PLACE 168 PINKLAO (เพลส 168 ปิ่นเกล้า) คอนโดที่เข้าใจคนปิ่นเกล้ามากที่สุด จาก LPN ขวัญใจคนปิ่นเกล้าคนเดิม กลับมาคราวนี้เพิ่มเติมความไฉไล จัดชุดใหญ่ ไฟกระพริบ

 

หากพูดถึงทำเล ปิ่นเกล้า รับรองว่าใครหลายคนที่อยู่ที่นี่ จะต้องมีทะเบียนบ้านอยู่ที่คอนโดแห่งใดแห่งหนึ่งของ LPN แน่นอน เพราะ LPN ถือเป็น ผู้ประกอบการยุคบุกเบิกทำเลปิ่นเกล้า ที่ไม่ว่าเปิดคอนโดอะไร ในทำเลนี้สมัยก่อนจะต้องขายหมดภายในไม่กี่วัน

 

จนกลายเป็นขวัญใจของคนปิ่นเกล้า ที่รับรองได้เลยว่าหากเป็นคอนโด LPN เปิดขาย จะต้องมีลูกค้ารีบตื่นเช้ามาต่อคิว เพื่อจองห้อง เพราะไม่ว่าจะซื้อไว้อยู่เองหรือไว้ลงทุน การันตีได้เลยว่าที่นี่จะสามารถทำผลกำไรได้อย่างดีในอนาคต 

 

หลังจาก LPN หายจากทำเลปิ่นเกล้าไปนาน วันนี้เขากลับมาแล้ว LPN คนเดิมขวัญใจชาวปิ่นเกล้า เติมความสำคัญไฉไล จัดชุดใหญ่ไฟ กระพริบ มาคราวนี้พร้อมลุคใหม่ ที่จะทำให้คนปิ่นเกล้า ต้องตื่นแต่เช้ากลับมาต่อคิวกันอีกรอบ 

 

ถามว่าทำไมทำเลปิ่นเกล้ามีอะไรที่น่าสนใจหรือโดดเด่นตรงไหน มารวมตรงนี้เลยเดี๋ยวจะเขียนให้ทุกคนได้อ่านพร้อมๆ กัน เรื่องแรกที่น่าจะเห็นแบบชัดเจน คือการเป็นฮับขนาดใหญ่ของแหล่งท่องเที่ยวไลฟ์สไตล์ โดยมีจุดศูนย์กลางอย่าง ‘เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า’ ซึ่งพอรีโนเวทไปเมื่อหลายปีก่อนก็เพิ่มความหลากหลายทั้งร้านอาหารชื่อดัง ร้านขนมอร่อยๆ และสินค้าแบรนด์ดังต่างๆ มากมาย สร้างแรงดึงดูดให้คนมาเดินเล่นช้อปปิ้งมากยิ่งขึ้น สังเกตได้จากถ้ามาหลังเที่ยงจะเริ่มหาที่จอดรถยากแล้ว เพราะผู้คนต่างหลั่งไหลเข้ามาอยู่ในห้างกันแบบพลุกพล่านเลยทีเดียว

Photo credit by centralpattana

 

นอกจากนี้ตรงข้ามยังมี ‘เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ปิ่นเกล้า’ ที่ไม่ได้มีแค่โรงภาพยนตร์ แต่ยังมีร้านค้า ร้านอาหาร คาราโอเกะ และโบว์ลิ่งอีกด้วย แต่ที่เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของย่านปิ่นเกล้าต้องยกให้ ‘ตลาดปิ่นทองพลาซ่า’ รวบรวมร้านค้า ร้านเสริมสวยความงาม และร้านอาหารแบบ Street Food ให้เลือกเพียบในราคาย่อมเยา

 

ไปกันต่อกับ ‘โลตัส ปิ่นเกล้า’ ซึ่งถ้าเทียบกับโลตัสสาขาอื่นๆ ถือว่ามีขนาดใหญ่มาก ที่นอกจากมีซูเปอร์มาร์เก็ตให้ซื้อของสดของใช้แล้ว ยังเป็นแหล่งรวมสถานที่โรงเรียนกวดวิชาอีกต่างหาก

