Knowledge

จงใจร้อนเมื่อเจอเพชร

Salaryman Estator 2020-04-16 10:29:22

 

 

จงใจร้อนเมื่อเจอเพชร

 

 

โลกของการลงทุน คุณมักจะถูกบอกเสมอ ให้ใจเย็นๆ ลงสนามจนกว่าจะรู้จริง รอบคอบในการตัดสินใจ แม้แต่บทความของผมก็มักจะพูดแบบนั้นบ่อยๆ บทความนี้ ผมอยากให้ลองมองอีกมุมนึงครับ"จงใจร้อนเมื่อเจอเพชรในตม" ถึงแม้ลงสนามจนรู้จริงแล้ว แต่ถ้าคุณตัดสินใจช้าเมื่อเจอเพชรแท้ คุณจะกินแห้วครับ (เรื่องจริงจากอาทิตย์ที่แล้วครับ)

 

 

จงจัดการให้เร็วและอย่ายอมให้อุปสรรคอะไรมาขวางคุณ เมื่อเจอโอกาส

 

ปกติช่วงนี้ผมทำงานอยู่ต่างประเทศ แต่จะหาโอกาสไปดู คอนโด ที่สนใจทุกครั้งที่กลับไทย อาทิตย์วันแม่ที่ผ่านมาก็เหมือนเดิม กลับมาไทย และวนไปดูคอนโดในวันแรกที่กลับมา

 

 

เรื่องมันมาพีคตรงที่ว่า คอนโดที่ไปดูมันเป็นโอกาสที่ดีกว่าที่คิดครับ เป็นเพชรที่ควรคว้ามาเก็บไว้ แต่ดันมีความท้าทายมากมาย

 

1. ผมรู้ว่าราคาที่ผมได้ยังไม่ใช่ราคานักลงทุนสามารถหาราคาที่ดีกว่านี้ได้

 


2. ผมอยู่ไทยแค่อาทิตย์เดียวซึ่งมีเวลาแค่ 5 วัน สำหรับจัดการกระบวนการครอบครองทั้งหมด ซึ่งปกติใช้เวลากันประมาณ 2 เดือนตั้งแต่จองยันโอน

 


3. ตารางชีวิตเต็มมากๆ เพราะกลับมาวันแม่แค่อาทิตย์เดียว และยังคงต้องทำงานตามปกต

 


4. โอกาสที่เห็นต้องตัดสินใจทันที แน่ใจแล้วหรอว่ามันเป็นโอกาสจริง?

 


5. โอกาสไม่น่าจะรอจนผมกลับมาไทยอีกครั้ง ถ้าจะเอาผมต้องจัดการเลย

 

 

ผมเหมือนอยู่บนทางแยก ทางแรกคือบอกตัวเองว่าไม่ไหว ทำไม่ทันชัว อีกทางคือคิดสิ โอกาสอยู่ตรงหน้า อย่าปล่อยไป! ผมตัดสินใจเป็นคนใจร้อนครับ" และวางแผนทลายความท้าทายทีละข้อทันที

 

 

หลังจากไปดูคอนโดตอนบ่าย คืนวันศุกร์ผมนั่งหาข้อมูลเพิ่มตลอดคืน จนมั่นใจ ลงละเอียดของแผนการครอบครอง เพราะผมมีเวลาแค่ถึงวันศุกร์ถัดไป  ผมประเมินเบื้องต้นได้ราคาที่ลงทุนได้ในใจ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาต่อรอง ประเมินแหล่งเงินพบว่าเครดิตไม่น่ามีปัญหา ประเมินระยะเวลาการทำสินเชื่อ ดึงลิสของสุดยอดสินเชื่อที่เคยทำงานด้วย ที่สามารถปิดเกมใน 1 อาทิตย์และได้ดอกเบี้ยที่ดี (หลายๆ แบ้ง ทำได้เป็นปกตินะครับ ไม่ต้องใช้กำลังภายในอะไร ถ้าคุณมีสินเชื่อที่ดี รู้งาน ตามงาน และคุณมีเอกสารให้เค้าครบ โดยเฉพาะถ้าคุณซื้อจาก developer ชั้นนำ)

 

 

เช้าวันเสาร์ ผมโทรหา Sales ที่รู้จักกันของ developer X (ไม่ออกชื่อนะครับ เดี๋ยวจะเป็นการโฆษณาไปอีก) โทรไปบอกเค้าว่าผมสนใจคอนโด Y(ชื่อสมมุติ) และถ้าผมได้ราคาที่ผมต้องการ เป็นราคาที่ผมลงทุนได้ ผมพร้อมจองและโอนในอาทิตย์นี้เลย

 

 

