The Forestias Signature Series คอนโดแฟล็กชิพหนึ่งเดียว ที่ห้อมล้อมด้วยผืนป่าสีเขียวขนาดใหญ่ เพื่อใช้ชีวิตติดธรรมชาติอย่างเป็นส่วนตัวแบบเหนือระดับ สู่อัตลักษณ์ใหม่ของการอยู่อาศัยแห่งอนาคต

ที่อยู่อาศัยที่เป็นมากกว่าบ้านหรือคอนโด นี่คือประโยคคลาสสิกแต่กลับสร้างอิมแพ็คให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ ให้เราได้พบเห็นสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสถาปัตยกรรมความสวยงาม นวัตกรรมอำนวยความสะดวกสบาย หรือการออกแบบฟังก์ชันใช้งานที่แตกต่างได้อย่างน่าสนใจ 

แต่สิ่งที่ MQDC ดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำที่เชี่ยวชาญด้านโครงการระดับที่พักอาศัยที่มีมาตรฐานสูง มองการณ์ไกลไปกว่านั้นคือ การเนรมิตธีมโปรเจค ที่เป็นโครงการเมืองระดับ World Class แห่งแรกของโลก ภายใต้ชื่อ The Forestias

ซึ่งหลายคนน่าจะรู้จักกันพอสมควรแล้ว เลยจะขอเกริ่นแค่ประเด็นหลักอย่างการเป็น โครงการที่ตั้งอยู่บนพื้นที่รวมกว่า 398 ไร่ ที่นอกจากมีที่พักอาศัยหลากหลาย ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนทุกช่วงวัยแล้วยังมี Happitat (The New 'THEMED' Destination of Happiness)

พื้นที่แห่งความสุขและประสบการณ์พิเศษ ที่ตอบโจทย์ทุกเจเนอเรชั่นทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย พื้นที่สำนักงาน โรงแรม 6 ดาว ไปจนถึงศูนย์การแพทย์เฉพาะทางและสุขภาพ แต่เหนือสิ่งอื่นใดอยู่ตรงการผสมผสานผืนป่า พื้นที่สีเขียวธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ขนาดใหญ่รวม 30 ไร่

โดยหนึ่งในจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญอย่างโครงการ The Forestias Signature Series สร้างสรรค์เอกลักษณ์ผ่านยูนิตขนาดใหญ่ ที่ได้เห็นวิวผืนป่าที่ยาวที่สุด พร้อมทำให้ทุกคนได้ค้นพบความเป็นส่วนตัว และสิทธิพิเศษที่เหนือกว่า จากการออกแบบครบทุกมิติพิถีพิถันทุกองค์ประกอบ เพื่อส่งมอบการใช้ชีวิตที่ดีมีความสุขอย่างยั่งยืน

ซึ่งโครงการนี้แหละจะเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนความเป็น เดอะ ฟอเรสเทียส์ ได้เด่นชัดที่สุดด้วยลายเซ็นอันโดดเด่นเฉพาะตัว จนถึงขั้นกลายเป็นรางวัล และมรดกอันล้ำค่า ที่บ่งบอกความสำเร็จสูงสุดของชีวิตในระดับมาสเตอร์พีช

The Forestias Signature Series คอนโดแฟล็กชิพหนึ่งเดียว ที่ห้อมล้อมด้วยผืนป่าใหญ่สุดในไทย เพื่อให้ใช้ชีวิตติดธรรมชาติได้อย่างเป็นส่วนตัวแบบเหนือระดับ สู่อัตลักษณ์ใหม่ของการอยู่อาศัยแห่งอนาคต

เมื่อศักยภาพโลเคชั่นเป็นเลิศ โครงการก็เจิดจรัสมากยิ่งขึ้น

เริ่มเจาะไปที่ทำเลก่อนเป็นอันดับแรก โดยตั้งอยู่บนบางนา-ตราด ซึ่งไม่อาจปฏิเสธได้ว่านี่เป็นโลเคชั่นสู่เศรษฐกิจของภาคตะวันออกที่สำคัญหรือก็คือประตูสู่ EEC ที่ตัวโครงการจะอยู่ช่วงบางนา-ตราดตอนต้น แถวละแวกกม.7 หรือถ้าแคปภาพให้แคบลงไปอีกก็จะอยู่ใกล้กับ Mega Bangna นั่นเอง 

