สัมมากร อเวนิว ชัยพฤกษ์-วงแหวน โมเดิร์นทาวน์โฮม การออกแบบที่เข้าใจชีวิต

สัมมากร อเวนิว ชัยพฤกษ์-วงแหวน

“โมเดิร์นทาวน์โฮม การออกแบบที่เข้าใจชีวิต ”

โดย LifeScape

ห้องประกาศ ขาย เช่า สัมมากร อเวนิว ชัยพฤกษ์-วงแหวน ดูที่นี่..

แม้ไม่เน้นการตลาดหวือหวา แต่ชื่อ “สัมมากร” เป็นชื่อหมู่บ้านที่อยู่คู่คนไทยมานานเกือบ 50 ปี... และด้วยความยาวนานนี้เองทำให้ “สัมมากร” มั่นคงทั้งในด้านชื่อเสียง และมั่นคงทั้งในด้านโครงสร้างของโครงการต่างๆ...การันตีความพึงพอใจด้วยคุณภาพชีวิตของครัวเรือนไทยกว่า 6,000 ครัวเรือนที่เติบโตมาพร้อมๆ กับชื่อ “สัมมากร”

ถ้ามองที่ความเชี่ยวชาญแล้วต้องบอกเลยว่า “สัมมากร” ถนัดเรื่องการพัฒนาโครงการแนวราบทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม จะมีก็แต่ในช่วงหลังที่เริ่มบุกตลาดคอนโดเอาใจคนรุ่นใหม่ดูบ้าง แต่ไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่ทิ้งลายเซ็นภายใต้ชื่อสัมมากร

ลายเซ็นของสัมมากรที่ว่าก็คือการสร้างที่อยู่อาศัยบนพื้นฐานของ “ความเข้าใจชีวิต” เช่นเดียวกับโครงการล่าสุดที่เราอยากจะพูดถึงก็คือ “สัมมากร อเวนิว ชัยพฤกษ์-วงแหวน” ที่สะท้อนว่าสัมมากรพยายามเข้าใจชีวิตของผู้คนที่อาศัยอยู่ในฝั่งตะวันตกของกรุงเทพมหานครแถวๆ ชัยพฤกษ์ รวมทั้งคนที่กำลังมองหาบ้านที่ตอบโจทย์ชีวิตที่เป็นส่วนตัว ไม่วุ่นวาย แต่ก็เข้าเมืองได้ไม่ยาก ซึ่งทำเลอย่าง “ชัยพฤกษ์-วงแหวน” ก็คือคำตอบที่สัมมากรคัดสรรมาให้

พูดถึงย่าน “ชัยพฤกษ์-วงแหวน” ก็ต้องบอกว่าเป็นอีกทำเลที่น่าจับตามอง เพราะตั้งแต่มีการขยายถนนสายหลักทางด้านฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยาก็เห็นได้ชัดว่าบริเวณนี้มีการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ชีวิตผู้คนเปลี่ยนแปลงไป การเดินทางสะดวก

คนนอกพื้นที่หลั่งใหลเข้ามาท่องเที่ยวในแถบนี้เพิ่มขึ้น เกิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ การค้าขายเศรษฐกิจโดยรอบก็ฟื้นตัวคึกคัก และยิ่งภาครัฐมีโครงการขยายเส้นทางขนส่งมวลชนโดยเฉพาะการสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง (เตาปูน-คลองบางไผ่) และรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ก็ยิ่งทำให้ย่านนี้เจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว

ถนนชัยพฤกษ์เป็นถนนเส้นต่อจากถนนแจ้งวัฒนะ หรือถ้าจะพูดให้เห็นภาพแบบกว้างๆ ก็คือ เราสามารถวิ่งตรงมาจากรามอินทรา ตัดผ่านวงเวียนอนุสาวรีย์บางเขน ข้ามแยกหลักสี่ตรงมาเจอกับศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ผ่านเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ จนมาถึงห้าแยกปากเกร็ด ก็ขึ้นสะพานพระราม 4 พอลงมาจากสะพานปุ๊บก็เข้าสู่ถนนชัยพฤกษ์ที่สามารถไปยังถนนราชพฤกษ์ ถนนตากสิน ถนนเพชรเกษม และอื่นๆ ได้อีกหลายสาย

