มิดทาวน์ สยาม “เอกลักษณ์การใช้ชีวิต” บนทำเลที่สมบูรณ์แบบ โดย LifeScape

ห้องประกาศ ขาย เช่า มิดทาวน์ สยาม ดูที่นี่..

เคยสงสัยไหมว่า... บนทำเลใจกลางเมืองที่แทบจะไม่เหลือที่ว่างให้จับจอง แต่วันดีคืนดีดันมีคอนโดหรูไฮเอนด์ผุดขึ้นมา!! เขาไปหาทำเลนี้มาได้ยังไง?? บอกเลยว่าเรื่องแบบนี้ “ฝีมือล้วนๆ” และหนึ่งในนั้นก็เป็นฝีมือของ “สยามนุวัตร” ซึ่งล่าสุดก็ทำเซอร์ไพร์สอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวคอนโดทำเลเพชรใจกลางเมืองอย่าง “มิดทาวน์ สยาม” ห่างจากสยามพารากอนแค่ 400 เมตร 

เกริ่นแบบนี้... หลายคนคงอยากจะรู้แล้วว่า ทำเลเพชรแห่งใหม่ที่สยามนุวัตรจัดให้อยู่ตรงไหน วันนี้เราจะพาไปเปิดห้องตัวอย่างของจริงให้ดูกันแบบเจาะลึกทุกซอกทุกมุม ซึ่งโครงการที่ว่าก็คือโครงการ วิช ซิกเนเจอร์ 2 มิดทาวน์ สยาม ปากซอยเพชรบุรี 20 ที่เราเคยพรีวิวทำเลที่ตั้งแบบละเอียดไว้แล้ว หาอ่านกันได้ที่ วิช ซิกเนเจอร์ 2 มิดทาวน์ สยาม

สำหรับใครที่สนใจแต่ยังไม่ได้จองอาจจะต้องรีบหน่อย เพราะได้ข่าวมาว่าตอนนี้ยอดจองมากกว่า 70% ทั้งๆ ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน วันนี้เราจะพาไปดูกันถึงที่เลยว่า ทำไมถึงได้รับความนิยมมากขนาดนี้ ??

สำหรับการเดินทางไป Sales Gallery ก็ไม่ยากเลย ใครถนัดขับรถก็สามารถขึ้นทางด่วนไปลงด่านเพชรบุรีแล้ววิ่งตรงขึ้นไปทางห้างแพลตตินั่มแค่ 1.7 กม. หรือจะนั่งรถไฟฟ้า BTS ไปลงสถานีราชเทวีแล้วต่อรถแท็กซี่หรือเดินไปอีกแค่ 350 เมตรก็จะถึงปากซอยเพชรบุรี 20

พอเลี้ยวเข้ามาในซอยเพชรบุรี 20 ปุ๊บก็จะเจอป้ายโครงการ วิช ซิกเนเจอร์ 2 มิดทาวน์ สยาม และมองเข้าไปก็เห็น Sales Gallery พอดี ซึ่งภายในก็มีห้องรับรองให้นั่งพักนั่งคุยสอบถามรายละเอียดได้อย่างสะดวกสบาย... เรียกว่าจะตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อก็อยู่ที่ความประทับใจแรกพบตรงจุดนี้นี่แหละ...

ซึ่งวันนี้ที่เราเข้าไปจะเห็นได้เลยว่าการออกแบบภายนอกอาคารของ Sales Gallery จะเหมือนกับการออกแบบโครงการจริงตั้งแต่ภายนอกสำนักงานขาย การออกแบบห้องรับรองที่ดูคลีนโปร่งนั่งสบาย... เรียกได้ว่าใส่ใจในทุกจุดกันเลยทีเดียว

เห็นไหมล่ะคะ... ว่าหน้าตาของ Sales Gallery ถอดแบบออกมาจาก Model ตัวอย่างโครงการเป๊ะๆ ซึ่งแค่มองจาก Model ตัวอย่างก็จะเห็นได้ถึงความโมเดิร์นของโครงการ ซึ่งตัวตึกจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนของที่จอดรถรองรับได้ 202 คัน ส่วนที่พักอาศัยทั้งหมด 333 ยูนิต เฉลี่ยชั้นละ 10-12 ยูนิต ส่วนชั้น 38-41 เป็นส่วนของ Lifestyle Pods 