แสดงให้เห็นว่าเรื่องของการเดินทาง จะเป็นอะไรที่สะดวกสบายพอสมควรเลย สามารถเชื่อมต่อไปยังเส้นสุขุมวิทเพื่อเข้าใจกลางเมืองเอกมัย ทองหล่อได้ ที่สำคัญคือตัวโครงการอยู่ไม่ไกลจากสนามบินสุวรรณภูมิ และอย่างที่บอกว่าอยู่บนเส้นที่เดินทางออกนอกเมืองไปต่างจังหวัดก็ง่าย

อีกทั้งยังใกล้ทางด่วนฉลองรัช ทางด่วนบูรพาวิถี และทางด่วนกาญจนาภิเษก ทำให้สามารถเดินทางทั่วทุกทิศทางได้อย่างสะดวกสบาย

แต่วันไหนที่ต้องเร่งรีบไม่อยากอยู่บนท้องถนนนานๆ ก็มีขนส่งสาธารณะคอยให้บริการ อย่างรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ซึ่งสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีอุดมสุข ไม่เพียงเท่านั้นเพราะยังมี รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ที่ห่างจากสถานีศรีเอี่ยม ซึ่งเป็นสถานีที่มีอาคารจอดแล้วจร เพียงไม่กี่กิโลเมตรอีกด้วย

ส่วนแหล่งไลฟ์สไตล์นอกจากภายในโครงการ The Forestias ที่ก็นับว่ามีครบครันพอสมควร แต่ภายนอกก็รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Mega Bangna & IKEA, Central Bangna, 101 True Digital Park, Market Village, Seacon Square, Paradise Park, Central Village, King Power Srivaree และ Siam Premium Outlets 

แต่ที่ขาดไม่ได้เลยคือ สถานศึกษา ซึ่งล้วนเต็มไปด้วยโรงเรียนนานาชาติชื่อดัง ได้แก่ Berkeley International School, St Andrews International School, Bangkok Pattana School, Wells International School, International Community School, Raffles American School, Thai-Singapore International School, Concordian International School และ The American School of Bangkok

Photo credit by : international schools

ขณะที่ สถานพยาบาล ก็มีรองรับไว้ประมาณหนึ่ง เช่น รพ.ไทยนครินทร์ รพ.ศรีนครินทร์ รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ รพ.สิรินธร รพ.พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ และ รพ.ศิครินทร์ เป็นต้น

Photo credit by : mthai

 The Forestias Signature Series

ต้องมนต์เสน่ห์พาชิดติดธรรมชาติ สู่ความเป็นส่วนตัวขั้นสูงสุดในทุกมิติ

จากสุดยอดทำเลพักอาศัยเข้าสู่การเฉิดฉายของ The Forestias Signature Series (เดอะ ฟอเรสเทียส์ ซิกเนเจอร์ ซีรีส์) โครงการที่สามารถบาลานซ์การใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยในเมือง ให้ได้ดื่มด่ำกับความเขียวขจีของธรรมชาติ ชนิดที่ไม่ใช่แค่คำว่าใกล้แต่เรียกได้ว่าติดชิดเพียงปลายนิ้วสัมผัส

ผ่านการออกแบบจาก สถาปนิกระดับโลก Foster + Partners Thailand ซึ่งตกแต่งดีไซน์ที่นอกจากความสวยงามอลังการแล้ว ยังพร้อมให้ความสำคัญและคำนึงถึง Well & Trees Standard โดยมาในคอนเซปต์ที่ต้องการมอบความเป็นส่วนตัวให้แก่ผู้อยู่อาศัยขั้นสูงสุด ครอบคลุมด้วยแนวคิด 4 Signatures ตั้งแต่ภายนอกจรดภายในครบทุกมิติ 

Signature Nature-inspired Living

โครงการมาในรูปแบบคอนโด High Rise สูง 44 ชั้น และชั้นใต้ดิน 1 ชั้น 1 อาคาร บนขนาดที่ดิน 2-3-93.2 ไร่ โดยมีจำนวนที่พักอาศัยเพียง 122 ยูนิต และมียูนิตสูงสุดต่อชั้นแค่ 4 ยูนิต แถมยังเป็นแบบ Single loaded corridor คงไม่ต้องบอกว่าความเป็นส่วนตัวที่ได้รับจะสูงสุดขนาดไหน แต่เท่านั้นไม่พอเพราะทางโครงการยังให้ไพรเวซี่อีกชั้นด้วย Private Lift Lobby ทุกยูนิต และขั้นกว่าด้วยที่จอดรถอัตโนมัติถึง 200% 

Signature Exclusive Privacy 

เหนือความคาดหมายของคำว่าความเป็นส่วนตัว ที่ทำให้โครงการนี้แตกต่างจากที่อื่น จนนับว่าเป็นหนึ่งในไฮไลต์สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้นั่นคือ… 