 Photo credit by originsme

 

ไม่เพียงเท่านั้นเพราะยังมีคอมมูนิตี้มอลล์อย่าง The Sense ปิ่นเกล้า, พาต้าปิ่นเกล้า, ช่างชุ่ย, ตลาดมารวย รวมไปถึงคาเฟ่และร้านอาหารชื่อดังตลอดสองข้างทาง เรียกได้ว่าทำเลปิ่นเกล้าเปรียบเหมือนการค้าการพาณิชย์ที่รวบรวมไลฟ์สไตล์ไว้ยิ่งกว่าคำว่าครบ สร้างความคึกคักให้แก่ย่านนี้ได้ตลอดทั้งวัน

 Photo credit by I Will Take You To - ฉันจะพาคุณไป

 Photo credit by bkkmenu

 

ขณะที่เรื่องการเดินทางบนทำเลปิ่นเกล้านั้น ได้เชื่อมต่อถนนหลัก 4 สายเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ถนนบรมราชชนนี ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถนนจรัญสนิทวงศ์ และถนนอรุณอมรินทร์ อีกทั้งยังมี อุโมงค์ลอดแยก35 ทางคู่ขนานลอยฟ้า รวมถึงทางพิเศษศรีรัช ที่เอื้ออำนวยให้การเชื่อมต่อเข้าไปในเมืองก็สะดวก หรือออกต่างจังหวัดก็สบาย สามารถเชื่อมต่อทั่วทุกทิศทาง

 

แม้แต่การเดินทางโดยรถสาธารณะ ก็ไม่ใช่ปัญหาหรือยุ่งยากแต่อย่างใด เพราะนอกจากรถเมล์ รถแท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซค์แล้ว ก็ยังมีท่ารถตู้ รวมถึงรถทัวร์หรือสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ ประกอบกับการมาของ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ทั้งหมดนี้ทำให้มีผู้คนใช้บริการและสัญจรผ่านไปมาย่านปิ่นเกล้าไม่ขาดสาย

     Photo credit by wikipedia

 

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากที่ดินทำเลปิ่นเกล้านั้น จะมีราคาสูงขึ้นต่อเนื่องทุกปี ไล่เรียงตั้งแต่ ถนนบรมราชชนนี 50,000-200,000 บาท/ตร.วา ถนนอรุณอมรินทร์ 130,000-150,000 บาท/ตร.วา ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า 130,000-200,000 บาท/ตร.วา และถนนจรัญสนิทวงศ์ 150,000-200,000 บาท/ตร.วา 

 

และถ้าหากใครผ่านไปผ่านมาบนทำเลปิ่นเกล้าเป็นประจำแล้วล่ะก็ น่าจะมีคนสังเกตเห็นว่า โครงการคอนโดบนย่านนี้ส่วนใหญ่คือของ LPN แทบทั้งสิ้น เพราะมีมากถึง 8 โครงการด้วยกัน! และทุกโครงการล้วน Sold Out อย่างรวดเร็ว คือเป็นเจ้าตลาดทำเลปิ่นเกล้าที่ใครก็ยังล้มไม่ลงจริงๆ

 

ล่าสุดโครงการที่ 9 มาเยือนแล้วกับโครงการ PLACE 168 PINKLAO (เพลส 168 ปิ่นเกล้า) จาก LPN ที่ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่บรมราชชนนี ไม่ต้องเข้าซอยให้ยุ่งยาก ใกล้โลตัส ปิ่นเกล้า เพียง 250 เมตร และห่างจากเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า แค่ 500 เมตร รวมถึงใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีบางยี่ขัน เพียง 750 เมตร คือเป็น Rare Location ที่ให้คุณได้ใช้ชีวิตแบบเท่ๆ คูลๆ ไม่ซ้ำใคร ตรงตามคอนเซ็ปต์ Live Smart Achieve More ใช้ชีวิตสมาร์ท ใกล้ความสำเร็จไปอีกขั้น 

 

