Chapter One Midtown ออกไปแตะขอบฟ้า...ที่ลาดพร้าว 24

Chapter One Midtown

ออกไปแตะขอบฟ้า...ที่ลาดพร้าว 24

ห้องประกาศซื้อ-ขาย Chapter One Midtown ลาดพร้าว 24

คลิ๊กที่นี่

สำหรับคนที่คลุกคลีอยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ หลายคนจะรู้และมีข้อมูลว่าปัจจุบันคอนโดย่านไหนราคาเท่าไหร่อยู่แล้ว เพราะอ่านและศึกษาข้อมูลอยู่ตลอด แต่เชื่อมั้ยครับ สำหรับคนทั่วไป เวลาเขาจะหาซื้อคอนโด เขาแทบไม่รู้ข้อมูลเหล่านี้เลย ดังนั้นบางครั้งเราจึงมักจะพบคำถามที่เหมือนจะไม่รู้อะไรเลย จากคนเหล่านี้อยู่ในห้องเว็บบอร์ดต่างๆประจำ อย่างเช่น

อยากได้คอนโดใกล้รถไฟฟ้าช่วยแนะนำหน่อย ?

พอมีคนไปตอบหรือเสนอห้องให้กับเจ้าของกระทู้ เจ้าของกระทู้ก็มักจะไม่สนใจและมีเงื่อนไขกลับมาอีก ประมาณนี้...

"ไกลไปหน่อย ขอในเมืองหน่อยค่ะ"

"ห้องเล็กไปหน่อยค่ะ อยากได้ใหญ่กว่านี้"

"ไกลรถไฟฟ้าไปหน่อย มีแบบไม่ต้องต่อรถมั้ยคะ"

"มีแบบที่เป็นตึกสูงมั้ยคะ ไม่ชอบแบบ 8 ชั้น "

"เอาแบบที่เสร็จแล้ว มีมั้ยคะ อยากเข้าอยู่เลยค่ะ"

"เก่าไปหน่อยค่ะ ไปดูมาแล้ว"

ผมเชื่อว่า คนที่ได้เสนอห้องหรือแนะนำไป พอเห็นเงื่อนไขต่างๆแล้ว แทบจะอยากไปคอมเม้นท์ว่า ทำไมไม่บอกเงื่อนไขให้หมดตั้งแต่แรก

ถ้าคุณอยากให้ใครซักคนที่มีความรู้ช่วยแนะนำให้ มันจะต้องมีรายละเอียดหน่อยครับ ถ้าคุณถามแค่ "ช่วยแนะนำคอนโดใกล้รถไฟฟ้าให้หน่อย ? " คำตอบที่ได้อาจไม่ถูกใจคุณครับ เพราะมันจะกว้างมากๆ

การจะเลือกซื้อคอนโดมันไม่ได้มีแค่งบประมาณครับ มันมีเงื่อนไขมากกว่านั้นเยอะ สิ่งที่ควรให้ข้อมูลเพิ่มเติม ควรมีดังนี้

1. งบประมาณเท่าไหร่

2. เอาตึกสูงหรือตึกเตี้ย

3. เอาแบบผ่อนดาวน์หรือเอาแบบเสร็จแล้ว

4. ใกล้รถไฟฟ้าได้แค่ไหน ต่อรถพอได้มั้ย

5. ชอบไลฟ์สไตล์ย่านไหน

6. ขนาดห้องกี่ตร.ม.

คำถามฮิตที่ทีมงานมักได้รับ inbox จากแฟนเพจเข้ามาบ่อยๆคือ "ช่วยแนะนำคอนโดใกล้รถไฟฟ้าราคา 3-4 ล้านบาทให้หน่อย" เมื่อเราได้ถามเงื่อนไขต่างๆเพิ่มเข้าไป ดังหัวข้อที่กล่าวไว้ด้านบน เราจะพบคำตอบประมาณนี้

