Review
ภูเก็ต

The Residences at Sheraton Phuket Grand Bay สวรรค์แห่งการพักผ่อนบนเกาะ ไข่มุกแห่งอันดามัน

LifeScape 2017-12-14 10:00:28

The Residences at Sheraton Phuket Grand Bay สวรรค์แห่งการพักผ่อนบนเกาะ “ไข่มุกแห่งอันดามัน” โดย LifeScape

 

ห้องประกาศ ขาย เช่า The Residences at Sheraton Phuket Grand Bay ดูที่นี่..

 

วันนี้ Living Insider ขอพาทุกคนไปสัมผัสอีกแง่มุมหนึ่งของไข่มุกเม็ดงามกับบรรยากาศแห่งการพักผ่อนในอ่าวปอ ใน อ.ถลาง ซึ่งเป็นอ่าวที่อยู่ฝั่งตะวันออก เยื้องกับเกาะนาคาน้อยและใหญ่ ที่สำคัญ อยู่ห่างจากสนามบินภูเก็ตเพียง 26 กิโลเมตร หรือหากขับรถมาจากสะพานสารสินก็ประมาณ 33 กิโลเมตร

 

ท่ามกลางธรรมชาติของอ่าวปอที่มีบรรยากาศเงียบสงบ น่าพักผ่อน มีอสังหาริมทรัพย์แห่งใหม่เปิดตัวนั่นก็คือ The Residences at Sheraton Phuket Grand Bay ที่พักตากอากาศสุดหรูระดับ 5 ดาว ที่มีการบริหารการจัดการภายใต้แบรนด์ Sheraton โครงการนี้ถูกพัฒนาโดยบริษัท เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ที่คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2019 


The Residences at Sheraton Phuket Grand Bay ตั้งอยู่บนทำเลถูกโอบล้อมด้วยวิวทะเลแบบพาโนรามาสุดสายตายาว 650 เมตร และมีชายหาดยาว 220 เมตร ด้านหน้ามองเห็นน้ำจากท้องทะเลอันดามันสีฟ้าครามสดใส ส่วนที่พักก็ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติสีเขียว จัดวางผังโดยใช้ประโยชน์จากธรรมชาติและภูมิประเทศสูงต่ำลดหลั่นกันไปทำให้มีความเป็นส่วนตัวและเป็นเอกเทศต่อกัน

 

ด้านล่างคือภาพจำลองบริเวณหน้าหาดซึ่งมีพื้นที่พักผ่อนริมหาด 220 เมตร มองขึ้นไปเห็นห้องพักแต่ละแบบซ่อนตัวอยู่ในธรรมชาติสีเขียวตัดกับฟ้าสีคราม และผืนทะเลสีฟ้าเทอร์ควอยซ์


 

พื้นที่พักอาศัยก็มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ บนพื้นที่โครงการกว่า 66 ไร่ รวม จำนวน 101 ยูนิต แบ่งออกเป็น 

 

Two-Bedroom Pool Villa A ขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 132 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 34.6 ล้านบาท ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ชั้น มี Pool Villa ส่วนตัวหันหน้าเข้าทะเล ภายในมีห้องนอน 2 ห้องทั้งชั้นบนและชั้นล่าง โครงสร้างหลักสีเป็นปูนสีอ่อนขัดอย่างดี ตกแต่งด้วยไม้ระแนงพรางสายตา และใช้กระจกบานใหญ่เพื่อให้สามารถรับชมวิวได้อย่างเต็มที่ และลดความแข็งของบ้านรูปทรงเหลี่ยมๆ ได้เป็นอย่างดี

 

แบบต่อมาก็คือ One-Bedroom Pool Villa B ขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 137.5 – 138 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 24.75 – 30.31 ล้านบาท สำหรับแบบนี้จะมี 2 ชั้นเหมือนกันแต่จะมี 1 ห้องนอนอยู่ชั้นบน ส่วนชั้นล่างจะเน้นเป็นพื้นที่พักผ่อนและมี Pool Villa ส่วนตัวเช่นกัน ส่วนวัสดุที่ใช้จะเน้นเป้นกระจกทรงสูงบานใหญ่ และโครงสร้างหลักสีเป็นปูนสีอ่อนขัดเช่นกัน ตกแต่งด้วยไม้ระแนงและกระจกทรงสูง เรียกว่ารับวิวชมวิวได้เต็มที่จริงๆ

 

