Life ปิ่นเกล้า เชื่อมต่อชีวิตเมือง แค่ไม่กี่ก้าวจากหน้าบ้าน

Life ปิ่นเกล้า - เชื่อมต่อชีวิตเมือง แค่ไม่กี่ก้าวจากหน้าบ้าน โดย Papayatop

ห้องประกาศ ขาย เช่า Life ปิ่นเกล้า ดูที่นี่..

ถ้าคุณลองถามเพื่อนๆคุณว่า...บ้านอยู่ที่ไหน ? ผมรับรองว่า 30% ของเพื่อนคุณจะต้องบอกว่า บ้านอยู่ฝั่งธนฯ 

ผมเคยสงสัยว่า ทำไมคนฝั่งธนฯถึงมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่ถ้าว่ากันตามตรงแล้ว ฝั่งพระนครในปัจจุบันมีความเจริญมากกว่าฝั่งธนฯหลายเท่า ทั้งในเรื่องแหล่งการทำงานและไลฟ์สไตล์ต่างๆ คนน่าจะย้ายมาอยูฝั่งพระนครกันมากกว่า

เท่าที่ผมสังเกต 'คนฝั่งธนฯ' ภายนอกจะดูสมถะ แต่งตัวบ้านๆ แต่แทบทุกคนเป็นักธุรกิจหรือพ่อค้าแม่ค้าที่มีฐานะดีทั้งนัั้น ผมเคยถามคนรู้จักว่า บ้านก็ออกจะมีฐานะ ไม่ย้ายอยู่ที่อื่นเหรอคำตอบคือ .... อยู่ตรงนี้ก็ดีแล้ว ของกินเยอะ เพื่อนบ้านก็คุ้นเคยกัน วัดวาอารามเยอะ แถมอากาศก็ดี

ผมมองว่าฝั่งธนฯเป็นโลเคชั่นที่ค่อนข้างมีความคลาสสิคนะครับ มีการผสมผสาน เมืองเก่าและเมืองใหม่วิถีชีวิตของคนรุ่นเก่าและวิถีของคนชีวิตของคนรุ่นใหม่เข้าด้วยกัน ผมว่าใครได้มาย่านนี้ก็น่าจะรู้สึกได้เหมือนผมว่าที่นี่มีเสน่ห์น่าอยู่จริงๆ

ที่นี่มีวัดวาอารามจำนวนมากให้คุณไปเลือกทำบุญได้หลายแห่ง อาหารอร่อยก็มีหลายที่ ตรงนี้แหละครับคือความมีเสน่ห์ของฝั่งธนฯที่ทำให้คนพื้นที่ไม่ค่อยอยากย้ายถิ่นไปอยู่ไหน

เสียอย่างเดียวคือ...รถติด

ข้อจำกัดของคนที่นี่คือการเดินทางเข้ามาทำงานในเมือง เพราะส่วนใหญ่ต้องใช้รถยนต์ ไม่มีรถไฟฟ้า เรียกว่าหลายคนต้องตื่นแต่ตี 5 มาทำงานกันเลย แต่อีกไม่นานปัญหาของคนฝั่งธนฯกำลังจะหายไป

อีก 2-3 ปีข้างหน้า 'MRT สายสีน้ำเงิน' จะเปลี่ยนวิถีชีวิตคนฝั่งธนฯ อย่างไม่เคยมีมาก่อน ไม่ต้องทนรถติด ผ่านสถานที่สำคัญหลายแห่ง ที่สำคัญสามารถ นั่งวน Loop ไปรัชดาฯ - หมอชิต ต่อสายสีม่วง หรือ BTS ได้ด้วย