งบ - ราคาประมาณ 3-4 ล้าน

เป็นตึกสูง - ส่วนใหญ่ชอบเพราะดูหรูกว่าตึกเตี้ย

คอนโดใหม่ - อายุไม่เกิน 1 ปีหรือพึ่งสร้างเสร็จยิ่งดี ส่วนมากอยากได้พร้อมอยู่

ใกล้ๆรถไฟฟ้า - ระยะไม่เกิน 150 เมตร ส่วนใหญ่ขี้เกียจต่อรถและไม่อยากเข้าซอยเพราะกลัวอันตราย

อยู่ในเมือง - หาของกินง่ายๆ ใกล้ห้าง

ขนาดห้อง - 1 ห้องนอนประมาณ 30 ตรม.ขึ้นไป

คงมีคนคิดว่า หาไม่ยากหรอก คอนโดขายกันเต็มไปหมด แต่ผมรับรองได้ว่า พอคุณได้ลองหาข้อมูลจริงๆ ตามเงื่อนไขข้างบน คุณจะหาได้แค่ไม่กี่ที่เองครับ

ถ้าเอาตามเงื่อนไขดังกล่าว แล้วลองมาหาดู คุณเชื่อมั้ยครับ ว่ามันกลายเป็นคอนโด...

Chapter one Midtown ลาดพร้าว 24 

จริงดิ ???

ดูเหมือนผมเขียนบทความนี้เพื่อเข้าข้างคอนโดนี้ แต่ถ้าคุณไปไล่ดูจริงๆตามเงื่อนไขแต่ละข้อด้านบน คุณก็จะพบว่ามันมาลงที่คอนโดนี้เหมือนผมนั่นแหละ ถ้ามีที่อื่นก็ลองแนะนำกันมาได้ครับ

อยากรู้ต้องลองหาดูเองครับ คุณลองไปหาคอนโดใหม่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS ย่านในเมือง คุณจะพบว่าปัจจุบันราคาห้องจะอยู่ที่ประมาณ 5 ล้านขึ้นไป ถ้ามีถูกกว่าก็มักจะเป็นห้อง Studio ที่มีขนาดไม่ถึง 30 ตารางเมตรครับ หรือเป็นคอนโดที่เก่าแล้วครับ

หลายคนบอกในเส้น MRT แถวรัชดา-พระราม 9 มีราคาแบบนี้เยอะ ไม่ได้มีแค่ที่นี่หรอก

ราคาแบบนี้น่ะมีครับ ผมไม่เถียง แต่เก่าครับ...ถ้าไม่เก่าก็ยังสร้างไม่เสร็จ... ไม่ก็ไกลรถไฟฟ้าเกิน 150 เมตร... ไม่ก็เล็กไป... ไม่ก็เข้าซอยลึก... ไม่มีทีไหนได้ครบทุกข้อเหมือน Chapter one Midtown ครับ ไม่เชื่อลองหากันดูครับ

พูดมาเยอะไปแล้ว เดี๋ยววันนี้ผมจะพาไปดูของจริงกันเลยครับ ตัวโครงการตั้งอยู่ระหว่างซอยลาดพร้าว 24 และซอยลาดพร้าว 26  ใกล้ๆแยกรัชดาตัดลาดพร้าว (ฝั่งที่มุ่งหน้าไปห้าแยกลาดพร้าว) 

พิกัดแผนที่ คลิกดูที่ลิ้งค์นี้

https://goo.gl/maps/BmDspjhqYs82

โดยมีระยะห่างจากรถไฟฟ้าสถานีลาดพร้าวเพียงประมาณ 100 เมตร ออกมาจากรถไฟฟ้าก็เห็นคอนโดเลย ถือว่าเดินกำลังสบายครับ

นอกจากจะใกล้รถไฟฟ้า MRT แค่ 100 กว่าเมตรแล้ว ในอนาคตตรงสถานีลาดพร้าวนี้ยังเป็น Interchange เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองอีกด้วย