ต่อด้วย One-Bedroom Pool Villa C ขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 90 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 27 ล้านบาท บ้านชั้นเดียวรูปทรงเรขาคณิตที่เน้นกระจกทรงสูงบานใหญ่พร้อมไม้ระแนงตกแต่งบังแสงแดด พร้อม Pool Villa ส่วนตัวด้านหน้า เรียกว่าออกจากห้องนอนมาก็ลงสระได้เลย

 

สุดท้ายก็คือ One-Bedroom Suite ขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 53 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 9.27 – 11.44 ล้านบาท และ One-Bedroom Pool Suite ขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 84 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 15.54 – 18.90 ล้านบาท ซึ่งจากผัง One-Bedroom Pool Suite ด้านล่างติดกับ Pool Villa ส่วน One-Bedroom Suite จะอยู่ด้านบน ทั้งคู่รับวิวทะเลแบบเต็มๆ

 

ส่วนการออกแบบภายในนั้น จากตัวอย่างห้องนั่งเล่นและโซนทานอาหารด้านล่างจะเห็นได้ว่า โครงการจะเน้นวัสดุธรรมชาติจากในพื้นที่ทั้งในส่วนของตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ และใช้กระจกทรงสูงบานใหญ่ ซึ่งเป็นวัสดุหลักที่ทำให้โครงการนี้กลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งและรับบรรยากาศธรรมชาติได้อย่างเต็มที่

 

ในส่วนของห้องนอนและห้องน้ำนั้น ก็เน้นสีแบบคลีนๆ ขาวๆ และสีในแนวเอิร์ธโทนที่กลมกลืนกับธรรมชาติ เพิ่มความโมเดิร์นด้วยกระจกทรงสูงและกรอบอลูมิเนียมสีดำ ช่วยให้ดูโมเดิร์นทันสมัยแต่ก็ไม่แข็งจนเกินไปเพราะโครงการเลือกใช้ของตกแต่งที่มีส่วนประกอบของไม้ ผ้า และ Texture เสมือนการจักสาน รวมทั้งเส้นโค้งเส้นมนของเฟอร์นิเจอร์รูปทรงกลมก็ช่วยให้ห้องมีความพลิ้วไหวและไม่แข็งจนเกินไป 

 

โดยเฉพาะในส่วนของห้องน้ำที่เน้นพื้นที่ใช้สอยอย่างเต็มที่ แบ่งพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งอย่างชัดเจน ที่สำคัญมีการใช้กระจกตกแต่งเป็นลูกเล่นในส่วนต่างๆ มากมาย อาบน้ำไปก็ยังมองเห็นวิวธรรมชาติได้ตลอด

 

สังเกตจากสีและ Texture ของพรมปูพื้น วอลล์เปเปอร์ รวมทั้งโซฟา ชุดเก้าอี้ ที่โครงการใส่ใจเลือกแบบที่ใกล้เคียงกับความเป็นธรรมชาติ เช่น พรมปูพื้นที่มี Texture เหมือนวัสดุจักสานจากงานหัตถกรรมไทย รวมทั้งวอลเปเปอร์สีน้ำตาลอ่อนที่ล้อไปกับสีไม้ที่เลือกมาใช้ตกแต่งในส่วนอื่นๆ ด้วยเช่นกัน

 

นอกจากส่วนของที่พักแล้ว พื้นที่ส่วนกลางของที่นี่ก็จัดเต็มสมกับที่อยู่ภายในเครือเดียวกับโรงแรมชื่อดังระดับโลกมาพร้อมกับบริการระดับโรงแรม 5 ดาว ทั้งบาร์ สปา ภัตตาคาร ห้องประชุมจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ สระว่ายน้ำซึ่งมีทั้ง Hotel Main Infinity Pool และ Residence Main Infinity Pool การันตีได้ถึงความสนุกและมีความเป็นส่วนตัวสูงสุด

 

แม้จะมี 2 สระ แต่ก็เป็น 2 สระที่มีครบทุกฟังก์ชั่น ออกแบบมาให้เป็นสระแบบเล่นระดับล้อไปกับภูมิประเทศของพื้นที่จริง นอกจากจะเป็นการออกแบบให้ไม่ทำลายธรรมชาติแล้ว ยังเป็นการเพิ่มลูกเล่นให้กับสระว่ายน้ำให้มีมุมแบบ Infinity Pool หรือเป็นสระที่ไม่มีขอบมาขวางกั้น เสมือนว่าเชื่อมต่อกับท้องทะเลอันดามันอย่างไงอย่างงั้น

 

สิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยในช่วงเวลาของการพักผ่อนก็คือ สุนทรีย์ที่ได้จากการทานอาหารทั้งอาหารพื้นเมือง และเมนูฟิวชั่นที่คัดสรรวัตถุดิบมาอย่างสดใหม่... และก็ไม่ใช่ว่าทุกๆ วันจะต้องขับรถออกไปหาทานข้างนอก ที่สำคัญ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบดื่มด่ำบรรยากาศให้เต็มที่อย่างเราๆ แล้วละก็ การได้ทานเต็มที่ ดื่มจุใจ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการพักผ่อนโดนใจมากๆ...
 