ถ้าให้พูดถึงทำเลที่เป็นเหมือนใจศูนย์กลางความเจริญของฝั่งธนฯ ในความคิดของผมก็ต้องเป็น 'ปิ่นเกล้า' แน่นอนครับ ที่นี่เรียกได้ว่า 'ครบครันทุกสรรพสิ่ง' ทั้งศูนย์การค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต โรงภาพยนตร์ ท่ารถโดยสาร ไม่ไกลจากทางด่วน (ศรีรัช - วงแหวนรอบนอก) มากนัก และ MRT สายสีน้ำเงิน ซึ่งตอนนี้ก่อสร้างเกือบเสร็จแล้ว

เห็นแบบนี้แล้ว ผมอยากบอกว่า นี่เป็นเวลาที่ดีที่สุด ถ้าใครคิดจะหาซื้อที่พักอาศัย เพราะถ้ารถไฟฟ้าพร้อมใช้งานเมื่อไร ราคาจะพุ่งไปมากกว่านี้ จนคุณอยากย้อนเวลากลับไปซื้อเลยครับ

ยิ่งปัจจุบันความคิดและทัศนคติของผู้ใหญ่หลายคนก็เริ่มปรับเปลี่ยนมากขึ้น โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ต้องการขยายครอบครัวแต่ก็ยังไม่อยากอยู่ห่างไกลจากพื้นที่หรือญาติพี่น้องตัวเอง อีกทั้งยังถือเป็นการลงทุนที่ดีมากๆเพราะได้ผลตอบแทนที่มั่นคงและเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนประเภทอื่นๆเยอะเลยครับ

อ่านมาถึงตรงนี้ คงจะมีหลายคนเริ่มสนใจคอนโดแถวนี้ขึ้นมาแล้ว วันนี้ผมจะพามาดูโครงการคอนโดนึงที่พึ่งสร้างเสร็จใหม่ๆเลย ขอบอกว่าสวยมากๆเลยครับ

Life ปิ่นเกล้า

ปกติแทบไม่เห็นโครงการแนวสูงจาก AP บนทำเล ‘ปิ่นเกล้า’ บ่อยครั้งนัก ทำให้โครงการ Life ปิ่นเกล้า น่าสนใจทีเดียวครับ วันนี้โครงการเสร็จสมบูรณ์พร้อมเข้าอยู่แล้ว เดี๋ยวผมจะพามาชมกันเลยครับว่าน่าสนใจแค่ไหน

LOCATION

พื้นที่โครงการอยู่บน ถ.จรัญสนิทวงศ์ (ใกล้ซอย 40) รอบด้านเป็นอาคารพาณิชย์ดั้งเดิม อพาร์ทเมนท์  มีร้านอาหารตามสั่ง ข้าวแกง ร้านสะดวกซื้อประปราย รองรับคนอาศัยรอบพื้นที่ ภาพรวมสามารถหาอะไรกินรอบๆ โครงการไม่ยากครับ

ที่สำคัญคือ โครงการนี้ อยู่แทบจะติด MRT บางยี่ขัน (B05) เลยครับ สามารถเดินทางต่อสายสีน้ำเงิน (หลักสอง) ผ่านสถานีท่าพระ, สายสีม่วง (สถานีเตาปูน) และอยู่บน Loop Line นั่งไปทางจตุจักร รัชดาฯ หรือหัวลำโพง อโศก ฯลฯ สะดวกสบายมากครับ

ศูนย์การค้า มีเลือกหลายแห่งรัศมี 5 กม. เช่น Central Plaza ปิ่นเกล้า, Tesco Lotus ปิ่นเกล้า, The Sense, Major Cineplex หรือ พาต้าปิ่นเกล้า ก็ยังเปิดบริการตามปกติเช่นกัน เป็นทำเลค่อนข้างอุดมสมบูรณ์มากทีเดียว ไม่ต้องไปไหนไกล หากใช้รถส่วนตัว สามารถเข้า-ออกเมืองไม่ยาก ผ่าน ถ.บรมราชชนนี / ถ.จรัญสนิทวงศ์, สะพานพระปิ่นเกล้า - สะพานพระราม 8 แต่รถจะค่อนข้างติดช่วง Rush Hour ควรวางแผนเผื่อเวลาเดินทางสักหน่อย