ซึ่งใครได้เห็นแล้วจะต้องเซอร์ไพรส์! เนื่องจากโครงการ PLACE 168 PINKLAO (เพลส 168 ปิ่นเกล้า) จาก LPN คือการฉีกภาพลักษณ์เดิมๆ และเปลี่ยนลุคใหม่ให้มีความสวยงามทันสมัยมากยิ่งขึ้น ด้วยการดีไซน์ออกมาในสไตล์ Modern Luxury ผสมผสานกับ Modern Rustic ซึ่งภายนอกอาคารจะเน้นโทนสีเทาไล่เฉดเข้มอ่อนให้ดูมีมิติ

 

โดยเป็นคอนโด High Rise 4 อาคาร สูง 27-28 ชั้น พร้อมอาคารจอดรถสูง 8 ชั้น จํานวน 1 อาคาร สามารถจอดรถได้ 353 คัน บนพื้นที่รวมประมาณ 6 ไร่ ซึ่งเห็นหลายอาคารแบบนี้ แต่มีจำนวนที่พักอาศัยทั้งหมดแค่ 842 ยูนิต หรือมีเพียง 8-10 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น ยังไม่พอทางโครงการยังวางผังเป็นแบบ Single Corridor อีกต่างหาก คือที่สุดของความเป็นไพรเวซี่ เพื่อให้ลูกบ้านได้ใช้ชีวิตอย่างเป็นส่วนตัวที่แท้จริง

 

ยิ่งไปกว่านั้นคือการออกแบบ Facilities ที่ครบครันจัดเต็ม โดยนำ Smart Living Tech เทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยมาใช้ทั้ง Facility Booking ระบบจองส่วนกลางแบบเรียลไทม์, Smart Locker & Mailbox, Digital Key เข้า-ออก พื้นที่ส่วนกลางด้วยสมาร์ทโฟนและคีย์การ์ด และ EV Charger บริการจุดชาร์จไฟฟ้า พร้อมด้วยซิกเนเจอร์ของ LPN อย่างเรื่องนิติบุคคล ซึ่งยังคงให้บริการดีเยี่ยมเหมือนเดิมแน่นอน

 

โดยในส่วนของ สวนพักผ่อนขนาดใหญ่ ที่ชั้นล่าง จะอยู่บริเวณตรงกลางระหว่างทั้ง 4 อาคาร เพื่อให้ทุกคนออกมานั่งพักผ่อนชมสวนได้อย่างทั่วถึง หรือถ้าอยากทำกิจกรรม Outdoor ก็มี Jogging Track ให้ได้วิ่งออกกำลังกายกัน

 

ขณะที่ด้านในสุดของโครงการนั้นเป็น Club House 2 ชั้น ซึ่งจะอยู่ใกล้กับอาคาร C ออกแบบได้สวยงามน่าใช้งานมากทีเดียว

 

ชั้นล่างคือ Co-Living Area และชั้น 2 เป็นส่วนของ Fitness จัดเตรียมเครื่องออกกำลังกายไว้ให้หลากหลาย

 

สระว่ายน้ำระบบเกลือ ว่ายออกกำลังกายได้จริง พร้อม Jacuzzi แช่น้ำผ่อนคลายสบายๆ ล้อมรอบด้วยพื้นที่สีเขียว ซึ่งได้จัดที่นั่งเอาไว้ให้ลูกบ้านมานั่งทำงานนั่งอ่านหนังสือ เปลี่ยนบรรยากาศนอกห้อง 

 

สำหรับส่วนกลาง Indoor จะอยู่ที่อาคาร C ไม่ว่าจะเป็น Co-Living Area, E-Sport Room, Home Theater, Private Meeting Room, Business Room และ Massage Room 

 

แต่จะมี Lobby ที่รองรับให้ทุกอาคารเลย เป็นโซนสำหรับรองรับแขกที่มาเยี่ยมเยียน หรือให้ลูกบ้านลงมานั่งเล่น 

 

รวมถึงห้อง Sky Lounge จุดชมวิวเมืองมองทิวทัศน์ ที่มีทุกอาคารเช่นเดียวกัน

 