สำหรับ Ultra Modern Luxury ที่ว่าเนี่ยเป็นแนวการออกแบบที่กำลังได้รับความนิยม แปลตรงๆ ก็คือ ไม่ใช่แค่เรียบ หรู อลังการเท่านั้น แต่ยังมีกลิ่นอายของความอบอุ่น เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เข้ากัน เน้นโทนสีเทา ดำ น้ำตาลเข้ม วัสดุที่มันวาว กระจกสแตนเลส เลือกใช้เฉพาะวัสดุชั้นยอดคุณภาพเยี่ยมที่สะท้อนรสนิยมและไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยให้โดดเด่นเกินใคร

จากภาพ Model ตัวอย่างก็จะเห็นแล้วว่า ตัวโครงการใช้กระจกและวัสดุที่มันวาวในโทนสีดังกล่าวอยู่เป็นจำนวนมาก เรียกว่าแทบจะทุกจุดเลยทีเดียว โดยเฉพาะหน้าต่างกระจกทรงสูงจากพื้นจรดเพดาน โทนสีเรียบๆ แต่ดูหรูหรา โครงสร้างตกแต่งดูทันสมัย แต่ถึงจะเรียบๆ แต่เรียบอย่างมีไสตล์

สังเกตดูจากรายละเอียดที่มีเส้นโค้งเส้นตรงซ่อนอยู่ในทุกจุด ส่วนตัววัสดุก็มีการใช้ทั้งกระจก อลูมิเนียม และหินควอทซ์เข้ามาเป็นลูกเล่น รวมถึงการปูพื้นถนนเข้าโครงการยังคุมโทนสีและวัสดุที่สอดคล้องกับสีของตัวคอนโดทั้งหมด สะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ของนักออกแบบในแนวนี้

บอกได้เลยว่าจุดเด่นนึงของโครงการ วิช ซิกเนเจอร์ 2 มิดทาวน์ สยาม ที่เราทึ่งมากๆ เพราะไม่ใช่ว่าคอนโดทั่วไปจะลงทุนทำถึงขนาดนี้นั่นก็คือ ระบบรักษาความปลอดภัยที่เริ่มตั้งแต่ประตูเข้าโครงการไปจนถึงประตูห้องของแต่ละห้องที่เลือกใช้ระบบประตูดิจิตอลล็อคมาตรฐานโลกอย่าง Yale Digital Door Lock

ซึ่งมีแค่โครงการระดับไฮเอนด์ไม่กี่โครงการเท่านั้นที่เลือกใช้ของดีๆ แบบนี้ โดยเฉพาะที่นี่ได้เลือกใช้ Digital Door Lock ที่สามารถปลดล็อคได้ถึง 4 แบบ ทั้งการสแกนลายนิ้วมือ ใช้คีย์การ์ด ตั้งรหัสผ่าน หรือใช้กุญแจ

แค่นี้ก็รู้สึกว่าปลอดภัยมากๆ แล้วนะ แต่เท่านั้นยังไม่พอ... พอสำรวจรอบๆ ประตูยังมีระบบ Door Communication แบรนด์ ABB ซึ่งเป็นระบบควบคุมบ้านอัจฉริยะ คอยสอดส่องดูแลเราอีกชั้น เมื่อมีคนมาหาก็สามารถกดเรียกจากใต้คอนโด

ส่วนเราที่อยู่ในห้องก็สามารถมองเห็นหน้าและสนทนากับคนข้างล่างและปลดล็อคประตูด้านล่างให้เขาขึ้นมาได้อีกด้วย หรือถ้าเราไม่อยู่บ้าน ระบบก็จะบันทึกรูปของคนที่มาหาไว้... สุดยอดมากๆ
ที่สำคัญ ทุกยูนิตจะได้รับการติดตั้งทั้ง 2 ระบบ รับรองอุ่นใจหายห่วง!!

ตามมาเลยค่ะ ตามเข้ามาสำรวจในห้องกันต่อ...