ที่เล่ายาวก็ไม่ใช่อะไร แค่จะบอกว่าถนนชัยพฤกษ์คือถนนสายหลักที่จะช่วยให้การเดินทางของคุณเข้าเมืองออกเมืองได้สบายๆ แต่แค่จะต้องผ่านด่านปราบเซียนรถติดในช่วงเวลาเร่งรีบหน่อยเท่านั้น หรือถ้าจะเลี่ยงขึ้นทางด่วนก็สามารถใช้ทางด่วนศรีรัช ขึ้น-ลงตรงด่านแจ้งวัฒนะแล้วตรงเข้าสู่ถนนชัยพฤกษ์ได้เช่นกัน

ขณะเดียวกัน ถนนชัยพฤกษ์ก็เป็นถนนที่ตัดกับถนนราชพฤกษ์ซึ่งเป็นถนนเส้นต่อกับถนนตากสิน-เพชรเกษม หรือพูดแบบกว้างๆ อีกก็คือ จาก BTS สะพานตากสิน วิ่งมาตามถนนกรุงธนบุรีแล้วสิ้นสุดที่ BTS สถานีบางหว้า หลังจากนั้นก็เข้าสู่ถนนราชพฤกษ์

ซึ่งถนนราชพฤกษ์ก็ตัดกับถนนสายสำคัญๆ อย่าง ถนนเพชรเกษม ถนนพรานนก ถนนบรมราชชนนี ถนนสวนผัก ถนนนครอินทร์ ถนนบางกรวย-ไทรน้อย และถนนรัตนาธิเบศร์ ขณะที่อีกด้านก็วิ่งได้ยาวไปจนถึงสะพานนนทบุรี-บางบัวทองหรือถนน 345 และต่อไปยังถนนติวานนท์ และถนนสรงประภาแถวสนามบินดอนเมือง

ชื่อถนนหลักก็ว่าเยอะแล้ว ถนนสายย่อยทางลัดเลาะก็เยอะไม่แพ้กัน เพราะจากราชพฤกษ์ก็สามารถวิ่งตรงไปถนนตากสินเพื่อเข้าสู่ถนนสาทรได้ หรือจะใช้เส้นทางลัดเลาะอย่างถนนสวนผักไปโผล่ถนนบรมราชชนนีที่เข้าเมืองไปทางอนุสาวรีย์ชัยได้โดยผ่านสะพานซังฮี้ หรือจะเข้าสู่ถนนราชดำเนินผ่านสะพานปิ่นเกล้าก็ได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่างที่บอกว่า ถ้าเป็นช่วงเร่งรีบ ขับรถส่วนตัวไปยังไงก็ต้องเจอปัญหารถติด ก็ต้องทำใจและเผื่อเวลา

LOCATION

พิกัดโครงการ คลิกที่ลิ้งค์ https://goo.gl/maps/Nc4D2jd1HDp

สำหรับการเดินทางไปโครงการ “สัมมากร อเวนิว ชัยพฤกษ์-วงแหวน” ถ้ามาจากถนนแจ้งวัฒนะก็ให้วิ่งตรงขึ้นสะพานพระราม 4 ลงมาเจอถนนชัยพฤกษ์ก็ให้วิ่งตรงมาเรื่อยๆ ประมาณ 7 กิโลเมตรก็จะเจอกับวงแหวนที่ตัดกับถนนราชพฤกษ์ ให้วิ่งตรงมายังถนนชัยพฤกษ์เรื่อยๆ ไม่ต้องเลี้ยวออกซ้ายหรือขวา หรือถ้าเห็นทางเยอะๆ แล้วงง ก็ให้วิ่งตรงมาเรื่อยๆ ขึ้นสะพานใหญ่ๆ ตรงกลาง

พอลงมาก็จะเจอกับถนนชัยพฤกษ์ให้ชิดซ้ายเพื่อเตรียมกลับรถ หลังจากกลับรถแล้วให้วิ่งประมาณเลนที่ 2 จากซ้าย ไปตามป้ายทางหลวงหมายเลข 345 พอผ่านไทวัสดุก็ให้วิ่งตรงมาตามถนนราชพฤกษ์ ขึ้นสะพานผ่านบริเวณหน้าสมาคมองค์กรบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย

