รายการโปรด
บมจ. ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ หรือ ALL สบช่องเจาะตลาดต่างประเทศ ดึง ผู้บริหาร 4 สัญชาติ จีน สิงคโปร์ ไต้หวัน ญี่ปุ่น เสริมทัพภายใต้ บริษัท ไทย ดี เรียลเอสเตท จำกัด ผุดสำนักงานขายในเซี่ยงไฮ้ - ไทเป หวังเจาะลูกค้าจีน ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย และญี่ปุ่น พร้อมตั้งเป้าหมายในอีก 5 ปีข้างหน้าจะมียอดขาย (Presales) รวมที่ระดับ 25,000 ล้านบาท
ปัจจุบันนักลงทุน ชาวต่างชาติให้ความสนใจและลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย มีราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบกับประเทศไทยติดอันดับต้น ๆ ประเทศที่น่าอยู่ ส่งให้ดีมานด์ของกลุ่มผู้เล่นในตลาดอสังหาริมทรัพย์มีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาซื้อเพื่ออยู่อาศัย กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาซื้อเชิงพาณิชย์เพื่อการลงทุนในการสร้างผลตอบแทน
ทั้งนี้ จากข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทยและศูนย์อสังหาริมทรัพย์ พบว่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2559 - 2561) มีลูกค้าต่างชาติซื้อโครงการคอนโดมิเนียมในประเทศไทยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้มีการคาดการณ์ว่า แนวโน้มในปี 2562 ดีมานด์ความต้องการยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยคาดว่าจะมียอดลูกค้าต่างชาติซื้อโครงการคอนโดมิเนียมในประเทศไทยในปีนี้เกินกว่า 100,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากปี 2561 ที่มียอดลูกค้าต่างชาติซื้อโครงการคอนโดมิเนียมในเมืองไทยที่ระดับ 92,192 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2560 มียอดลูกค้าต่างชาติซื้อโครงการคอนโดฯที่ 70,758 ล้านบาท จากปี 2559 ที่มียอดลูกค้าต่างชาติซื้อโครงการคอนโดฯ ในประเทศเกือบ 60,000 ล้านบาท
ต่อประเด็นในข้างต้น นายธนากร ธนวริทธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL ผู้ให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยหลากหลายประเภท เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกกลุ่มแบบครบวงจร (Total Real Estate Solutions) เปิดเผยว่า จากข้อมูลดังกล่าวในข้างต้น และเป็นการตอกย้ำการเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ทำให้บริษัทฯเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
บริษัทฯ จึงวางกลยุทธ์การดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง ในการขยายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประเภทคอนโดมิเนียมเจาะตลาดเอเชีย ผ่านทีมผู้บริหาร 4 สัญชาติ ทั้ง จีน สิงคโปร์ ไต้หวัน ญี่ปุ่น ที่มืออาชีพและเชี่ยวชาญการตลาดและงานขายในต่างประเทศเข้ามาเสริมทัพ ซึ่งดำเนินการผ่าน บริษัท ไทย ดี เรียลเอสเตท จำกัด (Thai D) ประกอบธุรกิจเป็นตัวแทนและนายหน้าขายอสังหาริมทรัพย์สำหรับตลาดต่างประเทศ โดย ALL ถือหุ้น 100% พร้อมตั้งเป้าหมายในอีก 5 ปีข้างหน้า จะมียอดขาย (Presales) รวมที่ระดับ 25,000 ล้านบาท
โดยล่าสุด ได้เปิดสำนักงานในเซี่ยงไฮ้และไทเป ซึ่งถือเป็นมหานครที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐประชาชนจีน เนื่องจากบริษัทฯ เล็งเห็นว่าประเทศจีน เป็นประเทศที่มีนักลงทุนที่ให้ความสนใจในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คอนโดมิเนียมในประเทศไทย เป็นจำนวนมาก