ห้องแรกที่จะพามาดูก็คือห้องแบบ 1 ห้องนอน ซึ่งพอเปิดประตูไปก็รู้สึกได้ถึงความสูงโปร่งของเพดานเหมือนกับที่โครงการได้โฆษณาว่าเพดานสูงจากพื้นถึง 3 เมตร มันโปร่งมากจนต้องถามว่านี่คือเหมือนของจริง จริงๆ เลยใช่ไหม??? จุดนี้ยืนยันเลยว่ามันโล่งดีจริงๆ

ไม่เพียงแค่ช่วยให้ห้องดูโปร่งเท่านั้น แต่ยังเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในแนวสูงให้คนที่มีสัมภาระเยอะได้บิวท์อินตู้เก็บของได้สูงขึ้นไปอีก สังเกตจากภาพด้านล่างตรงความสูงของหน้าต่างกระจกที่สูงจากพื้นไปจนถึงเพดาน เทียบกับขนาดเก้าอี้ดูก็จะรู้ว่าสูงจริงๆ

เมื่อเปิดประตูเข้ามา ขวามือจะเป็นส่วนพื้นที่ครัว ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ ซึ่งโครงการจะมีบิวท์อินส่วนครัวและสุขภัณฑ์ในห้องน้ำแถมให้มาด้วย แต่อย่าเรียกว่าของแถมเลย เพราะราคาและคุณภาพดีเกินกว่าจะเป็นของแถม

ด้วยวัสดุชั้นดีที่เลือกมาทั้งตู้บิ้วท์อินที่มีชั้นเก็บของไว้เก็บของใช้เครื่องครัวมากมาย ชั้นสำหรับวางเตาอบหรือไมโครเวฟ ที่วางตู้เย็นขนาดใหญ่ มาพร้อมกับเตาไฟฟ้าดิจิตอล Electrolux 2 หัว และอ่างล้างจานวัสดุเกรดพรีเมี่ยม ที่สำคัญอ่างลึกมากช่วยป้องกันน้ำกระเด็นเลอะเทอะได้ดีทีเดียวล่ะ

อีกจุดที่ชอบมากๆ สำหรับแม่ครัวมือสมัครเล่นอย่างเราๆ ก็คือท๊อปเคาน์เตอร์และผนังที่ทำมาจากหินควอทซ์ วัสดุคุณภาพสูง สวยและทันสมัย ป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี ที่สำคัญ เวลาน้ำมันหรืออาหารกระเด็นเลอะเทอะก็เช็ดออกง่ายดาย ช่วยให้ครัวดูสวยใหม่อยู่เสมอ

ส่วนห้องน้ำก็มีทางเข้าออก 2 ประตู คือจะเข้าจากด้านนอกฝั่งห้องนั่งเล่นก็ได้ หรือจะใช้เป็นห้องน้ำส่วนตัวเปิดกลับเข้าห้องนอนได้โดยไม่ต้องเดินผ่านห้องนั่งเล่นก็ได้ สุขภัณฑ์ทั้งหมดเลือกใช้แบรนด์พรีเมียมจากเยอรมนีที่เหมาะกับการใช้งานหนักได้จริงจริง ทั้งชักโครกขนาดใหญ่ คนตัวใหญ่ไซส์ XL นั่งได้สบายๆ อ่างล้างหน้าแบบลอยตัวช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่าย พร้อมบิ้วท์อินตู้หลังกระจกสำหรับเก็บอุปกรณ์ต่างๆ

แยกโซนเปียกออกอย่างเป็นสัดส่วนกั้นด้วยกระจกอย่างหนา และที่เด่นสะดุดตาแค่เห็นก็ฟินแล้วก็คือ หัวฝักบัวขนาดใหญ่มาพร้อมกับหัวฝักบัวขนาดปกติพร้อมระบบควบคุมแรงดันน้ำ 

ทั้งหมดทั้งมวลนี้คือสุขภัณฑ์แบรนด์เยอรมนี ภายในห้องน้ำบุผนังและพื้นด้วยวัสดุทำความสะอาดง่าย รองรับการใช้งานจริง พูดตรงๆ เลยนะ เท่าที่ไปเคยเห็นมาส่วนใหญ่บางโครงการจะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับห้องน้ำเท่าไร ชักโครกก็บางมาก บางจนกลัวว่านั่งแล้วจะแตก แต่สำหรับที่นี่ ห้องน้ำกลับดูผ่อนคลาย ยิ่งพื้นผิวแบบนี้ก็ยิ่งทำความสะอาดง่าย ช่วยลดปัญหาเรื่องเชื้อราและกลิ่นอับได้เยอะ