เชื่อมต่อกับอาคารจอดรถสถานีลาดพร้าว

โดยรถไฟฟ้าสายสีเหลืองนี้จะวิ่งจากแยกรัชดา-ลาดพร้าว ไปตามถนนลาดพร้าว-พัฒนาการ-ศรีนครินทร์ และไปสิ้นสุดที่สำโรง ซึ่งสำหรับคนที่ต้องเดินทางไปทำงานแถวนั้นก็จะสะดวกขึ้นอีกมาก โดยตามแผนมีกำหนดสร้างเสร็จปี 2563

คอนโดนี้เป็นคอนโดติดถนนใหญ่นะครับ สำหรับผู้ปกครองที่ต้องการซื้อให้บุตรหลานหรือที่ต้องการให้คนที่คุณรักมีความปลอดภัยจากการเดินทาง ที่นี่ค่อนข้างปลอดภัยครับเพราะตลอดเส้นทางมีคนสัญจรพลุกพล่านตลอด

แฟนเพจหลายคนถามเข้ามาประจำ โดยเฉพาะการจะหาซื้อให้ลูกหลาน บางคนเตรียมเรียนจุฬาฯ บางคนเตรียมเรียนมศว. เค้ารู้นะครับว่าคอนโดใกล้ๆมหาวิทยาลัยเลยก็มี แต่ราคาสู้ไม่ไหวครับ ส่วนใหญ่ผมเลยแนะนำที่นี่ไป เพราะจากสถานีลาดพร้าวไปถึงสถานีสามย่าน (จุฬาฯ) ใช้เวลาแค่ 25 นาทีเองนะครับ

สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว หลายคนบอกว่าลาดพร้าวรถติดมาก ใช่ครับลาดพร้าวรถมันติดจริงๆ แต่ก็ไม่ใช่ทุกจุดนะครับส่วนใหญ่จะติดบริเวณจากแยกรัชดาลาดพร้าวมุ่งหน้าไปบางกะปิ

ส่วนฝั่งของคอนโด Chapter one Midtown นี้จะเป็นเส้นที่อยู่จากแยกรัชดาลาดพร้าวมุ่งหน้าไปทางห้าแยกลาดพร้าว ตรงเส้นนี้จะไม่ค่อยติดนะครับ ไปได้เรื่อยๆครับ (จากภาพคุณจะเห็นว่าฝั่งคอนโด รถจะโล่งกว่า)

นอกจากนี้ถนนฝั่งนี้จะมีซอยเชื่อมต่อกันภายในซึ่งสามารถใช้เป็นทางลัดได้หลายเส้นทาง เพราะมีทางลัดเชื่อมต่อถนนรัชดาภิเษก วิภาวดีและลาดพร้าว ไม่ว่าจะเข้ามาจากวิภาวดีหรือเข้ามาจากรัชดาซอย 19 คุณก็สามารถเดินทางมาที่คอนโดได้หมด และยังสามารถใช้จุดขึ้นลงทางด่วนดินแดง บริเวณถนนวิภาวดีได้ด้วย

ส่วนเรื่องความอุดมสมบูรณ์และไลฟ์สไตล์แถวนี้ เรียกได้ว่ามีให้ครบเกือบหมดทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น เซ็นทรัลลาดพร้าว, Union Mall, บิ๊กซี ทั้งหมดอยู่ห่างจากคอนโดไม่เกินรัศมี 2 กม. ทั้งหมด

เดี๋ยวเราเข้าไปดูโครงการกันบ้างดีกว่าครับ Chapter one Midtown ลาดพร้าว 24 ถือเป็นคอนโดแรกๆที่นำแนวคิด NewYork Soft Loft มาผสมผสานแบบจริงจัง

ตัวคอนโดจะเห็นชัดเจนว่ามีการมีการตกแต่งด้วยอิฐส้มและเหล็ก ซึ่งจะให้ความรู้สึกเท่ห์แบบดิบๆ น่าจะถูกใจชาว Hipster Gen C ยุคนี้หลายคน ที่ส่วนใหญ่เป็นวัยทำงานหรือไม่ก็กำลังเป็นนักศึกษาอยู่