โดยห้องพักอาศัยของโครงการ PLACE 168 PINKLAO (เพลส 168 ปิ่นเกล้า) ได้นำ Smart Living Tech เทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยเข้ามาเอื้อให้ใช้ชีวิตได้สะดวกสบายมากกว่าเดิมอย่าง Digital Key, Scene Switch สั่งเปิด-ปิด เครื่องใช้ไฟฟ้าได้ด้วยมือถือ, Motion Censor เปิด-ปิดไฟอัตโนมัติ และ Leak Detector ระบบตรวจจับน้ำรั่วซึมอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานครบครัน ได้ครัวปิดเป็นสัดส่วนทุกยูนิต และฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร 

ซึ่งมีห้องให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้

สตูดิโอ ขนาด 25-29.5 ตารางเมตร

1 ห้องนอน ขนาด 33 ตารางเมตร

2 ห้องนอน ขนาด 59 ตารางเมตร

 

ห้องสตูดิโอ ขนาด 29 ตารางเมตร 

ด้วยขนาดห้องที่กำลังลงตัวแบบพอดี ประกอบกับมีการกั้นห้องครัวเพื่อความเป็นสัดเป็นส่วน จึงสามารถอยู่คนเดียวได้สบายๆ คือเหมาะอย่างมากสำหรับ First Jobber เพิ่งเริ่มต้นทำงานได้ไม่นาน ซึ่งการตกแต่งห้องตัวอย่างก็ยังคงความเป็น Modern Luxury เรียบหรู

 

เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับห้องครัวแบบปิดกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน โดยขวามือจะเป็นส่วนของการทำอาหาร เคาน์เตอร์ครัวค่อนข้างใหญ่เลยเมื่อเทียบกับขนาดห้อง พร้อมตู้เก็บของด้านบนที่บิวท์มาให้เรียบร้อย อีกทั้งยังได้เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันด้วย และฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น

 

เดินเข้ามาด้านในจะเจอกับ Common Area ขนาดใหญ่ ที่ให้ความรู้สึกโปร่งโล่งน่าอยู่อาศัย ด้วยการออกแบบของระเบียงรวมถึงหน้าต่าง ที่ได้ทั้งแบบบานเลื่อนและบานฟิกซ์ ซึ่งจะช่วยให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาภายในห้องได้อย่างทั่วถึง

 

โดยโซนนั่งเล่นเลือกวางโซฟาให้ชิดกับเตียงขนาด 2 ที่นั่ง เพื่อให้มีพื้นที่เหลือสำหรับวางโต๊ะกลางและเดินผ่านได้สะดวก ฝั่งที่ติดตั้งทีวีก็สามารถบิวท์ชั้นวางและตู้เก็บของแบบสุดเพดานได้อีกด้วย

 

เท่านั้นไม่พอตรงริมหน้าต่างยังมีสเปซให้วางโต๊ะทำงาน ซึ่งจะได้มองเห็นวิวภายนอกแบบชัดเจน สร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน 

 

ติดกันเป็นโซนพักผ่อน สามารถวางเตียง 5 ฟุต หรือจะวาง 6 ฟุตก็ยังได้ และแนะนำให้บิวท์อินตู้เสื้อผ้าสุดเพดานแบบห้องตัวอย่างเพื่อให้เก็บเสื้อผ้าได้เยอะ

 

เนื่องจากสตูดิโอห้องนี้มีพื้นที่ระหว่างโซนนั่งเล่นและโซนพักผ่อนเปิดโล่งเชื่อมถึงกัน และค่อนข้างยืดหยุ่นในการใช้สอย ทำให้จัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้หลากหลายขนาดและหลากหลายรูปแบบ 

 

แต่ส่วนตัวชอบการออกแบบห้องน้ำ เพราะนอกจากได้สุขภัณฑ์ครบครัน อ่างล้างหน้า ที่วางของด้านหลังอ่าง กระจกเต็มผนัง โถสุขภัณฑ์ และฝักบัว 

 

นอกจากนี้ยังจัดพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าในห้องน้ำมาให้อย่างสวยงามและใช้งานได้จริง ซึ่งมีจุดเด่นตรงที่ช่วยลดโอกาสการเกิดน้ำรั่วซึมในพื้นห้อง ช่วยให้ได้พื้นที่ใช้สอยในห้องครัวและระเบียงเพิ่มมากขึ้น