มาต่อกันที่ห้องนอน... ที่ออกแบบผังห้องมาให้เราสามารถเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้อย่างคุ้มค่าทั้งมุมแต่งตัว ตู้เสื้อผ้า และเตียง โดยเฉพาะสาวๆ ที่มีเสื้อผ้าและของใช้จุกจิกเยอะแยะ แนะนำเลยว่าให้ทำตู้เสื้อผ้าบิวท์อินสูงจากพื้นจรดเพดาน เพื่อเพิ่มช่องเก็บของซ่อนไว้ในตู้ทั้งหมดพียงเท่านี้ห้องก็ไม่รกแล้ว ซึ่งห้องตัวอย่างที่โครงการออกแบบมาก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ขอแนะนำ เพราะกระจกช่วยทำให้ห้องดูกว้างและโมเดิร์นมากๆ 

ซื้อคอนโดทำเลใจกลางมิดทาวน์สยามทั้งที... ก็ต้องมีมุมชมวิวฟินๆ ในห้องนอน ซึ่งที่นี่ออกแบบผังห้องให้ทุกห้องมีมุมชมวิวในองศาที่ต่างกัน ใครอยากได้มุมทิศเหนือใต้ออกตก... ก็เลือกกันได้ตามใจชอบ จุดเด่นหนึ่งของการออกแบบในสไตล์ Ultra Modern Luxury

ก็คือการเลือกใช้กระจกเป็นองค์ประกอบหลักของทั้งอาคาร โดยเน้นกระจกทรงสูงที่มองวิวได้โดยรอบ สามารถจัดเป็นมุมทำงานก็ได้ หรือจะปล่อยพื้นที่โล่งรับวิวเต็มๆ ก็ดีไปอีกแบบ 

ห้องนั่งเล่นที่มีพื้นที่กว้างขวางจะจัดเป็นมุมบันเทิงดูหนังฟังเพลงโดยเฉพาะหรือจะเพิ่มมุมทำงานเข้าไปอีกก็ยังพอมีพื้นที่เหลือเฟือ และแม้ว่าคอนโดนี้จะไม่มีระเบียงแต่ก็ได้เพิ่ม Yard หรือพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์เข้าไปสำหรับใช้ซักล้างเล็กๆ น้อยๆ  วางคอมแอร์ หรือตากผ้าในร่ม

โดยตกแต่งด้วยระแนงเหล็กสไตล์โมเดิร์น แต่ก็มีข้อดีตรงที่ไม่ได้ปิดทึบ มีบานพับที่เปิดปิดรับแสงได้... ก็อย่างว่าแหละ คนอยู่คอนโดระดับนี้แล้วก็คงไม่มีใครคิดจะซักผ้าห่มผ้านวมเองแน่นอน ฉะนั้น ถ้าไม่ได้ใช้ Yard เพื่อเป็นลานซักล้างก็อาจจะเปลี่ยนโซนนี้ให้เป็นโซนนั่งเล่นพักผ่อนอีกจุดก็ยังได้

เขยิบราคาขึ้นมาอีกกับห้องขนาด 2 ห้องนอน ที่มีฟังก์ชั่นคล้ายกับแบบแรกแต่เพิ่มประโยชน์ใช้สอยและมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว กับ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ห้องครัวและห้องนั่งเล่นกว้างขวางขึ้น ที่สำคัญห้องนอนทั้ง 2 ห้องมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นโดยใช้ห้องนั่งเล่นคั่นกลาง 

มาเริ่มกันที่โซนห้องครัวที่โครงจะแถมตู้บิ้วท์อิน เตาไฟฟ้า อ่างล้างจาน ให้ทุกยูนิต ซึ่งเป็นตู้บิ้วท์อินเข้ามุมขนาดใหญ่เตาไฟฟ้าดิจิตอลแบบ 4 หัว อ่างล้างจานและท๊อปเคาน์เตอร์และผนังที่ทำมาจากหินควอทซ์ ถ้าใครชอบห้องโล่งๆ อาจเลือกใช้โต๊ะอาหารที่ออกแบบให้พับซ่อนเก็บไว้ก็ได้ แต่จากที่ดูด้วยสายตา พื้นที่ขนาดนี้กว้างมากพอที่จะวางโต๊ะอาหาแบบนั่ง 4 คน ได้สบายๆ