ที่นี่จะมี 2 อาคารคือ ตัวอาคารพักอาศัยและอาคารจอดรถ อาคารพักอาศัยที่เราเห็นอยู่นี้เป็นอาคารสูง 37 ชั้น มี 514 ยูนิตและร้านค้า 3 ยูนิต

พื้นที่ของร้านค้าที่ว่า ทำไว้ค่อนข้างเยอะเลยครับ ผมว่าในอนาคตร้านค้าที่อยู่ตรงนี้จะทำให้ลูกบ้านสะดวกสบายมากๆ โดยเฉพาะร้านแรกที่เป็น Shop ใหญ่แบบ Double Volume ถ้ามีร้านกาแฟเท่ๆสักร้านมาลง เวลาเพื่อนๆแวะมาหาคงได้ใช้พื้นที่ตรงนี้เป็นที่นั่งคุยกันชิลๆอย่างดีเลยครับ

ผมเชื่อว่าตรง Shop นี้แหละจะเป็นจุดขายอีกจุดนึงที่ทำให้คอนโดนี้ และเป็นแม่เหล็กดึงดูดหาคนซื้อและเช่าได้ง่ายๆและจะเพิ่มมูลค่าของคอนโดในอนาคตได้อีกด้วย ไม่ใช่แค่ Shop ตรงนี้นะครับ ด้านในยังมีอีก 2 Shop ซึ่งอาจจะเป็น Laundry หรืออื่นๆ ช่วยเพิ่มความสะดวกสะบายได้อีก

สำหรับคนที่สนใจทำธุรกิจ Shop นี้ทางพฤกษาเค้าขายด้วยนะครับ ไม่ได้ขายแต่ส่วนของคอนโด ผมมองว่าตำแหน่ง Shop ตรงนี้ค่อนข้างดีมาก เพราะอยู่หน้าคอนโดเลย นอกจากจะได้ลูกค้าจากผู้พักอาศัยในคอนโดจำนวนมากแล้ว ยังจะได้ลูกค้าจากภายนอกคอนโดด้วย ที่สำคัญการที่ Shop นี้เป็นสไตล์ Loft แบบ Double Volume ยิ่งทำให้ถ้าแต่งออกมาดีๆจะดูเท่มากๆครับ

ใครสนใจก็ลองติดต่อโครงการได้เลยครับ ราคาไม่แพงเท่าไรครับ ตารางเมตรละประมาณ 140,000 บาท พื้นที่รวมประมาณ 177.51 ตร.ม. ครับ

ส่วนของอาคารจอดรถจะเป็น อาคารสูง 7 ชั้น อยู่ด้านหลังอาคารที่พักอาศัยนะครับ  ตัวอาคารจอดรถ ถือเป็น Facility อีกอย่างหนึ่งที่ไม่ค่อยมีคอนโดไหนมีกันด้วยครับ เดี๋ยวดูส่วนอื่นเสร็จจะพามาดูที่หลังนะครับ

มาดูส่วน Lobby กันก่อน อย่างที่บอกไปครับว่าแนวคิดในการออกแบบที่นี่มาจากสไตล์ NewYork Soft Loft  ดังนั้นในส่วนของ Lobby ก็มีกลิ่นอายแนว Loft อยู่ด้วย

Lobby เป็นแบบ High Ceiling สูง 10 เมตร มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง นั่งกันได้หลายคนเลยครับ

บรรยากาศกลางคืน

ถ้าลองสังเกตดูดีจริงๆ การตกแต่งค่อนข้างจะมีรายละเอียดเยอะเลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟ  การตกแต่งผนัง ต้นไม้ รวมถึงชุดโต๊ะเก้าอี้ ที่นำมาใช้ถือว่าเข้ากันได้ดีมากครับ

ขนาดห้องตู้จดหมายยังเท่เลยครับ

บรรยากาศกลางคืน

การเข้าสู่ชั้นพักอาศัยใช้ระบบคีย์การ์ด ซึ่งจะต้องผ่านประตูเพื่อเข้าสู่โถงลิฟท์ก่อน และยังต้องใช้คีย์การ์ดแตะอีกครั้งในลิฟท์ (ระบบลิฟท์ล็อคชั้น) เพื่อไปยังชั้นที่ต้องการถือว่าเป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่ค่อนข้างดีเลยครับ แบบนี้ถ้าไม่ใช่ผู้พักอาศัยตัวจริงค่อนข้างจะเล็ดลอดเข้าไปได้ยาก