และที่นี่ก็ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การพักผ่อนแบบนี้ด้วยพื้นที่ All-Day Dining โซนร้านอาหารที่ออกแบบมาให้มองเห็นวิวทะเลมุมสูง มองเห็นเกาะนาคาน้อยและเกาะนาคาใหญ่อยู่ลิบๆ ในสไตล์โมเดิร์น เลือกใช้ไม้เป็นตัวแทนของวัสดุจากธรรมชาติ นำมาทำเป็นระแนงบังแดดในมุมสูง ส่วนบริเวณระเบียงก็ติดกระจกใสเพื่อให้มองเห็นวิวทะเลได้แบบไม่จำกัด

 

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ส่วนกลางและบริการอย่าง Reception Lobby, Transfer Lobby, Juristic Person, ฟิตเนส รถ Shutter bus รับส่งลูกบ้านภายในโครงการ จากที่จอดรถไป Lobby พร้อมสวนหย่อมและบริการรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.

 

สิ่งสำคัญที่โครงการดูจะใส่ใจเป็นพิเศษก็คือ การเลือกใช้วัสดุเกรดพรีเมียม เน้นสีสันที่กลมกลืนเป็นธรรมชาติ เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกผ่อนคลายทั้งเวลาที่อยู่นอกโครงการและเวลาที่พักผ่อนอยู่ในพื้นที่ส่วนตัว

 

โดยวัสดุที่เลือกใช้หลักๆ ก็คือ ไม้ทั้งในส่วนพื้นระเบียงและส่วนตกแต่ง และใช้กระจกเฟรมอลูมิเนียมเพิ่มความโปร่งโล่งด้วยฝ้าเพดานสูง 2.70 เมตร พร้อมติดตั้งไฟดาว์นไลท์มาให้ครบ ซึ่งทุกส่วนมีความพิถีพิถันสุดๆ ด้วยรายละเอียดการเลือกใช้วัสดุดังนี้

 

•    ประตูห้องเป็นบานไม้เนื้อแข็งกรุวีเนียร์ พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอย่าง Digital Door lock ยี่ห้อ Vingcard ที่ประตูทางเข้า 


•    ประตูระเบียงและหน้าต่างเป็นบานกระจกเฟรมอลูมิเนียมทรงสูง


•    ห้องน้ำพื้นผนังเป็น Cotto Italia ผิวด้าน สุขภัณฑ์ใช้ของ Sana Thai และ Kohler

 

The Residences at Sheraton Phuket Grand Bay จึงเป็นอีกโครงการที่มีแนวคิดและรูปแบบที่กลมกลืนกับธรรมชาติเป็นอย่างดี พร้อมสรรพด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย พร้อมด้วยการเดินทางที่ไม่ยากจนเกินไป ถ้าอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศไปผจญภัยในโลกใต้น้ำหรือกิจกรรมแอดเวนเจอร์อื่นๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะอยู่ใกล้เกาะนาคาน้อย เกาะนาคาใหญ่ หรือจะข้ามฟากไปเที่ยวลัดเลาะโลกใต้น้ำฝั่ง จ.พังงา ก็สามารถไปได้ทั้งทางเรือและทางรถ

 

ไม่เพียงการพักผ่อนที่สะดวกสบายเท่านั้น The Residences at Sheraton Phuket Grand Bay มาพร้อมข้อเสนอพิเศษเพื่อให้คุณมั่นใจว่าการลงทุนครั้งนี้คุ้มค่า ด้วยราคาเริ่มต้น 9.27 ล้านบาท พร้อมส่วนลดพิเศษ

 


และ เพื่อให้คุณมั่นใจว่าการลงทุนครั้งนี้คุ้มค่า ทั้งสิทธิพิเศษในการเข้าพักโรงแรมภายในเครือ The Residences at Sheraton Phuket Grand Bay กับสิทธิพิเศษเข้าพักฟรี 30 คืนต่อปี ที่สำคัญ คุณสามารถขายต่อได้ทุกเวลาด้วยระบบการบริหารที่เป็นมาตรฐานสากล... ฟังแบบนี้จะซื้อไว้อยู่อาศัยเองก็คุ้มค่า จะซื้อไว้เกร็งกำไรก็คุ้มทั้งทุนและมีเกร็งกำไรได้ต่อเนื่องสำนักงานขาย : 061-413-6888