เมื่อหันหลังให้ห้องนั่งเล่นก็จะมองเห็นห้องครัวแบบชัดเจนเลยว่าพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้นมากจริงๆ ส่วนขวามือจะเป็นห้องนอนและห้องน้ำเล็ก

ห้องน้ำเล็กที่ไม่เล็กเลย... เพราะมีพื้นที่ใช้สอยและสุขภัณฑ์แบรนด์เยอรมนีแบบจัดเต็ม แบ่งโซนแห้งและเปียกด้วยกระจกกั้นพร้อมประตูกระจกที่ติดตั้งอย่างดี ผนังบุด้วยกระจกที่ซ่อนตู้บิ้วท์อินไว้ด้านหลังเต็มพื้นที่ตามความกว้างของห้องน้ำ ด้วยวัสดุกระจกที่เลือกใช้ช่วยให้ห้องน้ำดูโปร่ง

ถัดจากห้องน้ำเล็กก็เป็นห้องนอนเล็กที่เห็นวิวมุมสูงของกรุงเทพแบบจัดเต็ม กับกระจกทรงสูงจรดเพดานบานใหญ่ หรือถ้าใครจะซื้อห้องขนาด 2 ห้องนอนแต่ไมได้ใช้ห้องนี้เพื่อนอน ห้องนี้ก็สามารถแปลงเป็นห้องทำงานแบบเจ๋งๆ ได้เหมือนกัน

มาต่อกันที่ห้องนอนและห้องน้ำใหญ่กันเลยดีกว่า... เมื่อเดินมาจากห้องนั่งเล่นจะเจอประตูออกไป Yard ซ้ายมือจะเป็นห้องนอน ขวามือเป็นห้องน้ำ ซึ่งทางตรงกลางนี่เองสามารถแปลงร่างเป็น Walk-In Colset ขนาดย่อมได้

เหมาะสำหรับสาวๆ ที่ต้องการพื้นที่แต่งตัวขนาดใหญ่ มีเสื้อผ้าเยอะ หรือถ้าอยู่เป็นคู่จะแบ่งกันคนละตู้ก็ยังโอเคอยู่ แต่สำหรับสาวๆ อย่างเราแล้ว Walk-In Closet คือที่สุดแห่งความฟิน สวรรค์เล็กๆ ของแฟชั่นนิสต้าตัวยง

นอกจากตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่แล้วภายในห้องนอนใหญ่ยังสามารถวางเตียงใหญ่และโต๊ะทำงานขนนาดย่อมได้อีก 1 ตัว และมีพื้นที่อีกเล็กน้อยเพื่อจัดวางของตกแต่งและทำตู้บิ้วท์อิน... และอีกจุดที่ชอบมากๆ ก็คือหน้าต่างบานสูงที่มองเห็นวิวกรุงเทพในยามค่ำคืนได้นี่แหละ ไม่ว่าคุณจะนอนห้องไหนมุมไหนก็ฟิน

ห้องน้ำเล็กก็ว่าจัดเต็มแล้วนะ มาเจอห้องน้ำใหญ่นี่รู้สึกว่าคุ้มค่ากับราคามากๆ เพราะนอกจากจะใช้สุขภัณฑ์แบรนด์นอกแล้ว ยังเพิ่มฟังก์ชั่นอ่างอาบน้ำมาให้พร้อมกับฝักบัวขนาดใหญ่อีกด้วย On Top แล้ว On Top อีก... ดูไปดูมาก็เหมือนนอนโรงแรมหรูๆ เข้าไปทุกที

ส่วน Yard ก็มีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขึ้น ดูไปดูมาก็เหมือนได้ห้องเก็บของเพิ่มขึ้นอีก 1 ห้อง แต่ด้วยโครงสร้างระแนงเหล็กสไตล์โมเดิร์นและการปูพื้นที่ดูดีเกินกว่าจะเป็นห้องเก็บของก็อาจจะทำเป็นพื้นที่ใช้สอยอื่นๆ ได้อีกนะ

มาถึงห้องสุดท้ายคือห้องนั่งเล่น... ที่ยังคงจุดเด่นเรื่องวิวมุมสูงและพื้นที่ที่กว้างขวาง สมราคาคุยสมกับเป็นโครงการที่อยู่ใจกลางมิดทาวน์สยาม กินขาดก็ตรงวิวมุมสูงนี่แหละ

เมื่อเทียบภาพ Perspective จากตอนที่เปิดตัวโครงการใหม่ๆ กับห้องตัวอย่างที่เปิดให้ชมแล้ววันนี้ ก็แทบจะไม่มีอะไรแตกต่างกัน คือ ทำภาพจำลองออกมาสวยยังไง ของจริงก็สวยยังงั้นเลย ทำให้นึกถึงจุดไฮไลท์ของโครงการอย่าง Lifestyle Pods ที่มีภาพตัวอย่างออกมาให้ชมที่สวยมาก เชื่อมือสยามนุวัตรเลยว่าทำของจริงออกมาสวยแน่นอน... 