ก่อนพาไปดูห้องตัวอย่าง ผมขอพามาดู Facility ก่อนครับ ได้ยินมาว่าคนไปมาแล้วชมกันว่าของเค้าสวยจริงๆ โดย Facility ที่นี่จะอยู่ที่ชั้น 36 และ 37  ซึ่งถือเป็นชั้นสูงสุดของคอนโดนี้ครับ ซึ่งข้อดีของคอนโดที่ยกสิ่งอำนวยความสะดวกมาไว้บนชั้นดาดฟ้าแบบนี้ จะทำให้คุณได้เสพวิวสวยๆไปพร้อมกับการใช้งานไปด้วยด้วยครับ

ผมพามาดูที่ชั้น 37 กันก่อนครับ ชั้นนี้ประกอบด้วย โฮมเธียเตอร์, Sky Terrace, Sky Fitness และ ยังมีส่วนห้องเอนกประสงค์เอาไว้มานั่งเล่นหรือนั่งอ่านหนังสือได้ครับ

ห้องเอนกประสงค์ เอาไว้มานั่งเล่นหรือนั่งอ่านหนังสือก็ได้ครับ

โฮมเธียเตอร์ ห้องใหญ่เลยครับ มานั่งดูกันได้หลายคนเลย พร้อมผังเก็บเสียง ช่วยเพิ่มอรรถรสในการดูหนังได้เต็มที่

Sky Fitness ถ้าคุณได้ออกกำลังกายและดูวิวแบบนี้ไปด้วย ผมว่าหลายคนคงออกกำลังกายเพลินแน่ๆครับ

Sky Terrace  ขึ้นมานั่งดูวิวพร้อมจิบเบียร์ตรงนี้คงฟินสุดๆ

ลงมาดูชั้น 36 ที่เป็นไฮไลต์ของที่นี่กันเลยครับ ชั้นนี้จะมีสระว่ายน้ำ, Sky Lounge, Sunken Bed , Sky Island และ Steam Rooms

สระว่ายน้ำที่นี่รับรองทุกคนขึ้นมาเห็นจะต้องร้องว้าว

ตัวสระเป็น Infinity Edge pool  ให้คุณว่ายน้ำพร้อมแตะขอบฟ้าในเวลาเดียวกัน เห็นแล้วนึกถึงเพลง ที่ร้องว่า "จะออกไปแตะขอบฟ้า" ของ พี่ตูน Bodyslam (มีพิ้นที่ของสระเด็กด้วยนะครับ)

วิวสวยจริงๆครับ

บรรยากาศกลางคืน

อีกจุดหนึ่งที่ผมชอบมากที่สุดคือ Sky Island เค้าดีไซน์เป็นแพที่นั่ง แช่อยู่ในน้ำ โดยมีเหล็กซี่ๆกั้นไว้เพื่อให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้น ผมมองว่าตรงนี้โครตจะโรแมนติกเลย เพราะคุณจะได้นั่งรับลมเย็นๆพร้อมมองขอบฟ้ายามค่ำคืน

บรรยากาศกลางคืน

นอกจากนี้ยังมีบริเวณ Sky Lounge ให้คุณมานั่งเล่น นั่งอ่านหนังสือ นั่งประชุม หรือนั่งทานอะไรชิลๆก็ได้ แถมมีส่วนของ Kitchen Bar ไว้ให้ทำอาหารด้วย แต่ผมคิดว่าคงไม่ค่อยมีใครขึ้นมาทำอาหารกันตรงนี้เท่าไหร่ เหมาะกับการหาอาหารและเครื่องดื่มเล็กๆน้อยๆมาทานกันชิลๆ

