลายปี ผมเลยมักบอกเพื่อนทุกครั้งที่มีโอกาสว่า "ทำได้ทุกคนหละ ถ้าเราบอกตัวเองว่าเราทำได้" แม้แต่การทำงานและการลงทุนในปัจจุบันก็เหมือนกัน คนที่รู้จักผมจะรู้ว่าผมทำอะไรเยอะมาก กว่าจะได้ความสำเร็จแต่ละอย่างมา

ที่เล่ามาไม่ได้จะมาโม้นะครับ เพราะแม้แต่ทุกวันนี้ผมก็ยังพยายามเพื่อก้าวไปข้างหน้าอยู่ทุกวัน ยิ้มบ้าง ล้มบ้าง ไม่ได้สำเร็จไปทุกอย่าง แค่อยากบอกว่าความสำเร็จมีมูลค่าของมัน เลิกเชื่อว่าจะได้อะไรมาง่าย ๆ เถอะครับ โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี คุณต้องลงทุนเวลาและความทุ่มเทเพื่อให้ได้มันมา

ลองเก็บไว้คิดนะครับ ยังไม่ต้องเชื่อผมทันทีก็ได้ ผมเล่าทั้งหมดจากสิ่งที่ผมเห็นมาตลอด มันอาจจะถูกหรือไม่ก็ได้ แต่ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากแนะนำให้คนที่ผมรักทุกคนเลิกเชื่อว่าชะตาเราโดนกำหนดไว้แล้ว เลิกเชื่อว่าต้องพร้อม 100% ก่อนเริ่มลงมือทำ เลิกเชื่อว่าจะได้อะไรมาง่าย ๆ โดยไม่ต้องพยายาม

ถ้าคุณกำลังอ่านบทความนี้อยู่ คุณก็เป็นแฟนเพจอีกหนึ่งคนที่ผมรัก และอยากให้สำเร็จอย่างที่ตั้งใจไว้ครับ

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณครับ
#SalarymanEstator