มาตอกย้ำพื้นที่ส่วนกลางกันอีกสักรอบกับโซน Lifestyle Pods ชั้น 38-41 ได้แก่

ชั้น 38 Pool Pods สระว่ายน้ำลอยฟ้ารูปตัวยูขนาดใหญ่สามารถมองทัศนียภาพรอบๆ คอนโดได้แบบ 360 องศา

ชั้น 39 Body and Mind Pods ฟิตเนส ห้องโยคะและ Boxing Stage

ชั้น 40 Chill and Work Pods พื้นที่สำหรับผ่อนคลายและการทำงานที่เป็นส่วนตัว

ชั้น 41 Sky Pod พื้นที่สำหรับสังสรรค์ สนามบาสเกตบอล และทำกิจกรรมอื่นๆ ฯลฯ

และถ้ามองจากมุมสูงก็จะเห็น SKY PODS หรือชั้นดาดฟ้าที่เปิดโล่งมีทั้งสนามบาสเกตบอลและพื้นที่สังสรรค์ทำกิจกรรมได้หลากหลาย รวมทั้งตัว POOL PODS ที่เปิดโล่งมองขึ้นมาเห็นท้องฟ้าด้านบนได้

POOL PODS ในชั้น 38 กับสระว่ายน้ำรูปตัว U ขนาดใหญ่ที่เปิดโล่งให้เห็นวิวกรุงเทพได้ 270 องศา

BODY & MIND PODS ในชั้น 39 ที่มีพื้นที่ให้ยืดเส้นยืดสายพักผ่อนกายใจได้อย่างเต็มที่กับโซนฟิตเนส ห้องโยคะและ Boxing Stage

CHILL & WORK PODS จะคุยงานทั้งทีก็คงไม่ต้องไปคุยที่ไหนไกล เพราะที่นี่มี Co-Working Space ที่ออกแบบอย่างมีสไตล์เติมเต็มทุกจินตนาการอย่างไร้ขอบเขต 

ดูไปดูมาบอกเลยว่าอยากให้มีห้องตัวอย่างของ Lifestyle Pods ออกมาให้ชมกันจริงๆ... ใครที่สนใจก็คงต้องรีบไปดูกันซะแล้ว อย่างที่บอกว่ายอดจองตอนนี้มากกว่า 60% มีทั้งกลุ่มคนวัยทำงาน นักธุรกิจ นักลงทุน พ่อแม่ผู้ปกครองที่ซื้อไว้ให้ลูกหลาน ส่วนชาวต่างชาติก็มีบ้างประปราย

สำหรับใครที่ห่วงว่าโครงการนี้จะมีต่างชาติขวักไขว่... ทางโครงการแอบกระซิบมาว่า “มีการสกรีนลูกค้าให้ในระดับนึง” ถ้าเป็นจริงแบบนี้ก็คงจะดี เพราะนอกจากจะขายความหรูหราและทำเลที่โดดเด่นแล้ว 

สิ่งสำคัญที่ลูกบ้านต้องการก็คือ คุณภาพชีวิตที่ดีสมกับราคานั่นเอง 

สำหรับใครที่อยากชมห้องตัวอย่างก็แวะเวียนกันไปได้ที่ ซอยเพชรบุรี 20 วิช ซิกเนเจอร์ 2 มิดทาวน์ สยาม ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 1 ปี 2563 และคาดว่าแล้วเสร็จปลายไตรมาส 3 ปี 2565

ราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท* เฉลี่ย 230,000 บาท/ตร.ม.

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

สนใจดูห้องตัวอย่างได้แล้ววันนี้หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...

080-001-8899
080-001-9988

Website https://www.siamnuwat.com/โครงการ/วิชซิกเนเจอร์IIมิดทาวน์สยาม