บรรยากาศกลางคืน

ผมว่าภาพไม่สวยเท่าของจริง คุณควรมาเห็นด้วยตาตัวเอง จะดีกว่า

เดี๋ยวเราไปดูห้องตัวอย่างซักห้องกันบ้างครับ เห็นว่าขายดีมาก อยากรู้แล้วว่าในห้องจะเป็นยังไงบ้าง

1 ห้องนอน 30.05 ตารางเมตรนะครับ

ห้องนี้จะแยกฟังก์ชั่นห้องนอนและห้องนั่งเล่นไว้อย่างชัดเจน การจัดพื้นที่ค่อนข้างลงตัวครับ ให้ตู้เสื้อผ้าใหญ่อยู่ได้จริง แต่อาจไม่เหมาะกับการทำอาหารหนักเท่าไรเพราะเนื่องจากครัวไม่ได้แยกเป็นโซนปิด  ส่วนของห้องน้ำต้องเข้าจากห้องนอนอาจเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้างเวลามีคนมาเยี่ยมครับ

เมื่อเข้าสู่ห้อง ส่วนหน้าของห้องจะเป็นบริเวณของครัว ซึ่งครัวเปิดแบบนี้น่าจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่เน้นซื้ออาหารมากินมากกว่าทำเองที่ห้องครับ จริงๆแล้วพื้นที่ส่วนครัวตรงนี้ถ้าใครจะกั้นบานเลื่อน ก็ยังพอมีพื้นที่ทำได้นะครับ แต่ผมว่าหากทำให้ห้องดูสักอึดอัดขึ้นครับ ถ้าคุณไม่ได้ทำอาหารบ่อยก็เปิดโล่งแบบนี้แหละครับดีแล้ว

ชุดครัวได้ Top  เป็นหินแกรนิตสีดำ มีปูผนังกันกันเปื้อนด้านหลังให้ด้วย นอกจากนี้ยังแถมซิ้งค์ล้างจาน เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันให้ด้วยครับ

ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น ระยะดูทีวีประมาณพอดีๆ ส่วนของชั้นวางทีวี โต๊ะกลางและโซฟา โครงการแถมมาให้ด้วยนะครับ โดยโซฟาจะมีช่องเก็บของด้านล่างด้วย

ถัดไปเป็นพื้นที่นั่งทำงาน (มีแถมให้) ผมมองว่าโต๊ะทำงานสามารถปรับเป็นพื้นที่กินข้าวก็ได้ โดยถ้าทานกัน 2 คน อีกคนหนึ่งสามารถนั่งที่โซฟาได้

พื้นที่ระเบียงทางโครงการได้เตรียมระบบสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าไว้ให้แล้ว

มาดูห้องนอนกันบ้างครับ ห้องนอนทางโครงการแถมเตียงให้แบบขนาด 5 ฟุต ซึ่งเป็นขนาดที่กำลังพอดีสามารถเดินได้รอบรอบเตียงโดยไม่อึดอัด ส่วนของหัวเตียงบิ้วท์อินติดมากับชั้นวางข้างหัวเตียงที่สามารถเปิดเก็บของได้ นอกจากนั้นใต้เตียงยังมีลิ้นชักที่ใช้เก็บของได้ด้วย

ทางเข้าห้องน้ำเป็นช่องพอดี ทางโครงการทำตู้เสื้อผ้าบิ้วท์อินมาให้ มองดูแล้วเหมือน Walk-in Closet เลย

ห้องน้ำได้สุขภัณฑ์มาตรฐานทั่วไป แต่ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้นะครับ โครงการน่าจะแถมให้อีกหน่อย อย่างอื่นก็ให้เยอะแล้ว ขาดแค่ตรงนี้เอง

จริงๆแล้วทางโครงการมีห้องหลายรูปแบบมากกว่านี้นะครับ แต่เราเก็บภาพและรายละเอียดมาฝากเฉพาะห้องตัวอย่างแบบเดียว ถ้าใครสนใจห้องแบบอื่นลองมาติดต่อขอข้อมูลจากฝ่ายขายที่นี่ได้ครับ