การยกระดับ Service ให้ได้ตามมาตรฐาน MQDC Standard ด้วยการยอมเสียสละพื้นที่ส่วนหนึ่งเพื่อสร้างโถงทางเดินและบันได หรือ Service stair & Service corridor โดยเฉพาะ ไว้สำหรับใช้งานเซอร์วิสของทีมช่าง ที่สามารถดูแลบำรุงรักษาทั้งตัวอาคารและท่อหลักได้จากภายนอกอย่างทั่วถึงในทุกๆ จุด ทำให้ไม่ต้องเข้าไปรบกวน หรือสร้างความวุ่นวายแก่เจ้าของห้องที่พักอาศัยอยู่ภายในห้อง นี่จึงเป็นจุดเด่นของโครงการนี้ที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจ ในเรื่องของความเป็นส่วนตัวและการบำรุงรักษาได้อย่างมีเอกลักษณ์ 

(แอบสปอยล์ว่า Signature Exclusive Privacy ไม่ได้มีแค่ส่วนนี้เท่านั้น แต่จะอยู่ในส่วนไหนอีกบ้างต้องเลื่อนลงไปอ่านกันต่อได้เลย)

Signature Lifestyle Privileges

โดดเด่นไม่ซ้ำใครไปกับพื้นที่ส่วนกลางที่กระจายตัวอยู่ในแต่ละชั้น เพื่อให้ลูกบ้านได้ใช้กันอย่างทั่วถึง โดยมีฟังก์ชันหลากหลายการใช้งาน ตั้งแต่พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ โซนทำกิจกรรม Activity ออกกำลังกาย ต่อเนื่องไปยังมุมนั่งเล่นนั่งทำงาน และพื้นที่ผ่อนคลาย Relax ก็มีให้ครบครัน

รวมถึงยังอยู่ใกล้เพื่อนบ้านอย่าง Hotel Indigo The Forestias (โฮเทล อินดิโก้ เดอะ ฟอเรสเทียส์) สามารถเดินไปยังโรงแรมได้ที่ชั้น ground มีประตูเชื่อมต่อเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านของโครงการ The Forestias Signature Series ได้ไปใช้บริการของโรงแรมได้อย่างสะดวกสบาย
 

ไล่เรียงตั้งแต่ Ground Floor : Treehouse, Multi-purpose Lawn, Forest Terrace, Woodlands Lobby, Great Forest Lobby, Co-Working Space, Smart Lockers และ Bicycle Parking 

2nd Floor : The Enchanted Lounge, Playroom, Immersia Theater, Evergreen Dining Room, Private Salon และ Private Spa

20th Floor : Yoga Room, Pilates Room และ Golf Simulator

21st Floor : Gym, Swimming Pool, Thermal Pool, Kids Pool และ Separate Male & Female Saunas

22nd Floor : Moonwake Club

35th Floor : Forest View Terrace

39th Floor : Sunset View Terrace

Signature Sustainnovation

ความเป็นซิกเนเจอร์อันสุดท้ายจะขาดเรื่องนี้ไปไม่ได้ นั่นก็คือการออกแบบให้โครงการกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ ผ่าน 7 ดีไซน์ ทั้งในเรื่องของการอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติ, ดูแลคุณภาพชีวิตของทุกสรรพสิ่ง, การจัดการอุณหภูมิ, คุณภาพอากาศ, การควบคุมแสง, ป้องกันเสียงรบกวน และความปลอดภัย

ผสมผสานไปกับเทคโนโลยีระบบบริหารจัดการพลังงานอย่าง Central Utility Plant (CUP) โรงผลิตแหล่งพลังงานศูนย์กลางของเครือข่ายน้ำเย็น และ Energy Management Unit (EMU) เทคโนโลยีช่วยวัดค่าพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ไป 

รวมถึงนวัตกรรมระบบควบคุมอากาศบริสุทธ์ ด้วยเครื่อง Energy Recovery Ventilator (ERV) ช่วยกรองฝุ่น PM2.5 เพื่อให้สามารถสูดอากาศสดชื่นได้อย่างมั่นใจ

เริ่มต้นด้วยห้องพักอาศัยขนาดใหญ่ ฟีลฟังก์ชันบ้านเดี่ยว 

เนรมิตทุกยูนิตมองเห็นทิวทัศน์ป่า 30 ไร่ แบบพาโนราม่า

อีกหนึ่งลายเซ็นที่สะท้อนความเป็น The Forestias Signature Series ให้สมบูรณ์แบบ อยู่ตรงห้องพักอาศัย โดยให้ทุกยูนิตสามารถมองเห็นป่า 30 ไร่ ได้แบบพาโนราม่า ชมวิวทิวทัศน์ระดับพรีเมียมได้สุดสายตา พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์ได้ชุ่มปอดจากห้องของตัวเอง