ระหว่างที่ผมรอคำตอบจาก Sales ผมไม่รอช้า ยกหูโทรหาสินเชื่อ เพื่อคอนเฟิร์มว่าถ้าผมให้เอกสารวันจันทร์ เค้าขออนุมัติสินเชื่อและโอนเสร็จทั้งหมดในวันศุกร์ ได้ค่ะเดี๋ยวจัดการให้ทัน ดอกเบี้ยเหมือนครั้งก่อน 3.xx% 3 ปีแรก เตรียมเอกสารรอไว้ ข้อมูลทั้งหมดลงตามเดิมนะค่ะ" คำตอบจากสินเชื่อที่ผมมั่นใจ ไม่ทำให้ผิดหวัง 

 

 

จากนั้นผมก็ออกไปเที่ยวไม่ให้เสียตารางครอบครัวที่วางไว้ ตกเย็น Sales โทรกลับมาเสนอราคา "ดีกว่าที่ผมเรียกไป" แต่เงื่อนไขคือต้องวางเงินจองในวันนั้น และโอนภายในสิ้นเดือน ซึ่งผมก็โอเคอยู่แล้ว ยังไงผมก็อยู่ไทยแค่อาทิตย์เดียว  "ไม่รอช้า รีบตอบตกลง และโอนเงินจอง" ยิ้มกว้างเลยครับ ได้ราคาตามที่ต้องการและสินเชื่อยืนยันว่าโอนทัน(ราคาได้ดีเพราะ Sales เค้าเอาผมไปผูกกับ deal ของ Big lot รายนึง)

 

 

วันอาทิตย์ ขับรถกลับจากต่างจังหวัด(ไปเที่ยววันแม่กับครอบครัว) ผมต้องกลับไปที่โครงการก่อน 6 โมงเย็น เพื่อตรวจห้อง ทำสัญญา และเอาเอกสาร ต้องเป็นวันนี้เท่านั้น เพราะเช้าวันจันทร์ผมต้องเอาเอกสารให้สินเชื่อ ช้ากว่านั้นจะลำบาก  ซวยซ้ำ ซวยซ้อน รถติดหนักมาก ผมไปถึงช้ากว่านัดหมายถึง 3 ชั่วโมง ยังดีครับที่เซลเค้ามีน้ำใจรอจน 3 ทุ่ม สุดท้ายผมได้ตรวจห้องและเอกสารทั้งหมดมาตอน 4 ทุ่ม  กว่าจะได้มา เร่งจนผมยุ่งครับ

 

 

เช้าวันจันทร์ ผมเอาเอกสารทั้งหมดไปให้สินเชื่อตามนัด เค้าเตรียมเอกสารทุกอย่างไว้รออย่างดี และด้วยความที่เคยทำสินเชื่อกันหลายครั้งแล้ว เลยคุยง่าย ผมสามารถทำเรื่องทุกอย่างเสร็จได้ตอนเช้าตามแผน

 

 

จากนั้น ผมก็แค่กลับไปทำงานตามตารางปกติที่วางไว้ โทรคุยกับสินเชื่อและฝ่ายโอนของโครงการเพื่อประสานงานบ้างตามสมควร "และแล้ว ผมก็ได้เป็นเจ้าของมันในวันศุกร์"  ทันเวลา (ยิ้มกว้างครับ) และไม่ลืมที่จะโทรศัพท์ไปขอบคุณทีมทุกคน ทั้งสินเชื่อ เซลส์ และฝ่ายโอน

 

เรื่องเล่าทั้งหมด ไม่ได้แสดงว่าผมเก่งอะไรนะครับ เพราะจริงๆ สุดท้ายผมอาจจะมองผิด คอนโดอันนี้อาจจะทำให้ผมขาดทุนในอนาคตก็ได้

 

 

ผมแค่อยากเขียนถึงแง่คิดบางอย่าง

 

1. เมื่อเจอเพชรแท้แล้วต้องใจร้อน

 


2. โอกาสมักมาพร้อมกับความท้าทาย อย่าหยุด จนกว่าจะสำเร็จ

 


3. การลงทุนคือแผนการ อย่าปิดตาเดินและต้องมีราคาในใจ

 


4. ถามหาราคาซื้อที่คุณอยากได้ จะขายไม๊? เป็นเรื่องที่คนขายต้องคิด

 


5. ศึกษาหาข้อมูลเสมอ เพราะเวลาเจอโอกาส คุณจะมีเวลาแค่พอตัดสินใจ 

 


6. การลงทุนคือการเล่นเป็นทีม หาทีมของคุณให้เจอ รักษาเค้าไว้เป็นเพื่อน

 

 

สุดท้าย งานบริษัท กิจกรรมครอบครัว กับการลงทุนทำไปพร้อมกันได้นะครับ ไม่ต้องเลือกอย่างใดอย่างนึง

 

 

Happy-Healthy-Successful ครับ

 

 

 

Salaryman Estator

>> ช่องทางในการติดตามข่าวสาร <<
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @livinginsider ที่นี่

บทความอื่นๆ

livinginsider livinginsider