เอาล่ะครับชมห้องกันแล้ว เดี๋ยวผมจะพาไปดูอีกจุดหนึ่งที่ผมเกริ่นไว้ตอนแรกว่าที่นี่เขามีอะไรพิเศษกว่าที่อื่น มันอยู่บนดาดฟ้าของอาคารจอดรถครับ

บริเวณดาดฟ้าของอาคารจอดรถ ทางโครงการได้ทำให้เป็นสนามเทนนิสขนาดมาตรฐาน พร้อมคลับเฮ้าส์เอาไว้นั่งพักผ่อนกันด้วยครับ 

สำหรับผมที่ชอบเตะฟุตบอล แอบคิดเล่นๆว่า ถ้าพื้นที่ตรงนี้สามารถปรับเปลี่ยนเป็นสนามฟุตซอลหรือสนามบาสได้คงจะดีไม่น้อย แต่อาจต้องทำตาข่ายเป็นหลังคาเพิ่มอีกนิดหน่อยบอลจะได้ไม่กระเด็นออกไปไหน ถ้าทำเป็นสนามฟุตซอล ผมว่าน่าจะมีคนสนใจเล่นมากกว่าเทนนิสนะครับ และเป็นจุดขายเพิ่มให้โครงการนี้อีกด้วย เตะบอลไป ดูวิวเมืองไปด้วย รับรองมีคนสนใจเยอะครับ

ภาพตัวอย่างสนามที่ญีปุ่น

หลังจากได้มาชมคอนโด Chapter One Midtown ลาดพร้าว 24 แล้ว ผมมองว่านี่คือคอนโดที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็น...

- เรื่องของโลเคชั่นที่อยู่ห่างรถไฟฟ้าแค่ประมาณ 100 เมตร

- เรื่องของไลฟ์สไตล์สะดวกสุดๆเพราะที่มีห้างสรรพสินค้าอยู่ใกล้ๆหลายแห่ง

- เรื่องของราคาที่ถือว่าคุ้มค่าครับ ถ้าเทียบกับคอนโดอื่นๆที่ใกล้รถไฟฟ้าขนาดนี้ ไม่มีที่ไหนสู้ที่นี่ได้

- เรื่องของแนวคิดโครงการสไตล์ Loft ที่น่าจะถูกใจคนรุ่นใหม่หลายคน

- และเรื่องสุดท้ายที่ผมชอบที่สุด Facility ที่มีให้ครบทุกอย่างจริงๆ โดยเฉพาะ Sky Facility ที่จะให้คุณ...ออกไปแตะขอบฟ้าได้ทุกวัน

โครงการนี้เสร็จแล้ว พร้อมย้ายเข้าอยู่เลย นั่นหมายความว่า คุณไม่ต้องจ่ายเงินดาวน์เยอะแล้ว ถ้าพร้อมก็แค่จองแล้วกู้ธนาคารได้เลย ใครที่สนใจจริงๆ ผมแนะนำให้รีบไปดูแล้วรีบตัดสินใจเลยครับ

ผมแวะไปวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คนเข้ามาดูเยอะมาก เท่าที่สอบถามโครงการแจ้งว่าเหลือแค่ 5 ห้องสุดท้าย ผมว่านี่เป็นโอกาสดีมากๆเลยครับ เพราะปกติโครงการเวลาจะปิดโครงการแล้วเค้าจะจัดโปรโมชั่นปิดโครงการไว้หลายอย่างเลย

อย่ามัวแต่รอครับ ว่างก็มาเลย

ที่นี่คุ้มจริงๆ ไม่ว่าจะลงทุนหรืออยู่เอง

ราคาเริ่มต้น 3.7 ล้านบาท*

ลงทะเบียนลดอีก 100,000 บาท

ถ้าสนใจลงทะเบียนที่ลิ้งค์นี้เลย

https://goo.gl/gW6fik

สอบถามเพิ่มเติมโทร 1739

Line@ คลิก https://goo.gl/pyopjX
ID Line@ : @stylishresidences