ทางเข้าโครงการจัดสวนอย่างลงตัวเรียบง่ายสไตล์ญี่ปุ่น พร้อมเครื่องเล่นสำหรับเด็ก เข้าไปด้านในจะเป็นจุดจอดรับส่งลูกบ้าน และทางเข้าลานจอดรถด้านหลัง

ตัวโครงการเป็นคอนโด High-Rise สูง 23 ชั้น จำนวน 803 ยูนิต

ที่จอดรถมีประมาณ 52% ของจำนวนยูนิต (ไม่รวมซ้อนคัน) คาดว่าเพียงพอครับ

โครงการมี Smart Pod ตู้ Locker ให้ลูกบ้านรับสินค้า / พัสดุตลอด 24 ชั่วโมง โดย AP นำมาติดตั้งในคอนโดฯ หลายโครงการ เช่นเดียวกับเครื่อง AED (ช่วยกระตุ้นหัวใจ) ถือว่าถูกใจคนรุ่นใหม่เลยครับตู้แบบนี้

เมื่อเข้าสู่พื้นที่ Lobby จะได้ความรู้สึกอบอุ่นสบายๆน่านั่งมากๆครับ มีบริการ Conciege ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ให้ด้วยครับ

พื้นที่ Mailbox

โถงลิฟท์ดูหรูมากๆครับ ไม่ต่างจากโรงแรม 5 ดาวเลย

ขึ้นมาดูส่วนกลางกันก่อนครับ โดยส่วนกลางหลักอยู่บนชั้น 5 ครับ

สระว่ายน้ำ Infinity Pool ยาว 40 เมตร ชมวิวสะพานพระราม 8 แยกสระเด็ก และ สระ Lap Pool ว่ายออกกำลังกายได้จริงจังเลย ผมชอบสระแบบนี้มากๆ

ห้องตรงนี้ได้วิวสระว่ายน้ำเต็มๆ

Pool Deck พื้นที่พักผ่อนรอบสระพร้อม Sunken Seat ให้ความเป็นส่วนตัว เว้นระยะห่างจากยูนิตที่พักอาศัยพอสมควร 

Sunken Seat ตรงนี้น่ามานั่งทำงานมากๆ

พื้นที่ต่อเนื่องกับสระว่ายน้ำจะเป็น Sky Fitness เครื่องเล่นเยอะทีเดียว ออกแบบให้เทควิวภายนอกโครงการ - วิวสระ รับแสงธรรมชาติเต็มที่ โล่งโปร่งสบาย พร้อมห้อง Sauna - Steam แบ่งชายหญิง

จาก Fitness ขึ้นมาชั้น 6 (ชั้นลอย) พบกับ Casual Space หรือห้องอเนกประสงค์ สามารถนั่งทำงาน พบปะพูดคุย อ่านหนังสือได้ที่นี่

เห็นส่วนกลางแล้ว ต้องบอกว่าที่นี่จัดเต็มมากๆ แต่ยังไม่หมดครับ ในห้องเค้าก็ยังให้อีกหลายอย่าง มาดูกันเลยครับ โดยยูนิตของโครงการ Life ปิ่นเกล้า เริ่มต้นที่ 1-Bedroom (26-35 ตรม.) และ 2-Bedroom (50-60.5 ตรม.) โดย 1-Bedroom ขนาด 30-35 ตรม. มีจำนวนยูนิตมากสุดครับ ส่วน 2-Bedroom เป็นห้องมุมทั้งหมด 

สำหรับห้องตัวอย่างมีครบ 3 แบบครับ คือ 1-Bedroom (30-35 ตรม.) และ 2-Bedroom (55 ตรม.)

ห้องตัวอย่าง

1-Bedroom (30 ตรม.)