 

1 ห้องนอน ขนาด 33 ตารางเมตร

ห้องนี้เหมาะอย่างมากสำหรับใครที่อยากได้ขนาดและพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น รวมถึงชอบการแบ่งสัดส่วนภายในห้องแบบชัดเจน น่าจะโดนใจใครหลายคน

 

แม้ว่าเข้ามาแล้วจะเจอกับห้องครัวแบบปิดเหมือนกับห้องแรก แต่ขนาดห้องและได้เคาน์เตอร์ครัวใหญ่กว่าเดิม ทำให้มีพื้นที่เตรียมอาหารและวางอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวได้มากขึ้น

 

ส่วนอีกฝั่งสามารถบิวท์อินเป็นตู้เก็บรองเท้าชั้นล่าง และตู้เก็บของชั้นบน หรือจะดีไซน์ออกไอเดียยังไงก็ได้เต็มที่ไปเลย

 

โซน Living Area จะเจอกับมุมรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งด้านขวามือ ตรงข้ามมีพื้นที่ให้วางตู้เก็บของ หรือถ้าใครจะบิวท์ก็แนะนำให้ทำเหมือนห้องตัวอย่างคือสุดเพดานไปเลย ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ตอบโจทย์คนที่ของเยอะ หรืออยากให้ห้องดูเป็นระเบียบเรียบร้อย 

 

ด้านในสุดของห้องเป็นมุมนั่งเล่นนั่งดูทีวี ซึ่งด้วยขนาดพื้นที่ที่กว้างขวางพอวางเฟอร์นิเจอร์อย่างโซฟา โต๊ะกลาง และชั้นวางทีวี ก็ยังไม่รู้สึกอึดอัด

 

ตัวระเบียงจะอยู่ติดกับห้องนั่งเล่นมีพื้นที่พอให้วางราวตากผ้า หรือจะเลือกปลูกต้นไม้ก็สามารถทำได้

 

ต่อด้วยห้องนอนที่มีขนาดใหญ่วางเตียง 5 ฟุต และโต๊ะหัวเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง เพิ่มความโปร่งด้วยช่องแสงขนาดใหญ่เต็มผนัง

 

ทางโครงการบิว์ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่สุดเพดาน เพิ่มพื้นที่ในการเก็บเสื้อผ้า พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งริมหน้าต่าง ซึ่งถือเป็นไอเดียที่น่าสนใจทีเดียว

 

โดยห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอน ซึ่งการจัดวางสุขภัณฑ์เหมือนกับห้องข้างต้น รวมถึงการวางเครื่องซักผ้าก็ยังอยู่ในห้องน้ำเช่นเดิม ซึ่งจะเห็น Layout การวางแปลนแบบนี้เฉพาะคอนโดหรูระดับ Luxury ขึ้นไป

 

โครงการ PLACE 168 PINKLAO ชื่อโครงการตรงกับทำเลเป๊ะ ไม่ต้องใช้ Google Map ก็ไปถูกชัวร์ ซึ่งอยู่ติดถนนใหญ่บรมราชชนนีขนาดนี้ ทำให้จะใช้รถส่วนตัว รถสาธารณะหรือรถไฟฟ้าก็สะดวกสบายสุดๆ แถมยังใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์มากมายแบบไม่ลวงหลอก ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.56 ล้านบาท* (ณ วันที่ 22/07/65)

 

สนใจลงทะเบียนรับส่วนลดพิเศษราคา 150,000 บาท* ได้ที่ >>> https://bit.ly/38j20k2 (ณ วันที่ 22/07/65)

 

 

มาเถอะจะซื้ออยู่เองทั้ง First Jobber จะทำงานมาซะระยะหนึ่งหรือทำมานาน หรืออยากซื้อให้ลูกหลาน หรือจะซื้อไว้เป็นบ้านหลังที่2 แม้แต่สายลงทุนอยากปล่อยเช่า ก็จับจองเป็นเจ้าของได้ทุกความต้องการแน่นอน!