 

ทั้งสิทธิพิเศษในการเข้าพักโรงแรมภายในเครือ The Residences at Sheraton Phuket Grand Bay กับสิทธิพิเศษเข้าพักฟรี 30 คืนต่อปี ที่สำคัญ คุณสามารถขายต่อได้ทุกเวลาด้วยระบบการบริหารที่เป็นมาตรฐานสากล... ฟังแบบนี้จะซื้อไว้อยู่อาศัยเองก็คุ้มค่า จะซื้อไว้เกร็งกำไรก็คุ้มทั้งทุนและมีเกร็งกำไรได้ต่อเนื่อง

 

สำหรับโครงการนี้จะแล้วเสร็จในปี 2019 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่

 

สำนักงานขาย :  +66 (0) 61-413-6888

 

Email : phuketgrandbay@cbre.co.th

 

Website: www.phuketgrandbay.com

 

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจังหวัดภูเก็ต

 

แค่ฟังจากสมญานามที่ใครหลายคนตั้งให้ว่า “ไข่มุกแห่งอันดามัน” ก็พอจะการันตีได้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของ จ.ภูเก็ต ที่ไม่เพียงแค่มีธรรมชาติหาดทรายและโลกใต้ท้องทะเลที่สวยงามสมบูรณ์เท่านั้น...

 

แต่ภูเก็ตยังอุดมพร้อมไปด้วยประวัติศาสตร์ อารยะธรรม สะท้อนให้เห็นผ่านงานสถาปัตยกรรมพื้นเมืองอย่างชิโน-โปรตุกิส อาหารการกินที่มีลักษณะเฉพาะตัวที่เน้นไปทางอาหารจีน ดื่มชา-กาแฟ และทานติ่มซำเป็นมื้อเช้า ขณะที่อาหารใต้ก็ยังคงรสชาติจัดจ้านจนต้องยกนิ้วให้เพราะมัน “หรอยจังฮู้”

 

ไม่เพียงเท่านี้นะ... ภูเก็ตยังขึ้นชื่อเรื่องวัฒนธรรมพื้นเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่หาดูที่ไหนในโลกนี้ไม่ได้อีกแล้ว อาทิ วัฒนธรรมการแต่งงานบาบ๋า ที่แม้เวลาจะเปลี่ยนไป หลายๆ อย่างก็มีการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์ความสวยงามแบบดั้งเดิมไว้ได้ รวมทั้ง เทศกาลกินเจของภูเก็ตก็เป็นที่เลื่องลือขึ้นชื่อไปทั่วโลก สื่อและสำนักข่าวต่างประเทศก็ยกขบวนมาทำข่าวกันทุกปี

 

ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ภูเก็ตจะติดอันดับสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกจากการจัดอันดับของหลายๆ สำนัก อย่างเช่นล่าสุดในปี 2559 ก็ได้รับการจัดอันดับจากเว็บไซต์ Trip Advisor ให้เป็น “เกาะท่องเที่ยวยอดนิยมประจำปี 2016” อันดับ 8 ของโลก 

 

ซึ่ง Trip Advisor เป็นเว็บไซต์รวมข้อมูล คอมเม้นท์ และรีวิวจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ผลโพลนี้จึงเป็นประสบการณ์ตรงจากนักท่องเที่ยวตัวจริง เดินทางจริง รีวิวจากใจจริงๆ เรามาดูกันสิว่า... เหตุผลอะไรที่ทำให้ภูเก็ตติดอันดับฮอตฮิตได้ขนาดนี้

ภูเก็ต เป็นเกาะใหญ่เกาะเดียวของไทยที่มีฐานะเป็นจังหวัด ตั้งอยู่ในทะเลอันดามันในคาบสมุทรอินเดีย พื้นที่รวม 543 ตารางกิโลเมตร อยู่ใกล้กับ จ.พังงา ที่มีสะพานสารสินและสะพานเทพกษัตรีย์เชื่อมถึงได้ และยังมีสนามบินอยู่บนเกาะ ติดริมทะเล ถือเป็นสนามบินที่มีทิวทัศน์โดยรอบสวยงามมากๆ แห่งหนึ่ง

 

ซึ่งภูเก็ตแบ่งออกเป็น 3 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.กลาง และ อ.กระทู้ มีชายหาดทั้งหมด 36 ชายหาด มีหาดยอดนิยมที่เป็นที่กล่าวขานของนักท่องเที่ยวทั่วโลกอย่าง หาดป่าตอง หาดสุรินทร์ หาดกะรน หาดกะตะ และหาดในหาน ซึ่งทั้งหมดล้วนตั้งอยู่ในฝั่งตะวันตกของเกาะภูเก็ต