พอลงสะพานมาให้วิ่งตรงมาตามป้ายบางบัวทอง วิ่งประมาณเลนที่ 2 ไปจนเจอป้ายทางหลวง 345 ให้วิ่งตรงไปเรื่อยๆ จนเจอปั๊ม ปตท. ก็ให้ชิดซ้ายไปตามทางที่จะกลับรถ พอถึงบริเวณที่กลับรถใต้สะพานให้เลี้ยวซ้ายจะเจอป้าย “ทางหลวงชนบท 4012” ก็ให้วิ่งตรงเข้าไปประมาณไม่เกิน 1 กม. ก็จะเจอกับโครงการ “สัมมากร อเวนิว ชัยพฤกษ์-วงแหวน” 

สำหรับการเดินทาง ขอให้เน้นทางเข้า-ออกหลัก ที่วิ่งจากแจ้งวัฒนะตรงมาเรื่อยๆข้ามสะพานพระราม 4 เจอป้ายไปถนน 345 ให้เลี้ยวขวาไปถนน 345 เมื่อออกถนน 345 แล้ว จะเจอทางเบี่ยงออกซ้าย เข้าถนนลาโพ เลี้ยวซ้ายเข้ามาประมาณ 600 เมตร จะถึงโครงการ

หรือจะมาอีกทางคือหลังจากผ่านวงแหวนที่ตัดกับถนนราชพฤกษ์ให้วิ่งตรงข้ามสะพานมาอีก 1 สะพาน แล้วชิดซ้ายยูเทิร์นใต้สะพาน พอยูเทิร์นมาแล้วก็ให้ชิดซ้าย ขับมาประมาณ 200-300 จะเจอซอยใหญ่ๆ หน่อย ปากซอยจะไม่มีป้ายชื่อซอย แต่มีป้ายสีฟ้าของทางหลวงว่า “ทางหลวงชนบท 4012”

หรือสังเกตป้ายโฆษณาของโครงการสัมมากรชัยพฤกษ์-วงแหวน ก็ให้เลี้ยวเข้ามาจะเจอกับถนนเลนเดียว รถวิ่งสวนได้ 2 คัน ให้วิ่งตรงเข้ามาเรื่อยๆ ประมาณ 2 กิโลเมตรก็จะเจอกับโครงการ “สัมมากร อเวนิว ชัยพฤกษ์-วงแหวน”

แถวนี้เดินทางได้สะดวก การเดินเข้าออกโครงการทางสามารถใช้เส้นทาง ถนนชัยพฤกษ์ หรือ ถนน 345 ก็ได้ค่ะ

อย่างที่เกริ่นๆ ไปว่านอกจากถนนเส้นหลักเส้นรองที่ทะลุทะลวงได้หลายเส้นทางแล้ว ยังมีขนส่งมวลชนอย่างรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่วิ่งตั้งแต่สถานีเตาปูน-สถานีคลองบางไผ่ รวม 16 สถานี ระยะทาง 23 กิโลเมตร และรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) รวม 30 สถานี ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร ซึ่งตอนนี้รถไฟฟ้าสายสีม่วงได้เปิดให้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนรถไฟฟ้าสายสีชมพูคาดว่าจะสร้างเสร็จในปี 2564

สำหรับลูกบ้านสัมมากรก็สามารถ “จอดแล้วจร” ไปจอดรถที่ MRT สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ ซึ่งมีอาคารจอดรถรองรับได้ถึง 1,070 คัน แล้วนั่งรถไฟฟ้าเข้าเมืองไปแถวบางซื่อ หรือต่อ BTS ไปสุขุมวิทก็ใช้เวลาเดินทางรวมๆ ไม่เกิน 1.10 ชม.

ทำเลศักยภาพขนาดนี้ ไม่ว่าจะขับรถส่วนตัวหรือนั่งรถไฟฟ้าก็สะดวก ส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่าในอนาคตไม่เกิน 4-5 ปี ราคาบ้านพักอาศัยแถวนี้จะดีดตัวเพิ่มขึ้นอีก 10-15% 

นอกจากปัจจัยการเดินทางรอบโครงการแล้ว... ลายเซ็นที่สองของสัมมากรที่พลาดไม่ได้เลยก็คือเรื่องการออกแบบที่พักอาศัยที่ “สร้างจากความเข้าใจชีวิต” ซึ่งจากการเดินสำรวจ “สัมมากร อเวนิว ชัยพฤกษ์-วงแหวน” ภายนอกอาจจะดูโมเดิร์นแบบเรียบๆ ไม่เน้นดีไซน์จัดจ้าน แต่มันจะมีความว้าวซ่อนอยู่ในหลายๆ จุด ขอสรุปเป็นสั้นๆ ก่อน แล้วเดี๋ยวเราจะมาขยายรายละเอียดให้ฟังทีหลัง