โดยหากพิจารณาข้อมูลสถิติย้อนหลัง 3 ปีที่ผ่านมา ปี 2559 มีสัดส่วนลูกค้าจีนเพียง 6% ขณะที่ในปี 2560 สัดส่วนลูกค้าจีน เพิ่มเป็น 9% และในปี 2561 สัดส่วนลูกค้าจีน เพิ่มเป็น 12% ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มลูกค้าจาก สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ไต้หวัน อังกฤษ และ ญี่ปุ่น เป็นต้น ดังนั้นบริษัทฯ เชื่อว่าในปีนี้ สัดส่วนลูกค้าหลักยังคงเป็น จีนและฮ่องกงที่มีแนวโน้มที่จะขยายสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“สำนักงานในเซี่ยงไฮ้บนอาคาร Hong Kong Plaza ถนนซินเทียนตี้ ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในเซี่ยงไฮ้ ในขณะที่สำนักงานในไทเปตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจ บนถนน Zhongxiao East โดยสำนักงานมีการออกแบบตกแต่งให้มีการผสมผสานความอบอุ่นเรียบง่ายและทันสมัย และจัดพื้นที่ให้คำปรึกษาการลงทุน รวมถึงอธิบายรายละเอียดโครงการต่าง ๆ เนื่องจากเรามีทีมขายท้องถิ่น ที่ดูแลสำนักงานขายในพื้นที่ และยังเป็นการทำงานร่วมกับ Local Agency ซึ่งรู้จักพฤติกรรมลูกค้าเป็นอย่างดี” นายธนากร กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับวัตถุประสงค์หลักในการจัดตั้งออฟฟิศในต่างประเทศ เพื่อให้บริการวางแผนการลงทุนทางด้านอสังหาริมทรัพย์เต็มรูปแบบ การให้คำปรึกษาด้านโครงการแก่ลูกค้าอย่างละเอียดและการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด
โดยบริษัทฯ ได้นำกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ (CRM) ซึ่งเป็นกลยุทธ์การดูแลกิจกรรมและสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้าหลังการขายที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในประเทศไทย อย่างการเป็นสมาชิก อินสไปร์ ฮับ ที่ได้รับสิทธิประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ที่มัดใจทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ มาต่อยอดใช้กับกลุ่มลูกค้าในตลาดต่างประเทศด้วยเช่นกัน
“การที่บริษัทฯ เลือกประเทศจีนเป็นที่ตั้งออฟฟิศแห่งแรกในต่างประเทศ เนื่องจากบริษัทมองเห็นว่าเป็นประเทศที่มีนักลงทุนและให้ความสนใจอสังหาริมทรัพย์ของไทยเป็นจำนวนมาก โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้รับการสนับสนุนจากลูกค้าจีน ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ เป็นหลัก
ทั้งนี้ ยอดขายในตลาดต่างประเทศที่ผ่านมา ALL มียอดขายรวมกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งมีลูกค้าจีนประมาณ 60% โดยกลุ่มดังกล่าวถือเป็นกลุ่มลูกค้า Search for Yield ที่เป็น Real Demand ที่มองหาการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่า
นอกจากนี้ มหานครเซี่ยงไฮ้เป็นเมืองศูนย์กลางความเจริญในด้านต่างๆ ของภูมิภาค ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเงิน การค้า ที่ต้อนรับบริษัทข้ามชาติให้เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศและการคมนาคมที่สำคัญการเดินทางที่สะดวกสบายครอบคลุมไปถึงมลฑลปักกิ่ง กวางโจว และเฉิงตู โดยวางเป้าหมาย 5 ปี จะมียอดขาย (Presales) รวมที่ระดับ 25,000 ล้านบาท
จากความสำเร็จในช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมา บริษัท ไทย ดี เรียลเอสเตท จำกัด ได้ขายโครงการในตลาดต่างประเทศไปแล้วกว่า 5,000 ยูนิต สามารถสร้างยอดขายกว่า 18,000 ล้านบาท” นายธนากร กล่าว
ASW ชูกลยุทธ์ EXPAND รุก EEC ปั้น Flagship Project “อควารัส จอมเทียน พัทยา” มูลค่า 5,000 ลบ. เจาะตลาด Staycation และนักลงทุนทั้งไทย-เทศ
2024-12-13
เดอะ คิวเว่ เซ็นทรัลพาร์ค นวมินทร์–รามอินทรา กวาดยอดขายกว่า 400 ล้านบาท ในรอบ EXCLUSIVE VISIT DAY
2024-12-13
ลักชูรีวิลล่า “บางเทา–เชิงทะเล” มาแรง ครึ่งแรกปี 67 ยอดขายพุ่ง 500% ผลตอบแทนการเช่าเฉลี่ย 6-8%*
2024-12-13
ธนาสิริ ส่งโปร “เหมันต์ หรรษา..คุ้มค่า น่าอยู่ x12” จองเริ่ม 999 บาท พร้อมสิทธิพิเศษอีกมากมาย
2024-12-12
เปิดตัว “Chapter Market” แลนด์มาร์กใหม่ใจกลางสุขุมวิท 26 ปลุกกรุงเทพฯ สู่ศูนย์กลางอาหาร คาดดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก 1,000 คน/วัน
2024-12-12
ห้องดูกว่างมากเลยโครงการนี้
อ่านเยอะเกินไป อยากได้ไปหมดทุกที่เลย
รีวิวได้ดี วิเคราะห์ละเอียดมากจ๊ะ
รีวิวเขียนดีจังค่ะ