 

เพราะชายหาดฝั่งตะวันตกเป็นที่นิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวและนักกิจกรรม ทำให้บริเวณนี้พรั่งพร้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร กลุ่มนักท่องเที่ยว และเต็มไปด้วยกิจกรรมอันหลากหลาย... ทั้งกิจกรรมแอดเวนเจอร์บนบก ใต้น้ำ รวมทั้งการท่องเที่ยวเชิงศิลปะวัฒนธรรม

 

เกี่ยวกับอ่าวปอ

 

อ่าวปออยู่ห่างจากสนามบินภูเก็ตไม่เกิน 26 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางทางรถไม่เกิน 25 นาที หรือจะขับรถมาจากสะพานสารสินก็ประมาณ 33 กิโลเมตร เรียกได้ว่าเดินทางง่ายและอยู่ไม่ไกลการคมนาคมสายหลักมากนัก ที่สำคัญที่นี่ไม่ใช่เป้าหมายของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ทำให้พื้นที่บริเวณนี้จึงเต็มไปด้วยบรรยากาศอันสงบ น่าพักผ่อน ผนวกกับการมีถนนลัดเลาะไปตามชายหาดก็ยิ่งทำให้ที่นี่น่าเที่ยวและสวยงาม ริมหาดไม่มีร้านค้าหรือผู้คนพลุ่กพล่าน จึงมองเห็นวิวทิวทัศน์จากธรรมชาติได้อย่างจุใจ

 

คนในพื้นที่ส่วนใหญ่ยังมีวิถีชีวิตแบบเดิมคือทำประมง ทำสวนยาง เปิดกิจการธุรกิจเล็กๆ อย่างบ้านให้เช่า ร้านขายของเล็กๆ และเริ่มมีการแบ่งขายที่ดินบางส่วนให้กับนักลงทุนทำให้ที่ดินติดชายหาดส่วนหนึ่งตกไปอยู่ในมือนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

 

สังเกตได้จากการเริ่มมีสิ่งก่อสร้างเชิงพาณิชย์เปิดตัวบ้างประปราย บ้านเรือนของชาวบ้านบางส่วนที่เคยอยู่พื้นที่ดินย้ายไปอยู่ริมหาด มีห้องเช่าผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด มีการก่อสร้างโรงแรม รีสอร์ท ที่พัก ธุรกิจเรือข้ามฟาก ร้านอาหาร และท่าเทียบเรือ ฯลฯ 

 

นี่จึงเป็นสัญญาณที่ดีว่า แม้จะเริ่มมีนักลงทุนเข้ามาแต่ก็ยังเป็นช่วงเวลาที่ไม่มากเกินไป ราคายังสามารถพุ่งขึ้นไปได้อีก โดยจากการคาดการณ์ของศูนย์ข้อมูลและวิจัยประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2559 คาดว่าพื้นที่ภูเก็ตเป็นหนึ่งในทำเลที่ดินมาแรง มีอัตราการแข่งขันกันปรับราคาเทียบเท่าเชียงใหม่ โคราช ขอนแก่น ที่สำคัญจะมีโรงแรมและที่พักเปิดให้บริการใน จ.ภูเก็ต เพิ่มขึ้นภายในปี 2562

 

รวมประมาณ 5,000 ห้องหรือกว่า 32 โรงแรม ซึ่งส่วนใหญ่กว่า 90% เป็นแบรนด์ที่บริหารโดยบริษัทนานาชาติซึ่งมีทั้งโครงการใหม่และโครงการที่ขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นจากเดิม พื้นที่ป่าตองยังคงครองแชมป์เป็นพื้นที่ที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดทั้งในด้านปริมาณและราคา ซึ่งเมื่อ 12 ปีก่อนราคาเฉลี่ยที่ 20 ล้านบาท แต่ ณ วันนี้ราคาเพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่า หรือเฉลี่ย 100 ล้านบาทต่อไร่


ภาพของอ่าวปอในวันนี้จึงไม่ต่างอะไรกับภาพของป่าตองเมื่อหลายปีก่อน และก็เช่นกันว่าภาพในอนาคตของอ่าวปอก็ย่อมไปทิ้งห่างไปจากภาพของป่าตองในตอนนี้... 

 

 

>> ช่องทางในการติดตามข่าวสาร <<
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @livinginsider ที่นี่
livinginsider livinginsider