1.    โปร่ง โล่ง หน้ากว้าง เพดานสูง 

2.    มีหน้าต่างและช่องแสงที่เข้าถึงทุกจุด

3.    ใช้พื้นที่คุ้มค่า แต่ไม่อึดอัด มี Space เผื่อไลฟ์สไตล์ชีวิตที่แตกต่าง

4.    พื้นที่ส่วนกลางแน่นหนาจัดเต็ม

5.    สัมมากร Smart Home, Smart Living

ข้อแรก โปร่ง โล่ง หน้ากว้าง เพดานสูง พื้นที่โดยเฉลี่ยของ “สัมมากร อเวนิว ชัยพฤกษ์-วงแหวน” อยู่ที่ยูนิตละ 159 ตรม. หน้ากว้าง 5.7 เมตร หรือจอดรถได้ 2 คันแบบสบายๆ ตอบโจทย์ชีวิตครอบครัวที่มีรถมากกว่า 1 คัน ยิ่งเป็นโครงการรอบนอกแบบนี้ หลายครอบครัวก็ยิ่งมีความจำเป็นต้องใช้รถส่วนตัวมากขึ้น 

ขณะเดียวกัน ถนนส่วนกลางของโครงการเป็นถนน 2 เลนที่กว้างกว่าปกติมากๆ แถมยังมีไหล่ทางสามารถจอดรถหน้าบ้านได้ในกรณีที่จำเป็นอีกด้วย

ภาพรวมของทาวน์โฮมของที่นี่จะเน้นดีไซน์เรียบๆ โทนสีอ่อนอย่างสีน้ำตาล สีครีม และสีขาว เพิ่มความโมเดิร์นด้วยระแนงเหล็กสีดำที่ช่วยพรางสายตาและบังแสงไม่ให้ส่องเข้าด้านในตรงๆ ขณะที่การออกแบบภายนอกได้เพิ่มลูกเล่นด้วยการก่อปูนยื่นออกมาจากผนังเล็กน้อย

เกิดเป็นบล็อกสี่เหลี่ยม ดูโมเดิร์น เวลาแสงเงาตกกระทบก็ดูสวยมีลูกเล่น ขณะเดียวกันก็มีประโยชน์ช่วยกันแสงแดดไม่ให้ส่องเข้าบ้านตรงๆ ทำให้ในบ้านเย็นสบายขึ้น ประหยัดค่าแอร์ไปได้เยอะ

บ้านตัวอย่าง ชอบไอเดียชานนั่งเล่นหน้าบ้านแบบนี้ แต่ถ้าทำจริงๆอาจเสียพื้นที่จอดรถไปพอสมควร

ข้อสอง มีหน้าต่างและช่องแสงที่เข้าถึงทุกจุด เมื่อเข้ามาในบ้านก็จะพบกับความโปร่งของบ้านที่มีเพดานสูงถึง 2.7 เมตร บวกกับการออกแบบตำแหน่งประตูและหน้าตาช่วยให้ลมหมุนเวียนถ่ายเทในบ้านได้ค่อนข้างดีทีเดียว สำหรับโครงการนี้มีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นล่างสุดจะเป็นพื้นที่ของห้องรับแขก ห้องครัว และห้องเก็บของ

 
พื้นที่ห้องรับแขกก็มีขนาดมาตรฐานปกติคือวางโซฟารับแขกขนาดใหญ่ได้ มีพื้นที่วางชั้นวางทีวี หรือจะแขวนติดผนังก็ยิ่งทำให้บ้านดูโล่งสบายมากขึ้น จากโซฟามองไปด้านขวาจะเป็นบันไดทางขึ้นชั้น 2 ส่วนด้านซ้ายจะเป็นบริเวณโต๊ะทานข้าว ห้องครัว ห้องเก็บของใต้บันได และห้องน้ำ

ในส่วนของห้องครัวภายในบ้านนั้น ทางโครงการก็ออกแบบพื้นที่เว้าซ่อนเข้าไปในมุมด้านหลังของบันได ช่วยพรางสายตาจากคนนอกได้ เหมาะจะออกแบบเป็นครัวขนาดเล็ก ครัวฝรั่ง หรือเคาน์เตอร์บาร์ ที่เน้นทำอาหารทั่วไปที่ไม่หนักมากนัก