Layout มาตรฐาน 1-Bedroom แบ่งสัดส่วนชัดเจนครับ ครัวปิด ห้องน้ำแยก ห้องนอนเป็นส่วนตัว เป็นแบบห้องที่ใช้งานได้ดีในชีวิตจริงครับ โดยเฉพาะคนที่ชอบทำอาหาร จะไม่มีกลิ่นมารบกวนในห้องนั่งเล่นเท่าไรครับ

เปิดประตูเข้ามาพบส่วนนั่งเล่น พื้นที่กว้างอยู่สบายๆครับ วางโซฟา 2-3 ที่นั่ง ชั้นวางทีวี หรือปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงานได้เช่นกัน

ครัวเป็นแบบปิดครับ โดยมีประตูเลื่อนกั้นแยกจากห้องนั่งเล่น สามารถทำอาหารเต็มที่ ไม่มีปัญหาเรื่องกลิ่น

บิวท์อิน Pantry ตู้เก็บของบานลามิเนต Top หินสังเคราะห์ ซิงค์หลุมขนาดเล็ก เตาไฟฟ้า 2 หัว พร้อมเครื่องดูดควัน พื้นปูกระเบื้องทำความสะอาดง่ายครับ

ตรงนี้วางโต๊ะทานอาหาร และ เก้าอี้ 2 ตัว หรือเปลี่ยนเป็นพื้นที่เตรียมอาหารได้เช่นกัน

ระเบียงติดกับส่วนครัวครับ วางเครื่องซักผ้า มีพื้นที่ตากผ้าพอสมควร

กลับมาดูห้องนอน กั้นผนังเป็นสัดส่วนอย่างดี มาพร้อมเตียงขนาด 5 ฟุต, Walk-in Closet สามารถวางชั้นทีวี โต๊ะแต่งตัวเพิ่มตามต้องการ 

สำหรับห้องน้ำเข้าจากส่วนนั่งเล่นได้เลย อุปกรณ์มีให้ครบทุกอย่าง แบ่งพื้นที่เปียก - แห้ง มีฉากกั้นประตูกระจกนิรภัยครับ

ห้องตัวอย่าง

1-Bedroom (35 ตรม.)

พื้นที่ใช้สอยมากขึ้นสำหรับ 1-Bedroom (35 ตรม.) เน้นส่วน Living - Bedroom กว้างขวางเป็นพิเศษ โดยเน้นพื้นที่ทำอาหารซึ่งสำหรับใครที่มีเพื่อนมาปาร์ตี้บ่อยๆต้องชอบแน่ๆครับ อีกส่วนคือ Walk-in Closet และห้องแต่งตัวขนาดใหญ่ที่สาวๆน่าจะชื่นชอบครับ

เปิดเข้ามาพบกับส่วน Living พื้นที่ใช้สอยเยอะทีเดียว นี่เป็นเป็นห้องอย่างที่พิเศษจากห้องอื่นเพราะเป็นห้องที่ตกแต่งด้วย Furniture ของมูจิ Muji ห้องจะให้อารมณ์ เรียบง่าย Minimal เพิ่มพื้นที่สีเขียวเข้ามาในห้องตัวอย่างมากขึ้นครับ

ส่วนครัวบิวท์อิน Pantry เข้ามุมผนังรูปตัว L พร้อม Counter เตรียมอาหาร - รับประทานอาหาร และ เก้าอี้ 2 ตัว ตรงนี้โครงการทำหน้าต่างเล็กๆ ให้แสงธรรมชาติส่องถึงครับ

ห้องนอนกั้นส่วนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ทำให้ภาพรวมดูกว้าง ไม่อึดอัด วางเตียงขนาด 5 ฟุต พร้อมโต๊ะข้างเตียง 

ต่อจากห้องนอนคือ ห้องอเนกประสงค์ จัดเป็น Walkin-Closet พร้อมโต๊ะแต่งตัว เหมาะกับสาวๆ มีพื้นที่เก็บเสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัวมากกว่าปกติ

ระเบียงซักล้างกว้างพอตัว สามารถตากผ้าได้ครับ

สำหรับห้องน้ำเหมือน 1-Bedroom ไซส์กลาง เข้าจากส่วนครัวครับ ฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ ไม่แตกต่างกัน

ห้องตัวอย่าง

2-Bedroom (55 ตรม.)