นอกจากนี้ห้องพักอาศัยของโครงการก็มีขนาดใหญ่พิเศษ เพราะแค่เริ่มต้นก็มีขนาดพื้นที่ใช้สอยมากถึง 140 ตารางเมตรแล้ว โดยมีห้องให้เลือกทั้งหมด 9 Type ตั้งแต่ 2 Bedrooms ไปจนถึง 5 Bedrooms และ Penthouse ดังนี้

เหตุผลที่โครงการทำห้องขนาดใหญ่ เพราะแต่ละสมาชิกภายในบ้านต่างก็ต้องการพื้นที่ส่วนตัว โดยเฉพาะเด็กๆ ที่โตเป็นวัยรุ่น ไม่อยากอยู่กับพ่อแม่ตลอด 24 ชั่วโมง แต่สุดท้ายแล้วก็ยังต้องคอยได้รับการดูแล และคำแนะนำจากพ่อแม่เป็นหลัก ดังนั้นทางโครงการเลยเพิ่มสเปซให้แต่ละคนได้มีพื้นที่เป็นของตัวเองมากขึ้น แต่ก็ยังสามารถมองเห็นกันได้ รวมถึงยังจัดสรรสเปซส่วนรวมได้อย่างลงตัว ที่ทั้งหมดนี้ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านก็ว่าได้

ความพิเศษแรกคือการออกแบบ Layout ได้น่าสนใจทีเดียว และอย่างที่บอกไปตอนต้นว่า Signature Exclusive Privacy ไม่ได้มีแค่เรื่องของงานบริการ แต่ยังรวมถึงการให้ความเป็นส่วนตัวอย่างเหนือระดับผ่านการดีไซน์ภายในห้องพักอาศัย

สังเกตได้จากการวางแปลน Master Bedroom กับห้องนอนที่ 2 ให้อยู่แยกกันคนละฝั่ง เพราะส่วนใหญ่แล้วห้องพ่อ-แม่ ก็ต้องเป็น Master Bedroom ส่วนห้องนอนรองเป็นของลูกๆ และเมื่อเด็กๆ โตขึ้นหรือบ้านไหนมีลูกเข้าสู่วัยรุ่น จะทำให้เค้าอยากขยายสเปซส่วนตัวมากขึ้น ซึ่งแปลนห้องแบบนี้คือคำตอบที่ถูกต้องเลย

ขณะเดียวกันก็ยังคงพิถีพิถันในส่วนของ Common Area ซึ่งแบ่งพื้นที่ใช้สอยระหว่าง Living & Dinning รวมไปถึง Euro Kitchen ที่เชื่อมต่อสเปซได้อย่างเป็นสัดเป็นส่วนลงตัว ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่าทุกตารางเมตร 

พิเศษด้วยระเบียงส่วนตัวขนาดกว้างขวาง ให้เพลิดเพลินดื่มด่ำไปกับธรรมชาติผืนป่าขนาดใหญ่ที่อยู่เบื้องหน้า แถมยังมียูนิตที่เป็นไฮไลต์ด้วย Private Plunge Pool คือส่วนตัวกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

และอีกหนึ่งจุดในการสร้างสรรค์ไพรเวซี่คือ การแยกพื้นที่ทำงาน ห้องซักรีด ครัวไทย และห้องแม่บ้านออกมาอยู่ข้างนอกห้องเจ้าของบ้านอย่างชัดเจน ทำให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเป็นส่วนตัว

พร้อมแล้วกับการเป็นสถานที่เก็บทุกโมเมนต์สำคัญในทุกช่วงเวลา ที่เติมเต็มการใช้ชีวิตอย่างแตกต่างสง่างามได้ดั่งใจต้องการ สะท้อนผ่านอัตลักษณ์ของโครงการ The Forestias Signature Series ในราคาเริ่มต้น 37 ล้านบาท สำหรับ 2 ห้องนอน ขนาด 140 ตารางเมตร

แนะนำว่าให้ลองเข้าไปสัมผัสและเยี่ยมชมด้วยตนเอง แล้วจะเข้าใจเลยว่าการได้ครอบครอง ณ ที่แห่งนี้ จะทำให้คุณภาคภูมิใจได้อย่างสมศักดิ์ศรีและ Proud to present ได้มากมายขนาดที่ใครก็คาดไม่ถึง คลิกลงทะเบียน >>> https://mqdc.com/discover-project/signature-series/theforestias