แต่ถ้าใครนิยมการทำอาหารหรือทำอาหารหนักก็สามารถออกแบบพื้นที่หลังบ้านให้เป็นครัวไทยเพิ่มขึ้นได้เช่นกัน 

ถัดมาจากห้องครัวก็คือห้องน้ำและห้องเก็บของใต้บันได ซึ่งห้องเก็บของใต้บันไดไม่ใช่แค่ห้องแคบๆ มืดๆ แต่เป็นห้องเก็บของที่เราสามารถเข้าไปยืนได้เลย 

ส่วนห้องน้ำของโครงการนี้บอกเลยว่า ออกแบบมาให้มีช่องแสงส่องถึงห้องน้ำทุกห้อง ไม่เว้นแม้กระทั่งห้องน้ำชั้น 1 ที่ดูกว้าง มีพื้นที่อาบน้ำซึ่งสามารถต่อเติมที่กั้นกระจกได้แบบไม่อึดอัด

ข้อสาม ใช้พื้นที่คุ้มค่า แต่ไม่อึดอัด มี Space เผื่อไลฟ์สไตล์ชีวิตที่แตกต่าง โดยเฉพาะชั้น 2-3 ที่ออกแบบมาให้เป็นพื้นที่พักอาศัยก็ได้ ออฟฟิศก็ดี ซึ่งชั้น 2 แบ่งออกเป็น 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์

โดยห้องใหญ่สุดจะเป็นห้องทรงยาว เปิดประตูมาอยู่บริเวรเกือบกลางห้องพอดี สามารถออกแบบให้บริเวณที่นอนอยู่ด้านหนึ่ง ส่วนอีกด้านก็เป็นพื้นที่นั่งเล่นหรือพื้นทำงานอดิเรกได้ด้วย ภาพด้านล่างคือเมื่อเปิดประตูมาจะเป็นด้านขวามือ

ส่วนด้านซ้ายมือจะเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงาน มุมนั่งเล่นหรือทำงานอดิเรกตามใจชอบ ซึ่งมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างทีเดียว หรือถ้ามีลูกสาวก็อาจจะเป็นมุมแต่งตัวย่อมๆ ได้สบายๆ

ขณะที่อีก 2 ห้องจะทำเป็นห้องนอนทั้ง 2 ห้องเลยก็ได้หรือถ้าครอบครัวไม่ได้ใหญ่มากนักก็สามารถดัดแปลงเป็นห้องทำงาน โรงหนังขนาดเล็ก หรือพื้นที่ทำกิจกรรมอื่นๆ อาทิ ฟิตเนสขนาดย่อม ห้องดนตรี ห้องหนังสือ หรือถ้าใครเป็นแฟชั่นนิสต้าตัวยงก็อาจจะทำเป็นห้องแต่งตัวเพิ่มขึ้นมาก็ได้

ซึ่งในบ้านตัวอย่างได้ทำเป็นห้องทำงานและห้องมินิโฮมเธียเตอร์ ก็เป็นอีกไอเดียที่เก๋ดีเหมือนกัน ด้วยระยะห่างของพื้นที่กำลังดีกับระยะสายตา ก็เหมาะจะทำเป็นห้องนั่งเล่นดูหนังได้เหมือนกัน

ส่วนห้องน้ำของชั้น 2 ก็ใหญ่ขึ้นมาจากชั้น 1 อีกเล็กน้อย กว้างพอประมาณ สามารถต่อเติมฉากกั้นแบ่งส่วนแห้งส่วนเปียกกันน้ำกระเด็นได้อย่างสบายๆ

ขึ้นมาที่ชั้น 3 บอกเลยว่าบรรยากาศแอบเปลี่ยนแปลงไป ด้วยผังการออกแบบห้องให้ชั้น 3 เป็นเสมือนห้อง Penthouse คือมีห้องนอน ห้องน้ำ และพื้นที่สำหรับทำเป็นห้องแต่งตัวหรือ Walk-In Closet ได้แบบเป็นส่วนตัว

แถมยังออกแบบให้มีระเบียงเล็กๆ อยู่ข้างๆ ห้องนอน สัมผัสได้ถึงบรรยากาศแห่งการพักผ่อนสไตล์รีสอร์ทที่ดูอบอุ่น