เห็น Layout แล้วต้องถูกใจสาย Family กับ 2-Bedroom 2 ห้องน้ำ แบ่งสัดส่วนลงตัวทุกฟังก์ชั่น ใช้สอยคุ้มค่า ครัวปิดทำอาหารได้เต็มที่ เหมาะกับอาศัยเป็นครอบครัว 2-4 คนครับ

เปิดประตูเข้ามาเจอส่วน Living แบ่ง 2 โซนคือ Dining ห้องตัวอย่างทำ Counter บิวท์อินวางของใช้ - เก็บของด้านล่าง พร้อมโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง 

และ Leisure Zone โซฟาขนาด 3-4 ที่นั่ง โต๊ะกลาง ระยะห่างจากทีวีกำลังดี

ห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อพื้นที่ระเบียง ใช้ตากผ้า ออกมายืนสูดอากาศภายนอกได้เช่นกัน

ส่วนครัวแยกออกมาต่างหากครับ มีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าฝาหน้า - ตู้เย็น และหน้าต่างบานกระทุ้ง เปิดถ่ายเทอากาศ

ครัวได้อุปกรณ์ครบเหมือนห้องอื่นๆครับ

 ห้องนอนหลัก (Master Bedroom) กว้างขวางทีเดียว วางเตียงขนาด 5 ฟุต โต๊ะข้างเตียง ชั้นวางทีวี โต๊ะทำงาน

พร้อม Walk-in Closet

มีห้องน้ำในตัวครับ

อีกฝั่งหนึ่งจะเป็นห้องนอนรอง ขนาดเล็กลงมาหน่อยครับ มีโต๊ะแต่งตัว Walk-in Closet ใช้ห้องน้ำร่วมกับส่วน Living

ห้องน้ำกลาง ทำเป็น Double-Access เข้าได้ 2 ทาง ทั้งทางห้องนอนรองและห้องนั่งเล่นครับ

สรุป

Life ปิ่นเกล้า เป็นอีกโครงการคุณภาพที่สุดโครงการนึงในย่านปิ่นเกล้า ทำเลที่กำลังพัฒนาสู่ Hub เชื่อมต่อฝั่งพระนคร - กรุงเทพฯ รถไฟฟ้าล้อมหมุนเมื่อไร รับรอง ปิ่นเกล้าจะกลายเป็น ศูนย์กลางธุรกิจของฝั่งธนฯ ไม่ต่างจากสุขุมวิทหรือพระราม 9 นี่จึงเป็นโอกาสดีสำหรับใครที่กำลังหาคอนโดย่านนี้เอาไว้พักอาศัยหรือจะลงทุนรอผลตอบแทนในอนาคต

โครงการ Life ปิ่นเกล้า เหมาะกับการซื้ออาศัยเองเป็นหลัก จากราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท (26 ตรม.)* หรือเฉลี่ยทั้งโครงการ 95,000 บาท / ตรม. เหมาะกับคนที่ทำงานโซนปิ่นเกล้า ศิริราช เขตพระนคร ที่สำคัญโครงการเสร็จพร้อมอยู่ทันที ซื้อตอนนี้ได้เห็นห้องจริง วิวจริง ฟรีค่าทำสัญญา ค่าใช้จ่ายวันโอน อีกด้วย

สนใจสอบถามรายละเอียด นัดหมายเข้าชมโครงการ Life ปิ่นเกล้า เข้าไปลงทะเบียนได้ที่นี่

http://www.apthai.com