ห้องน้ำชั้น 3

จากการออกแบบผังแต่ละยูนิต เหมือนว่าทางโครงการจะเผื่อให้ทั้งกรณีที่เจ้าของซื้อไปเพื่อทำเป็นออฟฟิศเล็กๆ หรือสร้างรายได้จากงานอดิเรกก็ได้ หรือจะเป็นบ้านเพื่อการอยู่อาศัยเป็นครอบครัวก็ดี เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับทุกคนในครอบครัวด้วยการออกแบบให้แต่ละห้องมี Space สำหรับทำกิจกรรมส่วนตัวมากขึ้น

ข้อสี่ พื้นที่ส่วนกลางแน่นหนาจัดเต็ม แม้จะยังไม่มีของจริงให้เห็นกับตา แต่พื้นที่ส่วนกลางที่นี่ก็จัดเต็มเหมือนกันนะ... คือมีทั้งสระว่ายน้ำและห้องฟิตเนส ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวและสวนสาธารณะส่วนกลางสำหรับให้ลูกบ้านพักผ่อนหรือทำกิจกรรมร่วมกัน... ยิ่งเมื่อเทียบกับราคาเริ่มต้นแล้ว ได้ขนาดนี้ก็ถือว่าคุ้ม

ข้อสุดท้ายคือ สัมมากร Smart Home, Smart Living ทั้งหมดทั้งมวลที่พูดมาจะไม่มีประโยชน์เลยถ้าขาดข้อนี้ไป นั่นก็คือ “ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน” ซึ่งการเข้าออกโครงการนี้ทั้งหมดจะใช้ระบบ Key Card Access สำหรับลูกบ้านและคนนอก พร้อมด้วยระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. และกล้องวงจรปิดรอบโครงการ

และเพื่อให้ทันกับยุคดิจิตอลที่ทุกอย่างต้องเร็วและสัมผัสได้จริง สัมมากรได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยติดตั้งระบบ Smart Home ด้วยการติดตั้งกล้องวงจรปิดให้กับทุกยูนิตในโครงการ ซึ่งเจ้าของบ้านสามารถเปิดดูภาพสดๆ จากกล้องวงจรปิดทางมือถือได้จากทุกที่ในโลก ผ่านแอพพลิเคชั่นโฮมคอนโทรล

ซึ่งสัมมากรจะส่งมอบให้กับลูกบ้านทุกหลัง พร้อมสัญญาณอินเตอร์เนตจาก AIS Wifi ใช้ฟรี 1 ปี ซึ่งแอพพลิเคชั่นที่ว่านี้ ลูกบ้านยังสามารถนำไปเพิ่มระบบ Smart Home ควบคุมระบบแสงสว่าง เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ โคมไฟ ฯลฯ 

สรุปกันอีกทีว่าสิ่งที่เราจะได้จากโครงการนี้ก็คือ 

•    ทาวน์โฮมขนาด 159 ตรม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องอเนกประสงค์ 

•    หน้ากว้าง 5.7 เพดานสูง 2.7 เมตร ด้านหน้าจอดรถได้ 2 คัน

•    สุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งหมด 

•    ชั้น 1 ปูพื้นกระเบื้อง ส่วนชั้น 2-3 ปูพื้นลามิเนตต์ทั้งหมด

•    ระบบ Smart Home พร้อมกล้องวงจรปิด พร้อม AIS Wifi ฟรี 1 ปี

•    พื้นที่ส่วนกลาง สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนสาธารณะ

ทั้งหมดที่กล่าวมา โมเดิร์นแบบเรียบๆ แต่จัดเต็มขนาดนี้ ราคาเริ่มต้นแค่ 2.79 ล้านบาท* เท่านั้น จองตอนนี้แค่หมื่นเดียวรับโปรโมชั่นเงินคืนสูงสุด 350,000 บาท... ซึ่งเงินคืนส่วนนี้สามารถใช้ในการตกแต่งบ้านเพิ่มเติมได้อีกด้วย

หากสนใจติดต่อแวะเวียนเข้าไปชมบ้านตัวอย่างกันได้เลยที่ สัมมากร อเวนิว ชัยพฤกษ์-วงแหวน

หรือคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติม www.sammakorn.co.th

Call Center 02-106-8300 หรือ 086-333-6772